สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 1108

บทที่ 1108 ตอนพิเศษ (12)

บทที่ 1108 ตอนพิเศษ (12)

หลิวจิ่วจู๋ก็เหนื่อยแล้วเช่นกันจึงกำชับกับหยางชิงซือสองสามคำแล้วตามลู่ฉาวจิ่งกลับไป

ตอนที่ซ่งซื่อยื่นเงินค่าทำคลอดให้ หลิวจิ่วจู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็รับไว้

ด้วยความสัมพันธ์ของนางกับหยางชิงซือ นางไม่จำเป็นต้องรับเงินนี้มา อย่างไรก็ตาม การกระทำของซ่งซื่อทำให้นางรังเกียจเป็นอย่างมาก นางจึงยอมรับเงินนี้มาก่อน ภายหน้าค่อยซื้อของอร่อย ๆ ให้สหายทาน ไม่คิดจะเอาเปรียบ

ซ่งซื่อเห็นหลิวจิ่วจู๋ยอมรับไปก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

นางยังคิดว่าหลิวจิ่วจู๋จะไม่ยอมรับเงินเสียอีก!

หยางชิงซือที่อยู่ข้าง ๆ บ่น “ท่านให้หมอที่ทำคลอดไม่ได้ห้าสิบอีแปะ แต่ให้จู๋จือของเราเพียงสิบอีแปะหรือ? นางช่วยชีวิตพี่สะใภ้กับหลานสาวตัวน้อยของข้าไว้ ท่านแม่ ท่านทำเช่นนี้ต่อไป ภายหน้าจู๋จือคงไม่ช่วยเราแล้ว!”

“เจ้าเด็กเหม็นโฉ่ผู้นี้ พี่สะใภ้เจ้าเจ็บตัว ข้าต้องซื้อของอร่อย ๆ ให้นาง บำรุงนาง นั่นไม่รู้ต้องใช้เงินเยอะเพียงใด” สิ้นคำ ซ่งซื่อก็หันไปเอ่ยกับหลิวจิ่วจู๋ “จิ่วจู๋ ไม่ใช่น้าตระหนี่อะไรหรอก เจ้าก็รู้ว่าข้ามีเงินไม่มาก เริ่มแรกข้าก็คิดจะไปหาเจ้า เพียงแต่คนผู้นั้นเป็นญาติทางฝั่งข้า ข้าปฏิเสธไม่ได้ ผู้ใดจะรู้ว่าเชื่อถือไม่ได้เพียงนี้ นางเกือบจะฆ่าลูกสะใภ้ข้า ต้องขอบคุณเจ้าแล้วจิ่วจู๋!”

หลิวจิ่วจู๋ยิ้มน้อย ๆ “ขอเพียงพี่สะใภ้กับลูกปลอดภัย เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ เช่นนั้นพวกข้าไปก่อนล่ะ พวกท่านดูแลพี่สะใภ้กับลูกให้ดีเถอะ!”

ออกมาจากบ้านสกุลหยางไม่ไกลนัก ขาของหลิวจิ่วจู๋พลันอ่อนเปลี้ยขึ้นมา นางนั่งยอง ๆ ลงไป

“เป็นอะไรไป?” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ยถาม

“ข้ากลัว” หลิวจิ่วจู๋สะอึกสะอื้น “ตอนนั้นข้ากลัวจริง ๆ ข้าคิดถึงท่านแม่ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้และลูก”

“เจ้าทำได้ดีมาก ทั้งแม่และลูกไม่เป็นไรแล้ว เป็นเจ้าที่ช่วยพวกเขาแม่ลูกไว้” ลู่ฉาวจิ่งนั่งยอง ๆ ลงไป “มา ข้าจะแบกเจ้ากลับ”

“อาการบาดเจ็บที่เท้าของเจ้ายังไม่หายดีนะ!”

“หายดีเจ็ดแปดส่วนแล้ว เจ้าเบาเพียงนี้ ข้าแบกเจ้าได้ไม่มีปัญหา” ลู่ฉาวจิ่งเร่งนาง

หลิวจิ่วจู๋พิงลงไปบนหลังลู่ฉาวจิ่ง ในใจนางรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง

ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมามองดูทั้งคู่ด้วยสายตาแปลก ๆ

“สามีภรรยาคู่นี้ไม่รู้จักอายจริง ๆ” ตาเฒ่าไร้คู่ที่เดินผ่านมาเอ่ยอย่างขบขัน เดิมทีคิดจะพูดตลกหยาบโลนสักสองสามคำ ทว่าเมื่อสบตาลู่ฉาวจิ่ง ลำคอเขาพลันรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาจึงวิ่งหนีไปโดยเร็ว

ดาวมารดวงนี้ล่วงเกินไม่ได้ เหตุใดเขาจึงลืมเรื่องสำคัญเช่นนี้ไปได้เล่า?

ลู่ฉาวจิ่งแบกหลิวจิ่วจู๋มาตลอดทาง พบเจอชาวบ้านไม่น้อย บางคนอิจฉา บางคนนินทาว่าร้าย

ลู่ฉาวจิ่งไม่สนใจ หลิวจิ่วจู๋ก็ไม่สนใจเช่นกัน

อย่างไรเสีย…

นางก็ผล็อยหลับไป

ลู่ฉาวจิ่งรู้สึกว่าแม่นางน้อยบนหลังหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งลมหายใจที่รดต้นคอเขาก็ร้อนยิ่ง ทำให้คันยุบยิบ แก้มชายหนุ่มค่อย ๆ แดงเรื่อขึ้นมาแล้ว

ลมพัดปลิวมาวูบหนึ่ง อาการเห่อร้อนบนใบหน้าเขาจึงทุเลาลงบ้าง

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็วางนางลงบนเตียง

แม่นางน้อยหลับลึก ถึงแม้เขาจะวางนางลง ทั้งยังถอดรองเท้าออกให้ นางก็ยังไม่รู้สึกตัว

ลู่ฉาวจิ่งส่ายหัว

นี่จะไม่ระวังตัวเกินไปแล้ว

หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น คงไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษถึงเพียงนี้ แม่นางน้อยคงต้องเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวงแล้ว

เพียงแต่สตรีผู้นี้โง่เขลาอยู่เล็กน้อย ทว่ากลับโชคดีไม่เลว เลือกผู้ใดย่อมไม่ดีเท่าเลือกเขา

ลู่ฉาวจิ่งห่มผ้าให้นาง แล้วเดินออกไปผ่าฟืนที่ลานบ้าน

ฟืนไม่เพียงพอให้ใช้แล้ว

“ท่านแม่ อย่า… อย่าไป… ท่านแม่…”

เสียงร้องแว่วออกมาจากหน้าต่าง

ลู่ฉาวจิ่งรีบวางขวานในมือลง จากนั้นก็เช็ดด้วยผ้าที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปในห้อง

“เป็นอะไรไป?”

หลิวจิ่วจู๋กำลังละเมอ

ลู่ฉาวจิ่งผลักนางเบา ๆ “จิ่วเอ๋อร์ เจ้ากำลังฝันร้าย”

จู่ ๆ หลิวจิ่วจู๋ก็กอดลู่ฉาวจิ่ง ลากเขาล้มลงไปบนเตียง

หญิงสาวค่อย ๆ ย่องออกไป

อย่างไรก็ตาม…

นางอยู่ในท่านั้นนานเกินไป เท้าจึงชา นอกจากนี้นางกะระยะไม่ดีเท่าใดนักจึงลื่นไถลล้มลงบนร่างของลู่ฉาวจิ่ง

หลิวจิ่วจู๋ยกมือขึ้นปิดปาก ตามองลู่ฉาวจิ่งอย่างตื่นตระหนก

ผ่านไปเนิ่นนาน แต่ลู่ฉาวจิ่งไม่มีทีท่าจะขยับตัว

หลิวจิ่วจู๋นึกประหลาดใจ “คนผู้นี้เหตุใดจึงหลับลึกถึงเพียงนี้?”

ทว่าโชคดีที่หลับลึก ถึงได้ไม่สังเกตเห็นท่าทางที่น่ากระอักกระอ่วนในยามนี้ของพวกเขา

หลังจากหลิวจิ่วจู๋ออกไปแล้ว ลู่ฉาวจิ่งก็ลืมตาขึ้นมา

เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งช้า แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

ฟ้ามืดแล้ว เขาต้องไปเก็บฟืนเหล่านั้น นอกจากนี้ พวกเขายังไม่ได้ทานมื้อค่ำ ตอนนี้จึงเริ่มหิวขึ้นมา

“เจ้าตื่นแล้วหรือ” หลิวจิ่วจู๋กำลังเก็บสมุนไพร เมื่อเห็นเขาออกมาจึงกล่าวทักทายอย่างรู้สึกผิด “ข้านอนเกินเวลา ยังไม่ได้ทำอาหาร รอประเดี๋ยว ข้าจะทำน้ำแกงง่าย ๆ ให้กิน ไม่นานก็ได้กินแล้ว”

“ไม่รีบร้อน ข้ายังไม่หิว” ลู่ฉาวจิ่งขนฟืนเข้าไปในโรงเก็บฟืน

หลิวจิ่วจู๋มองตามเงาร่างชายหนุ่ม “คนผู้นี้นิสัยดียิ่งนัก”

หลิวจิ่วจู๋จัดแจงเก็บยา จากนั้นก็เข้าครัวไปทำน้ำแกงให้เขาทันที

ลู่ฉาวจิ่งนั่งอยู่หน้าเตากำลังก่อไฟ

เริ่มแรกเขาก่อไฟไม่เก่งนัก ทว่าตอนนี้เขาเริ่มคุ้นชินขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ชายหนุ่มมองนิ้วที่ถูกเสี้ยนจากฟืนแทง จู่ ๆ ก็รู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย

“เป็นอะไรไป?” หลิวจิ่วจู๋มองเขาด้วยความงุนงง แล้วเอ่ยถาม

“ไม่มีอะไร” ลู่ฉาวจิ่งส่ายหัว “เพียงแค่คิดถึงครอบครัว ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

“ใช่แล้ว พรุ่งนี้เราเข้าเมืองไปขายตัวยา ระหว่างนั้นก็ส่งจดหมายให้ครอบครัวเจ้าเถอะ! อีกประเดี๋ยวเจ้าก็เขียนจดหมายเสีย” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย

“ได้” ลู่ฉาวจิ่งตอบรับ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย