ตอนที่ 423 สาวใช้ตัวแสบ 327
“ พี่เขย เขาชื่อซุนตงหมิง ทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ “
“ รู้แล้ว เธอก็ค่อยๆฟื้นตัว เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง ฉันยังมีธุระ ไปก่อนแล้ว เธอจำเบอร์ไว้ “ เย่เชินหลินพูดจบ นำเบอร์ของตัวเองบอกโม่เสี่ยวหนง
เบอร์ของเย่เชินหลิน คนส่วนน้อยมากที่จะมี แต่เขาเห็นโม่เสี่ยวหนงเป็นคนในครอบครัวเขา เพราะฉะนั้นจึงให้เบอร์กับเธอโดยตรง
เขามาเยี่ยมโม่เสี่ยวหนงได้ และยังดีกับเธอแบบนี้ โม่เสี่ยวจุนก็มองเขาไปอีกแบบแล้ว
สามารถดีกับโม่เสี่ยวหนงขนาดนี้ ก็คงดีกับเซี่ยชีหรั่นมากกว่านี้ ผู้ชายก็แบบนี้ มองเห็นถึงความสำคัญของผู้หญิงตัวเอง ถึงจะเห็นความสำคัญของครอบครัวเธอ จะรู้สึกว่าเรื่องของครอบครัวเธอ ก็คือหน้าที่เขา
แม้เขาจะไม่พูดว่าเขาจะทำอะไรกับ ซุนตงหมิงคนนั้น แต่ดูสายตาดุร้ายในพริบตาเดียวของเขา โม่เสี่ยวจุนก็รู้ว่าคนแซ่ซุนนั้น จะโชคร้ายแล้ว
เรื่องนี้เขาไม่ทำ รอโม่เสี่ยวหนงหายดีแล้ว เขาก็จะหาคนแซ่ซุนแก้แค้น
โม่เสี่ยวหนงคือน้องสาวของเขาโม่เสี่ยวจุน น้องสาวไม่ควรโดนรังแกฝ่ายเดียว
เย่เชินหลินกลับบริษัทได้ไม่นาน ห้องผู้ป่วยของโม่เสี่ยวหนง ผู้อำนวยการฝ่าย คุณหมอเอง หัวหน้าพยาบาลต่างๆ ก็มาที่ห้องพักเธอเอง แล้วพูดคำพูดปลอบใจให้เธอสารพัด
โม่เสี่ยวหนงคิด เมื่อคืนยังมีบุคลากรทางการแพทย์บางคน เสียมารยาทกับเธอบ้าง เสียใจภายหลังจริงๆที่ไม่ให้เซี่ยชีหรั่นบอกเรื่องนี้กับเย่เชินหลิน ไม่งั้นเธอก็จะได้โดนดูแลอย่างเจ้าหญิง
“ ประธานสั่งมาเอง ว่าจะให้คุณย้ายไปที่ห้องพิเศษ “ ผู้อำนวยการฝ่าย พูดอย่างเคารพ คำว่าคุณนี้ ทำให้อารมณ์โม่เสี่ยวหนงดีขึ้นมาทันที
โม่เสี่ยวหนงก็ย้ายไปห้องพิเศษอย่างเร็ว นั่นมันห้องสำหรับคนชั้นสูง เงื่อนไขดีกว่าโรงแรมมาก พักที่นั่นไม่เหมือนพักโรงพยาบาล
มองผ่านหน้าต่างของห้อง ยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำของตงเจียง ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข
หลังจากอยู่ในห้อง อย่างเรียบร้อยแล้ว ก็มีคนมาเคาะประตูอีก โม่เสี่ยวจุนตอบคำเดียว ว่าเข้ามา ผู้หญิงที่อายุราวสามสิบเข้ามา พูดกับโม่เสี่ยวหนง : “ สวัสดีค่ะ คุณโม่ ฉันคือพี่เลี้ยง มีคนเชิญฉันมาดูแลคุณ “
โห ! พี่เขยเธอเนี่ย คิดได้รอบคอบจริงๆ เสียดายจริง ที่เขาเป็นแค่พี่เขยเธอ ถ้าเป็นสามีเธอจะดีขนาดไหนเนี่ย ! เสี่ยวหนงคิดในใจ
หลังจากที่พี่เลี้ยงมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมา คือคนที่เย่เชินหลินสั่งให้หลินหลิง ไปเชิญมาเป็นนักโภชนากร ในการดูแลแม่ลูกอ่อน หลังคลอด
แม้เขาจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับผู้หญิงมาก แต่ก็ฟังจาก คุณแม่พูดอยู่บ่อยครั้ง ว่าระหว่างเป็นแม่ลูกอ่อน สำคัญมากแค่ไหน
เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเห็นน้องสาวคนนี้สำคัญ เธอก็ไม่อยากให้ระหว่างนี้ เธอเป็นอะไรแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาช่วยเธอคิดแล้ว และทำหมดแล้ว และลดภาระที่เธอทำงาน แล้วต้องมาสนใจ ดูแลผู้หญิงคนนี้อีก
แน่นอน เขาก็หวังว่าผู้หญิงของเขา จะอยู่กับเขาบ่อยๆ ก็ไม่ต้องไปเจอผู้ชายบางคนแล้ว
“ โม่เสี่ยวหนง ! “ หลังจากที่พี่เลี้ยงออกไป โม่เสี่ยวจุนก็เรียกเธออย่างจริงจัง
“ พี่เสี่ยวจุน มีเรื่องอะไร ? “ โม่เสี่ยวหนงถามอย่างแปลกใจ
“ สิ่งที่เธอได้ทั้งหมดตอนนี้ ก็เพราะชีหรั่น อย่าลืม ว่าเป็นคนต้องรู้จักเพียงพอ และมีใจที่ขอบคุณ ใช่ของตัวเองถึงจะรับ ไม่ใช่ของตัวเองก็อย่าโลภมาก “ โม่เสี่ยวจุนพูดให้เธอฟัง ด้วยสีหน้าที่เย็นชา และคำพูดที่มีความหมายลึกซึ้ง
สีหน้าของโม่เสี่ยวหนงก็ไม่ดีใจขึ้นมาทันที ถามกลับเขา “ พี่เสี่ยวจุน พี่พูดอะไรเนี่ย ? ฉันไม่มีใจที่ขอบคุณตรงไหน ? แล้วฉันโลภอะไรอีก ? “
“ ความคิดเธอคืออะไร ในใจก็น่าจะชัดเจนดี และไม่ต้องการให้ฉันอธิบาย ชีหรั่นคงจะไม่เข้าใจเธอ นั่นเป็นเพราะเธอมีความเมตตามากเกินไป เย่เชินหลินคงมองเธอไม่ออก เป็นเพราะเธอดูแล้ว ยังคงใสซื่อ และไม่มีความคิดอะไร แต่ฉันมองเธอโตมาตั้งแต่เด็ก เธอจำไว้ แม้เธอกับชีหรั่นจะเป็นน้องสาวของฉันทั้งสอง ฉันไม่มีทางอนุญาตให้เธอมีความคิดไม่ดีกับเธอ เธอดีกับเธอขนาดนี้ ถ้าเธอมีความคิดไม่ดี เธอก็จะโดนฟ้าผ่าแน่ ! ฉันก็ไม่ปล่อยเธอไป ! “
โม่เสี่ยวหนงก็แค่ คิดออกมาเท่านั้น เธอยังไม่ทำอะไร ก็โดนโม่เสี่ยวจุน ด่าว่าอย่างไม่เห็นแก่เธอ ในใจรู้สึกไม่สบายจริงๆ
“ หมายความว่ายังไง โม่เสี่ยวจุน พ่อแม่ฉันเลี้ยงพี่มาหลายปีนี้ พี่ไม่รู้สึกขอบคุณกับพวกเขาเลยหรอ ? อะไรเรียกว่าพวกฉันเป็นน้องสาวพี่ทั้งสองคน อย่าลืมว่าพ่อแม่ฉันเป็นคนเลี้ยงพี่ พี่ก็ควรดีกับฉันหน่อยไม่ใช่หรอ ? เซี่ยชีหรั่นทำอะไรกับพี่กันแน่ ? เธอก็แค่สวยกว่าฉันนิดเดียวไม่ใช่หรอ ? ทำให้พี่ต้องเข้าข้างเธอขนาดนี้หรอ ? ฉันไม่ทำอะไรกับเธอสักหน่อย ฉันก็แค่อิจฉาที่เธอมีคนที่รักเธอ ก็ไม่ได้งั้นหรอ ? พี่พูดแบบนี้ก็เกินไป ! พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันอยู่ในช่วงหลังคลอดหรอ ? พี่มาดูแลฉันจริงหรอ ? “
เซี่ยชีหรั่น .... ในใจโม่เสี่ยวจุนคิดถึงชื่อนี้ ได้ยินเธอเป็นห่วง อย่าพูดว่าเขาจะไม่ชินเลย แม้จะมี หมัดนั้นเพื่อเธอ เขาก็ดีใจ
“ หัวฉันไม่ได้ทำจากกระดาษ อีกอย่างแม้เขาจะเป็นแบบนั้น ตอนลงมือก็ยังมีขอบเขต ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น “
เซี่ยชีหรั่นได้ยินโม่เสี่ยวจุนพูดแบบนี้ ก็รู้สึกไว้ใจลงมาเล็กน้อย แต่เธอก็ยังรู้สึกแปลก จนถึงตอนนี้ บางครั้งก็ยังรู้สึกว่าพวกเขาคือพี่น้องแท้ แม้จะรู้ว่าเธอเข้าใจผิดเอง เธอก็ยังลืมไม่ลง
เห็นพวกเขามีปัญหากัน ในใจเธอก็รู้สึกไม่สบายนัก เหมือนว่าพี่น้องกัน กำลังฆ่ากันเอง เห้อ ! บางทีเสี่ยวจุนพูดถูก เธอเป็นคนที่มีนิสัยดึงดันจริงๆ ชอบสนใจแต่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ตอนเช้า เซี่ยชีหรั่นบังคับให้ตัวเอง นำกะจิตกะใจไปไว้ในงาน งานแถลงการขายของเครื่องเพชรพลอยครั้งนี้ เป็นงานระดับใหญ่ ต้องการเชิญดาราดังมาช่วย
เซี่ยชีหรั่นไม่ค่อยติดตาม ข่าวที่นิยม ดาราใหญ่ที่เธอรู้จักก็คงมีแค่อี๋ปิงแล้ว อี๋ปิงนั้น เธอเคยใกล้ชิดครั้งหนึ่ง ไม่พูดถึงความประทับใจที่เธอให้เธอ เธอกำลังทำงาน ไม่คุยเรื่องความประทับใจตัวเอง ต้องการคิดในทางวัตถุประสงค์ พูดถึงข้อดีที่บริษัทจะได้รับก่อน หลักหลักคือต้องการอี๋ปิง เธอก็ยังคิดถึงเรื่องที่เธอนั้นเคยมีความสัมพันธ์กับเย่เชินหลิน
กิจกรรมครั้งนี้ สุดท้ายคงจะเป็นคนที่แซ่เย่อนุมัติ เพราะยังไงเป็นงานใหญ่ของวันคริสต์มาสท้ายปี เธอต้องคิดถึงทุกรายละเอียด พอถึงเวลา ไม่อยากให้งานที่พยายาม โดนคนแซ่เย่ปฏิเสธ
เวลาทั้งเช้า เซี่ยชีหรั่นใช้เวลามาตรวจหาข้อมูล รู้สึกเสียใจภายหลังทันที ที่ไม่ติดตามดาราเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ตอนนี้แม้แต่ชื่อของดารายังไม่รู้ จึงได้แค่เหมือนหาเข็มในท้องทะเล
เวลาทั้งเช้าผ่านไป ถึงตอนกลางวัน เวลาเลิกงานมาถึง เธอก็ไม่สนเรื่องทานข้าว แล้วรีบไปโรงพยาบาลโดยตรง
เธอแค่ออกจากหน้าประตู ก็จะโดนคนขับรถที่เย่เชินหลินส่งมา ตามเธอ เขาเอาเงินเดือนจากเย่เชินหลิน ไม่รายงานเรื่องของเธอก็แปลกสิ
เพราะฉะนั้นเธอก็ตัดสินใจเดินทางเดิม ไปทางหลังประตู
ในบริษัทมีห้องอาหารใหญ่ บริการให้อาหารสามมื้อแก่พนักงาน มื้อกลางวันให้ตามจำนวน มื้อเช้ามื้อเย็นแค่สมัครลงทะเบียน ก็สามารถกินฟรี
อีกอย่างอาหารของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปก็ดีมาก พนักงานทุกคนก็ได้เท่ากัน ไม่แบ่งชนชั้น เพราะฉะนั้นพนักงานก็จะไม่ไปทานอาหารข้างนอก จะร่วมกันทานข้าวในห้องอาหารด้วยกัน
ไม่ว่าหน้าประตู หรือหลังประตู ตอนนี้ก็สงบหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
พิมพ์คำหรือประโยคตกไปเยอะคะ อ่านแล้วงงคะ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ...