สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1107

บทที่ 1107 ตอนพิเศษ (11)

บทที่ 1107 ตอนพิเศษ (11)

พี่สะใภ้หยางคลอดยาก ขณะที่กำลังเจ็บกาย ภายในใจก็พลอยเจ็บปวดไปด้วย อย่างไรเสียนั่นก็เป็นลูกที่นางอุ้มท้องมาสิบเดือน ไม่เพียงแต่ซ่งซื่อผู้เป็นแม่สามีเท่านั้นที่กังวล เพราะนางผู้เป็นแม่แท้ ๆ กังวลยิ่งกว่า

ถึงกระนั้น ยามนางได้ยินซ่งซื่อถามถึงเพียงเด็ก อีกทั้งเมื่อครู่นี้ยังได้ยินเสียงซ่งซื่อบอกให้หลิวจิ่วจู๋รักษาเด็กไว้ดังมาจากข้างนอก ภายในใจก็รู้สึกเศร้าโศกเป็นอย่างยิ่ง

โชคดีที่น้องสามีมีน้ำใจต่อนาง สุดท้ายนางจึงรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาบ้าง

หลิวจิ่วจู๋เอ่ยกับหยางชิงซือที่อยู่ข้าง ๆ “ข้าปรับตำแหน่งทารกแล้ว เพียงแต่พี่สะใภ้ไม่มีแรงเลย”

“พี่สะใภ้ ท่านอดทนอีกหน่อยเถอะ” หยางชิงซือเอ่ยกับพี่สะใภ้หยาง “ท่านคิดดูสิ ลูกท่านจะต้องคลอดออกมาอย่างแน่นอน หากท่านไม่อยู่แล้ว พี่ชายข้าไม่มีทางไม่แต่งผู้อื่นเป็นแน่! เด็กที่มีแม่เลี้ยงในหมู่บ้านน่าสงสารเพียงใด ท่านก็เห็นมามาก หากท่านไม่อดทน พี่ชายข้าแต่งผู้อื่นมา สตรีอื่นก็จะมาทุบตีลูกที่ท่านคลอดมาอย่างยากเย็น ยิ่งหากเป็นลูกสาว แม่เลี้ยงคิดจะขายอย่างไรก็ขายอย่างนั้น เช่นเดียวกับจู๋จืออย่างไรเล่า”

พี่สะใภ้หยางได้ยินดังนี้ก็ฮึดสู้ขึ้นมา

ลูกที่นางแลกชีวิตคลอดมา ผลที่ได้คือต้องถูกผู้อื่นขายไป นี่ไม่อาจยอมรับได้เป็นอันขาด

“โอ๊ยยยย…” พี่สะใภ้หยางออกแรงเบ่ง

ยามนี้นางเหงื่อแตกพลั่ก ๆ สีหน้าดูเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ความอดทนอดกลั้นในดวงตากลับไม่เคยสั่นคลอน

เพื่อลูกแล้ว นางทนได้

ลูกของนาง นางจะต้องปกป้องเอง ไม่อาจทิ้งไว้ให้เขาต้องได้รับความน้อยอกน้อยใจเป็นอันขาด

“อุแว้… อุแว้…” เด็กน้อยเปล่งเสียงร้องไห้ออกมา

ข้างนอกห้อง ซ่งซื่อได้ยินเสียงจึงยกมือขึ้นคำนับขอบคุณเทพยดาฟ้าดินบนสวรรค์

“อมิตตาพุทธ ขอบคุณพระโพธิสัตว์ ขอบคุณพระโพธิสัตว์ยิ่ง”

หยางฟู่เอ่ยถาม “เป็นลูกชายหรือลูกสาว?”

“จักต้องเป็นลูกชายแน่ ๆ” ซ่งซื่อเอ่ยอย่างกังวล “ใช่หรือไม่นังหนู?”

หยางชิงซือเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “ไม่รู้ ไม่เห็น”

“พึ่งออกมาจากท้อง ทั้งร่างเปลือยเปล่า จักไม่เห็นได้อย่างไร? เจ้าเด็กคนนี้ หากยังไม่พูดความจริง พวกเราจะเข้าไปแล้วนะ!” ซ่งซื่อเอ่ยพลางทำท่าจะเปิดประตู

“ท่านแม่ ตอนนี้เข้าไปไม่ได้นะขอรับ” พี่ใหญ่หยางรีบรั้งมารดาไว้ “อีกอย่าง ในห้องคลอดก็เละเทะ ไม่อาจเสียมารยาทต่อแขกนะขอรับ”

ซ่งซื่อเหลือบมองลู่ฉาวจิ่งแวบหนึ่ง แล้วยิ้มแหย ๆ “นี่ไม่ใช่เพราะข้าดีใจเกินไปหรือไร!”

หยางชิงซือกล่าวกับพี่สะใภ้หยาง “พี่สะใภ้ ท่านอย่าได้ถือโทษโกรธเคือง ท่านแม่ข้าก็เป็นเช่นนี้”

“เป็นลูกสาวกระมัง!” พี่สะใภ้หยางกล่าว “ข้าได้ยินเสียงเล็ก ๆ ไม่เหมือนเสียงเด็กผู้ชาย”

“พี่สะใภ้ ท่านก็เกี่ยงว่าเป็นลูกชายลูกสาวหรือ!” หยางชิงซือไม่พอใจ “พวกเราล้วนเป็นสตรีนะ ลูกสาวแล้วอย่างไร?”

“แน่นอนว่าข้าชอบลูกของตน เพียงแต่…” ซ่งซื่อจะต้องไม่ชอบใจเป็นแน่

หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “พี่สะใภ้ ท่านอย่าได้คิดมาก เดิมทีท่านก็คลอดยาก เด็กคนนี้กว่าจะคลอดออกมาก็ไม่ง่ายดาย ยามนี้ปลอดภัยทั้งแม่และลูกแล้ว ท่านควรจะยินดี หากแม่ข้าตอนนั้นเข้มแข็งอย่างท่าน นางอาจจะรอดก็เป็นได้”

“จู๋จือ หากวิญญาณแม่เจ้าบนสวรรค์รับรู้ จะต้องภูมิใจในตัวเจ้าเป็นแน่ ดูสิเจ้าเก่งเพียงใด เจ้าช่วยพี่สะใภ้กับหลานสาวของข้าไว้ได้ หากไม่มีเจ้า วันนี้พวกนางแม่ลูกจะต้องไม่รอดเป็นแน่”

“ใช่แล้ว จู๋จือ” พี่สะใภ้หยางกล่าว “เมื่อครู่ข้าคิดว่าตนจะตายไปแล้วจริง ๆ โชคดีที่พวกเจ้ามา ข้าจึงมีความมั่นใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ลูกสาวก็ดี ข้าชอบลูกสาว”

ซ่งซื่อยังคงพูดไม่หยุดปากอยู่ข้างนอก บอกว่าต้องการเข้ามาหาหลานชาย ทั้งยังถามอีกว่ามีน้ำนมหรือไม่ หลานชายของนางอดตายหรือเปล่า…

หลิวจิ่วจู๋เอ่ยถามหยางชิงซือ “ตอนนี้จะทำอย่างไรดี? ข้าว่าน้าซ่งคงคิดไปถึงขั้นจะจัดงานเลี้ยงครบเดือนให้หลานชายอย่างไรแล้ว”

“เด็กผู้หญิงคนหนึ่งมีอะไรให้ต้องยินดีกัน? คลอดเด็กผู้หญิงออกมาหนึ่งคนแล้วยังจะส่งไข่ไป นั่นจะไม่ทำให้คนขบขันหรือ?” ซ่งซื่อไม่สบอารมณ์ “พอแล้ว แม่นางน้อยผู้หนึ่งอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร? ที่นี่ไม่ต้องให้เจ้ามาร่วมผสมโรง”

“เด็กผู้หญิงแล้วอย่างไร? เด็กผู้หญิงไม่ใช่คนหรือ? ท่านไม่ใช่ผู้หญิงหรือ?”

“หยางชิงซือ เจ้าคันปากแล้วหรือ? บ้านนี้ยังเป็นพวกเราผู้เฒ่าทั้งสองตัดสินใจ เจ้ายุ่งไม่ได้!”

“เรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากัน เงินค่าทำคลอดของจู๋จือวันนี้ไม่อาจขาด เพราะหากภายหน้าพี่สะใภ้คลอดลูกคนที่สอง จู๋จือคงไม่ยินดีทำคลอดให้ อีกอย่าง พวกท่านยังจ่ายราคาสูงจ้างหมอตำแยไร้ประโยชน์มา ทำร้ายผู้อื่นแล้วยังจะทำร้ายตนเองอีก”

“ได้ พวกเราให้ก็สิ้นเรื่อง”

ซ่งซื่อได้ยินดังนั้นก็รู้ว่าไม่อาจตระหนี่เงินเล็กน้อยนี้ได้ ไม่เช่นนั้นหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก แล้วหลิวจิ่วจู๋ไม่ยินดีมา พวกเขาคงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วจริง ๆ ถึงแม้ตอนนี้นางจะคลอดลูกสาว ทว่าอย่างน้อยนางก็รอดมาได้ หากรักษาผู้ใหญ่ไว้ไม่ได้ พวกเขายังต้องแต่สะใภ้ใหม่เข้ามา เช่นนั้นยิ่งต้องเสียเงินมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อคิดเช่นนี้ เงินค่าทำคลอดเล็กน้อยนั่นก็ควรให้จริง ๆ

หลิวจิ่วจู๋จัดการข้าวของข้างในเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาอย่างเหนื่อยล้า

“พวกท่านดูแลพี่สะใภ้ให้ดี คราวนี้นางได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรเร่งตั้งท้องลูกคนที่สอง มิเช่นนั้นจะส่งผลเสียต่อร่างกายมารดา”

“จิ่วจู๋ เมียเจ้าใหญ่ยังคลอดลูกได้กระมัง?” ซ่งซื่อได้ยินดังนั้นก็เริ่มร้อนใจ

หลิวจิ่วจู๋พยักหน้า “แน่นอนว่าได้ เพียงแต่ต้องได้รับการบำรุง ไม่อาจรีบร้อนตั้งครรภ์”

“ขอเพียงยังคลอดได้ก็ดี” ซ่งซื่อพูดพึมพำ “เป็นแค่หญิงชาวไร่ชาวนาเหตุใดบอบบางเพียงนี้? อย่างมากช่วงนี้ข้าก็จะปล่อยให้นางอยู่เดือน ไม่ให้นางไปทำงานในไร่ในสวน”

ลู่ฉาวจิ่ง “…”

เขาไม่เคยทุบตีสตรีมาก่อน ทว่ายามนี้หมัดเขากลับคันยุบยิบขึ้นมาแล้ว

เพื่อที่จะระงับอารมณ์ตนเอง ลู่ฉาวจิ่งจึงเอ่ยเร่งหลิวจิ่วจู๋ “จิ่วเอ๋อร์ กลับกันเถอะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย