ตอนที่193 สาวใช้ตัวแสบ97
ฝู้เฟิ่งหยีลุกขึ้นมานั่งพลางพยักหน้าหงึกๆ แล้วพูด “ไปเอามาให้ฉันดูหน่อยป่ะ ถ้าไม่ได้เห็นกับตาแล้วรู้สึกไม่สบายใจ”
เย่เชินหลินลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้องของเขา เขาตั้งใจหารูปขอเด็กคนอื่นที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับโม่เสี่ยวจุนในสมัยเด็กมา ดังนั้นฝู้เฟิ่งหยีก็ไม่มีทางรู้ง่ายว่าเป็นการปลอมแปลง
“ไปที่กระเป๋าหยิบแว่นตามาให้ฉัน!”ฝู้เฟิ่งหยีสั่ง เย่เชินหลินเดินไปหยิบกระเป๋ามา และล้วงเอาแว่นตาของเธอออกมา ฝู้เฟิ่งหยีสวมแว่นตาแล้วนั่งมองภาพถ่ายอย่างจริงจัง พอแชอดูไปสักพักเธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ไม่ใช่!สรุปว่าไม่ใช่!”
“ผมบอกแล้ว คุณแม่ก็ไม่เชื่อ น้องชายของผมต้องยังไม่เป็นอะไร คุณแม่ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะจัดการเรื่องตามหาน้องเอง ส่วนคุณแม่ก็ดูแลสุขภาพให้ดีดี รอวันที่จะได้พบกันอีกครั้งเถอะครับ”
“อืมม”ฝู้เฟิ่งหยีพูดเบาๆ แล้วนำภาพถ่ายนั้นวางไว้ที่ตู้ตรงหัวนอน
แต่ไม่รู้ทำไม ในใจเธอกลับยังรู้สึกตะหงิดๆ ไม่รู้ว่ามันแปลกตรงไหน แลพก็กลับมาคิด ไม่สามารถที่จะปล่อยวางลงได้
“หรือว่าฉันกำลังหลอกตัวเอง ทำให้ตัวเองกลัวอย่างงั้นหรอ?”เธอพูดเงียบๆ
“ใช่ครับคุณแม่กำลังหลอกตัวเองคนเราก็มักจะเป็นแบบนี้แหละครับ เรื่องบางเรื่องมันทำให้คนเรารู้สึกเจ็บปวด ก็คิดว่าเรื่องที่ทำให้เราเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องจริง”
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้น แกออกไปได้แล้ว เลิกขยับไปมาต่อหน้าฉันได้แล้ว ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างกับหอคอยดำเลย เห็นแล้วเหนื่อย”
เย่เชินหลินจงใจขำออกมา “เหอะ เหอะ เป็นเพราะท่านคลอดผมออกมาซะสูงขนาดนี้ ถ้ารู้แต่แรกตอนตั้งท้องก็ทานให้น้อยๆหน่อยสิครับ”
เขาพูดเป็นปกติขนาดนี้ ฝู้เฟิ่งหยียังคิดที่ต่อปากต่อคำกับเขาบอกว่าเขาเป็นไอ้คนใจร้าย ดูท่าครั้งนี้คงไม่ได้ผล คงต้องปล่อยให้เธออยู่คนเดียวสักพัก “โอเคครับ งั้นผมออกไปเดินเล่นก่อน ท่านอยู่เงียบๆสักพักเถอะ แต่ว่าบอกไปแล้วว่าคืนนี้ผมจะนอนที่นี่นานแล้วที่ผมไม่ได้นอนกับคุณแม่”
“ไปเถอะไปเถอะ!”ฝู้เฟิ่งหยีโบกมือ พอเย่เชินหลินเดินไปถึงหน้าประตูเธอก็พูดขึ้นอีก “อ่อใช่แล้ว แกไปเรียกเซี่ยชีหรั่นมาให้ฉันด้วย ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ”
อย่างที่คิดไว้ไม่ผิด แม่ของเขาแก่แล้วแต่ไม่แก่เลย เย่เชินหลินคิดในใจ ว่าดีนะที่ตนเองเตรียมพร้อมมาอย่างดี ไม่งั้นคุณแม่คงไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่
เขาเองก็ไม่ได้พูดความคิดของฝู้เฟิ่งหยีออกมา แค่รับปาก แล้วเดินออกไป
เย่เชินหลินเดินมาถึงหน้าห้องของเซี่ยชีหรั่น มือพึงวางลงไปบนลูกบิดประตู ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า คืนนี้ในห้องของเธอยังมีอีกคนนึงด้วย เขาจะมาเอะอะโผล่เข้าไปเลยก็ไม่ได้
แน่นอนว่าเธอคงไม่โง่โชว์นู่นนี่เพื่อดึงดูดเขาจนมากเกินไป เธอคิดว่าการที่เย่เชินหลินจะยอมรับเธอนั้นมันต้องเป็นขั้นเป็นตอน อาจจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ปากน้อยของโม่เสี่ยวหนงกระดก เธอแบะปากหึ “เขารังแกฉันยังไงน่ะหรอ ก็เขาขี้งกน่ะสิ ฉันแค่ชมว่าพี่หล่อไปหน่อยเดียวเอง เขาก็สั่งฉันห้ามไม่ให้ฉันเข้าใกล้พี่อีก อย่างกับฉันจะคิดอะไรไม่ดีกับพี่งั้นแหละ”
“ฮ่าฮ่า ใช่หรอ?”เย่เชินหลินพอได้ยินเช่นนั้นกลับรู้สึกดีใจ คิดไม่ถึงว่าภายนอกผู้หญิงที่ภายนอกนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดจา จะแอบมาหึงเขาลับหลังแบบนี้ “ใช่ค่ะ!”
“อ่อ ฉันรู้ล่ะ ความคิดเขาไม่ดี เดี๋ยวพี่จะช่วยเธอสั่งสอนเขานะ เอาล่ะเธอเองก็รีบพักผ่อนละกัน พี่จะไปหาเขา”
“พี่เชินหลินคะ!”เย่เชินหลินพึ่งก้าวออกไปไม่กี่ก้าว เสี่ยวหนงก็เรียกเขาไว้ คงไม่ต้องพูดถึงว่าสามคำนี้ดูสนิทสนมมากแค่ไหน
“มีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า เสี่ยวหนง?”
“พี่เชินหลินคะ ฉันชอบพี่จริงๆนะคะแต่ชอบแบบที่ชอบดาราไอดอลอะค่ะ ไม่ได้ชอบแบบชายหญิงแน่นอน พี่รับปากฉันได้ไหมคะ ไม่ว่าพี่เขาจะหึงยังไง จะไม่เกลียดฉันใช่ไหมคะ?”โม่เสี่ยวหนงถามอย่างน่าสงสาร
เย่เชินหลินยิ้มอย่างอ่อนโยน “วางใจเถอะ พี่สาวเธอก็หวังว่าฉันจะชอบเธอ ไม่หวังให้พี่เกลียดเธอหรอก สำหรับเขาแล้ว เธอสำคัญมากนะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่เชินหลิน!พี่พูดแบบนี้ฉันก็วางใจค่ะ ถ้าพี่เกลียดฉัน ฉันคงไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปหรอกค่ะหวีซานซานก็พูดแล้วว่าถ้าฉันโผล่กล้าหน้าออกไปเขาจะไม่เอาฉันไว้แน่ๆฉันกลัวมากจริงๆนะคะ”โม่เสี่ยวหนงยิ่งพูดก็ยิ่งดูน่าสงสารน้ำตาเริ่มคลอเบ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...