บทที่ 298 ลู่เซวียน เจ้าดีใจหรือไม่?
บทที่ 298 ลู่เซวียน เจ้าดีใจหรือไม่?
ลู่เซวียนแบกฉู่หนิงจูออกมาจากห้องตำราเจ้าสำนัก ส่งนางกลับไปยังที่พักของนาง
ท่านเจ้าสำนักก็เป็นห่วงนางเช่นกัน ห้องที่เขาจัดไว้ให้ไม่ใช่ห้องของลูกศิษย์ทั่วไป แต่เป็นห้องที่อาจารย์เคยอยู่ สภาพแวดล้อมจึงเงียบสงบไร้สิ่งรบกวน
ลู่เซวียนวางนางลงบนเตียง
“อีกประเดี๋ยวท่านหมอก็จะมาแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่ อย่าเดินเพ่นพ่านไปทั่ว”
“ข้อเท้าของข้าแพลง เพียงแค่ใส่ยาสักหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเชิญท่านหมอมาก็ได้” ฉู่หนิงจูมองลู่เซวียนแล้วถามว่า “ลู่เซวียน เจ้าดีใจหรือไม่?”
“ดีใจ?” ลู่เซวียนเงยหน้ามองนาง “เหตุใดข้าต้องดีใจ?”
“คนเหล่านั้นเอาแต่สร้างปัญหาให้เจ้า บัดนี้ท่านเจ้าสำนักขับไล่พวกเขาออกไปแล้ว เจ้าไม่ดีใจหรือ?” ฉู่หนิงจูเอ่ยถาม
“ลำพังนิสัยใจคอและความสามารถของพวกเขา ถึงจะไม่ทำเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ ตอนนี้เพียงแค่สิ่งที่พวกเขาเพ้อฝันสิ้นสุดเร็วขึ้นก็เท่านั้น ไม่มีอะไรน่ายินดี ส่วนเจ้า ไม่ว่าผู้อื่นจะเอ่ยอย่างไร เจ้าเพียงแค่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินไป เหตุใดต้องไปตอบโต้กับพวกเขา? ถูกด่าทอสองสามคำแล้วอย่างไร จะเสียเนื้อสักชิ้นไปไม่ได้เชียวหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นชายหลายคน เจ้าคนเดียวเป็น… อย่างไรเสีย หากภายหน้าเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก เจ้าจะต้องหนีออกมาทันที”
“อ้อ” ฉู่หนิงจูถูกเทศนาเช่นนี้ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
นึกว่าไล่ผีสองสามตัวนั้นไปได้แล้วเขาจะมีความสุข สุดท้ายกลับยังมองนางไม่ดีเช่นเคย
“เจ้าเกลียดข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
นางพึมพำกับตนเอง ไม่หวังว่าลู่เซวียนจะตอบนาง เพียงแต่บ่นกับตนเองอย่างเศร้าใจเท่านั้น
ครั้นลู่เซวียนเห็นเช่นนั้น ความไม่สบายใจก็แวบผ่านแววตาของเขา “ข้าไม่ได้โกรธเจ้า”
“ข้าทำเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้ากลับไม่ซาบซึ้งเสียนี่”
ฉู่หนิงจูเศร้าใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ข้าทำให้คนไม่ชอบถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ข้าเพียงแค่อยากดีกับเจ้า”
“อันตรายเกินไป” ลู่เซวียนลูบหัวของนางเบา ๆ “ตั้งแต่ข้ายังเด็ก ข้าได้ยินคำพูดเลวร้ายยิ่งกว่านี้มามากมาย หากข้าไปโต้เถียงกับอีกฝ่ายทุกครั้ง เกรงว่าจะถูกคนตีตายไปนานแล้ว พื้นเพของเจ้าคงดีไม่น้อย คงมีแต่คนคอยประจบเอาใจเจ้า ถึงแม้จะล่วงเกินผู้อื่นก็มีคนคอยจัดการให้เจ้า แต่อยู่ที่นี่ไม่มีครอบครัว ไม่มีคนคอยหนุนหลัง หากถูกคนรังแก ผู้ใดจะปกป้องเจ้าได้ ข้าก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายอย่างที่เจ้าคิด”
“ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาปกป้องข้าเสียหน่อย!” ฉู่หนิงจูเงยหน้าขึ้น “เจ้าดูนี่…”
นางสั่นกำไลบนข้อมือนาง
“เจ้าคิดว่านี่เป็นกำไลธรรมดาทั่วไปหรือ? นี่เป็นอาวุธลับ” ฉู่หนิงจูกดปุ่มบนกำไล “หากข้าตกอยู่ในอันตราย เพียงแค่ข้ากดปุ่ม ข้าก็จะยิงเข็มพิษออกไปได้ ถึงแม้ว่ามันจะฆ่าคนไม่ได้ ทว่ามันสามารถทำให้แขนขาหมดเรี่ยวแรง ทำอันตรายกับข้าไม่ได้ และยังมีนี่…”
นางยกเท้าข้างที่ไม่บาดเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าคิดว่านี่เป็นรองเท้าธรรมดา ๆ งั้นหรือ? ในรองเท้าก็มีอาวุธลับเช่นกัน ยังมีปิ่นบนหัวข้า ยังมีสร้อยที่สวยงามรอบคอข้านี้อีก หากไม่มียาก็มีอาวุธลับ มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าจะมายังสถานที่ห่างไกลจากเมืองหลวงนี้ได้อย่างไร?”
“เมื่อครู่หากเจ้ามาไม่ทัน ข้าคงใช้อาวุธลับ ให้พวกเขารู้ว่าจะมายุ่งกับข้าไม่ได้ง่าย ๆ เดิมทีข้าไม่อยากสร้างปัญหา แต่พวกเขากลับมายั่วยุข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจพวกเขาแล้ว”
“อาวุธลับของเจ้าจัดการคนได้กี่คนกัน?” ลู่เซวียนถาม “พวกเขามีกี่คน อาวุธลับของเจ้าจัดการคนได้ถึงสี่คนในเวลาเดียวกันหรือ?”
ฉู่หนิงจูนิ่งเงียบ
“ย่อมไม่ได้ใช่หรือไม่?” ลู่เซวียนเข้าใจถ่องแท้แล้ว “ต่อไปนี้อย่าสร้างเรื่องอีก ไม่เช่นนั้นข้าจะส่งเจ้ากลับไปเมืองหลวง ให้ครอบครัวเจ้าอบรมสั่งสอนเจ้าเสียให้เข็ด”
“ข้ารู้แล้ว” ฉู่หนิงจูก้มหน้าลง
“แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังคงต้องขอบคุณเจ้า” ลู่เซวียนเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบายใจนัก “ข้าจะไปดูว่าท่านหมอมาแล้วหรือยัง”
ลู่เซวียนเดินออกมาจากห้อง ในที่สุดก็หายใจหายคอได้เสียที
“ขาของเจ้ายังไม่หายดี”
“หายแล้ว ค่อย ๆ เดินไปได้” เมื่อเห็นเขาเริ่มใจอ่อน ฉู่หนิงจูก็ค่อย ๆ ลุกลงจากเตียง แล้วก้าวออกไปสองสามก้าว “ดูสิ ๆ เดินได้แล้ว ท่านหมอบอกว่าเดินบ้างเป็นบางครั้งบางคราวจะช่วยในการฟื้นตัว”
ลู่เซวียนจะมองไม่ออกได้อย่างไรว่านางอยากออกไปเที่ยวเล่น
อันที่จริงหลังจากอยู่ด้วยกันมาหลายวันก็พอจะมองออกแล้วว่านางเป็นเด็กที่ชอบเที่ยวเล่นเท่านั้น ไม่เคยเผชิญกับความยากลำบาก การเดินทางมาที่นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ลำบากที่สุดแล้วนับตั้งแต่ที่นางเติบโตมา
อีกอย่างนั้น ดวงตาของนางงดงามยิ่งนัก ทั้งบริสุทธิ์ ใสกระจ่าง ราวกับอัญมณีล้ำค่า
ช่างเถอะ อย่างที่พี่สะใภ้กล่าวไว้ นางดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่อพบเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจทิ้งนางไว้เพียงลำพัง หากนางเล่นสนุกจนพอใจแล้วอยากจะกลับไป ช่วงนี้อาจเป็นประสบการณ์ผจญภัยในชีวิตครั้งหนึ่งของนาง
“เช่นนั้นก็ไปเถอะ” ลู่เซวียนกล่าว
“ลู่เซวียน เจ้าช่างดีจริง ๆ” แววตาของฉู่หนิงจูเปล่งประกายระยิบระยับ
ในเมืองฮู่เป่ยไม่มีกำหนดเวลาออกนอกสถานที่ ตลาดกลางคืนจึงมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
ฉู่หนิงจูเดินด้วยการเขย่งเท้าข้างหนึ่งไปตลอดทาง เห็นได้ชัดว่าเจ็บมาก แต่สายตาสงสัยใคร่รู้คู่นั้นกลับสอดส่ายสายตาไปทั่ว หลงลืมความรู้สึกไม่สบายตัวไปหมดสิ้น
จากมุมนี้ เห็นได้ชัดว่านางแตกต่างจากแม่นางทั่วไป นางดูไม่อ่อนแอบอบบางแม้แต่น้อย
“ยังไปได้อีกหรือ?” ลู่เซวียนถาม
“ได้สิ” ฉู่หนิงจูเกาะแขนของลู่เซวียน “แต่เจ้าช่วยข้าหน่อยก็ได้ ข้าขอยืมความแข็งแรงของเจ้าสักหน่อย”
สิ้นคำนั้นนางพลันระบายยิ้มเจิดจ้า เปล่งประกายยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
ลู่เซวียนปล่อยให้นางเกาะแขน แล้วเดินนำไปยังแผงขายของเล็ก ๆ แผงหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะแอด รบกวนอัพแอดตอนต่อไปด้วยนะคะ...
แอดรบกวนอับตอนที่ 994 ใหม่หน่อยค่ะ เพราะไม่เนื้อหา มีแค่ตอนมาอย่างเดียว เป็นตอนที่กำลังสนุกเลยแอด รบกวนหน่อยน้าาาาาา...
ไม่นะๆๆ เราจองน่องให้ฉาวอวี่น๊า...
เข้าใจสอน เรืดๆๆ...
แอด รออัพเดทตอนต่อไปน๊าาาาาพลีสสสสสสส...
ท่านแม่สอนลูกดีมากเลย...