สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย นิยาย บท 586

บทที่ 586 แล้วใครจะทำชุดให้ข้า?

บทที่ 586 แล้วใครจะทำชุดให้ข้า?

ติงเซียงรำพึงรำพันไปตลอดทาง กล่าวว่าครั้งหน้านางไม่กล้าอยู่ห่างจากคุณหนูแล้ว ยังดีที่ไม่เกิดเรื่องขึ้น

เมื่อลู่จื่ออวิ๋นกลับมาถึงห้อง นางถอดปิ่นปักผมที่หนักที่สุดบนหัวออก ถอดต่างหู ตามด้วยกำไลข้อมือ คุณหนูลู่ถอดเครื่องประดับหรูหราทั้งหมดออกจากร่างกาย กลับคืนสู่ความเรียบง่าย

นางนั่งลงบนเก้าอี้หวายอย่างเกียจคร้าน ปล่อยให้เก้าอี้หวายโยกไปมาเบา ๆ

“คุณหนูเจ้าคะ มือของท่าน…”

ลู่จื่ออวิ๋นก้มหน้าลงมองดู จากนั้นจึงพบว่ามีรอยกรีดยาวที่หลังมือของนาง คงถูกของมีคมกรีดเข้า ทว่านางตื่นตระหนกเกินไปจึงไม่ทันได้สังเกต

“เพียงแค่บาดแผลเล็กน้อย” ลู่จื่ออวิ๋นไม่ได้สนใจมัน “ยามที่ข้าทำงานเย็บปักถักร้อยข้าก็มีบาดแผลหลายครั้ง นี่ไม่ร้ายแรงอะไร”

“ยาทาที่นายท่านมอบให้คุณหนูครั้งก่อน ไม่เพียงแต่กำจัดรอยแผลเป็นได้เท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงผิวได้อีกด้วย ข้าจะไปหามันดูเจ้าค่ะ” ติงเซียงหันหลังกลับไปค้นดูตามตู้ต่าง ๆ

ขณะที่ติงเซียงกำลังง่วนอยู่กับการหาของนั้น ลู่จื่ออวิ๋นที่เอนตัวอยู่เริ่มง่วงนอนขึ้นมา

ตึง!

มีใครบางคนทุบหน้าต่าง

นางสะดุ้งตื่นขึ้นมา

“ติงเซียง…”

“คุณหนูไม่ต้องร้อนใจ บ่าวจะหามันให้เจอประเดี๋ยวนี้ บ่าวจำได้ว่าวางไว้ตรงนี้”

ลู่จื่ออวิ๋นเห็นนางรื้อข้าวของออกมา ทั้งยังไม่ได้สนใจกันเลยแม้แต่น้อย นางจึงกระโดดลงมาจากเก้าอี้หวาย ไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าต่าง และโผล่หัวออกไปมองข้างนอก

บนกำแพงฝั่งตรงข้ามมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้หนึ่งนั่งอยู่

ในมือของชายหนุ่มผู้นั้นมีผลไม้สีแดง ที่โยนมาเมื่อครู่นี้ก็เป็นผลไม้สีแดงเช่นเดียวกัน

นางเดินออกมาจากห้อง ไปหยุดยืนอยู่ข้างกำแพง เงยหน้ามองเขาแล้วกล่าวว่า “เวลาท่านไปเป็นแขกบ้านผู้อื่นก็ประพฤติตัวอย่างนี้หรือ?”

“ได้ยินมาว่าเจ้าเจอนักฆ่า”

“ข่าวของท่านไม่ค่อยรวดเร็วเลยนะ! นักฆ่าถูกจับแล้ว”

“ข้ามีของบางอย่าง มอบให้เจ้าไว้ป้องกันตัว!” ขณะที่เอ่ยเช่นนั้น เซี่ยเฉิงจิ่นก็ขว้างบางอย่างไปทางลู่จื่ออวิ๋น

ลู่จื่ออวิ๋นเพียงยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับ และของสิ่งนั้นก็ตกลงในอ้อมแขนนางพอดี

“นี่คืออะไร?”

“แหวนวงหนึ่ง ขอเพียงแค่เจ้ากดอัญมณีสีแดงบนนั้น ก็จะสามารถยิงเหล็กหมาดออกมาได้หนึ่งครั้ง เหล็กหมาดนั้นอาบยาพิษ ครั้งเดียวก็ถึงตายได้”

“ข้าไม่ต้องการ ของสิ่งนี้อันตรายเกินไป หากเผลอทิ่มตนเองเข้า ข้าจะไม่ตายเอาหรือ?”

“กล่าวเช่นนั้นก็ถูก” เซี่ยเฉิงจิ่นกระโดดลงมาจากกำแพง หยิบแหวนจากมือนางมาไว้ในมือของตนเอง

เขาหยิบกริชด้ามหนึ่งออกมาจากข้างเอวแล้วส่งให้ลู่จื่ออวิ๋น “อันนี้ไม่มีพิษ ทว่าสามารถตัดเหล็กได้ พกไว้เพื่อป้องกันตัว ทว่าที่ด้ามของกริชมีกลไก กลไกหนึ่งสามารถพ่นยาที่ทำให้คนงุนงงออกมาได้ อีกกลไกหนึ่งสามารถพ่นยาพิษใส่คนได้ พิษนี้จะไม่ฆ่าคนในทันที หากได้รับการรักษาทันเวลาก็จะปลอดภัย”

“อันนี้ได้…” ลู่จื่ออวิ๋นกล่าว “ทว่าไม่มีความชอบไม่รับของตอบแทน ข้าไม่อาจรับของจากท่าน”

“ข้าอยากทำเสื้อผ้า สิ่งนี้ถือเป็นค่าตอบแทน” เซี่ยเฉิงจิ่นเอ่ยนิ่ง ๆ

“เซี่ยซื่อจื่อมาหาข้าเพื่อมอบสิ่งนี้ให้โดยเฉพาะหรือ? ข้าไม่เข้าใจ เซี่ยซื่อจื่อดีกับข้าเกินไปหรือไม่?” ลู่จื่ออวิ๋นมองหน้าเซี่ยเฉิงจิ่น

เซี่ยเฉิงจิ่นมองนาง “ได้ยินมาว่าตอนที่คุณหนูลู่ถูกนักฆ่าไล่ล่า เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง ตอนนั้นซื่อจื่อผู้นี้ไม่ได้อยู่ที่นั่นจึงไม่ได้เห็นสภาพที่น่าอับอายของเจ้า ฝีมือเจ้าดีเพียงนี้ ปกป้องตนเองให้ดี ๆ เถิด อย่าได้ตกอยู่ในกำมือของคนชั่วช้าเหล่านั้น ไม่เช่นนั้นภายหน้าซื่อจื่อผู้นี้จะหาผู้ใดมาทำเสื้อผ้าให้ได้อีกเล่า?”

ลู่จื่ออวิ๋น “…”

นางไม่ได้รู้สึกอับอาย

อีกทั้งยังไม่ได้ดูงามน้อยลงแม้แต่น้อย

นางใจเย็นมาก ไม่รู้หรือ?

เซี่ยเฉิงจิ่นเห็นนางพองแก้มด้วยสีหน้าโมโห รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นมาในแววตาแวบหนึ่ง

“ข้าให้คนของข้าพาเจ้าชาดมาที่นี่แล้ว” เซี่ยเฉิงจิ่นเอ่ย “จากนี้ก็ให้เจ้าชาดอยู่กับเจ้า เจ้าดูแลมันให้ดีล่ะ”

“เพราะเหตุใด?” ลู่จื่ออวิ๋นรู้สึกประหลาดใจ

เซี่ยเฉิงจิ่นดีดหน้าผากของนางหนึ่งครั้ง “ม้าเช่นนั้นมีแต่สตรีอย่างพวกเจ้าเท่านั้นที่จะขี่ ข้ายุ่งทุกวัน ไม่มีเวลาดูแลมัน หากเจ้าชอบมัน เช่นนั้นก็มอบให้เจ้า”

“ข้าชอบเจ้าชาดมาก แต่ว่า…” นางกับเขาไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหายกัน หากยอมรับน้ำใจของเขาอยู่เสมอเช่นนี้จะแปลกไปหน่อยหรือไม่?

“เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ซื้อม้ามาหรือ?” มู่ซืออวี่รู้สึกประหลาดใจจึงลุกขึ้นยืน “ข้าจะไปดู”

ม้าสีชาดอยู่ในลานบ้าน มีบ่าวรับใช้จากจวนอู่อันโหวเป็นคนนำมาส่ง

บางทีอาจเป็นเพราะมันถูกรายล้อมไปด้วยคนแปลกหน้ามากมาย มันจึงหงุดหงิดงุ่นง่านเล็กน้อย เจ้าม้าเดินย่ำเท้าวนอยู่กับที่ ส่งเสียงร้องฟึดฟัดเป็นครั้งคราว

ลู่จื่ออวิ๋นได้ยินข่าวจึงออกมา เมื่อนางเห็นเจ้าชาด นางจึงวิ่งเข้าไปหามันด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าชาด…”

เจ้าชาดสัมผัสได้ถึงลมหายใจของลู่จื่ออวิ๋นจึงสงบลง

ลู่จื่ออวิ๋นแตะที่แก้มของมัน มันยอมให้นางสัมผัสอย่างว่าง่าย ดูสนิทสนมเป็นอย่างมาก

“เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ เจ้าซื้อมันมาจากท่านซื่อจื่อหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม

ลู่จื่ออวิ๋นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

นางไม่รู้ว่าควรอธิบายความสัมพันธ์ของนางกับเซี่ยเฉิงจิ่นอย่างไร

ทั้งสองดูเหมือนใกล้ชิดกันแต่กลับไร้ซึ่งคำอธิบายที่ชัดเจน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็จ้างอาจารย์มาสอนวิธีขี่ม้าให้เจ้าเถอะ!”

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยขึ้นมา “ข้าขี่เป็นแล้ว”

มู่ซืออวี่รู้สึกประหลาดใจ

ลู่จื่ออวิ๋นกังวลว่ายิ่งพูดมากนางจะยิ่งพลาดมากขึ้นเท่านั้น นางจึงรับเจ้าชาดมาแล้วเอ่ยกับบ่าวรับใช้ที่นำมาส่ง “ช่วยขอบคุณท่านซื่อจื่อของพวกท่านแทนข้าด้วย”

บ่าวรับใช้ค้อมคำนับก่อนจะขอตัวกลับไป

มู่ซืออวี่ให้บ่าวรับใช้มอบถุงเงินหนึ่งถุงให้เขาเป็นรางวัล

หลังจากบ่าวรับใช้จากไปแล้ว ลู่จื่ออวิ๋นก็พาเจ้าชาดไปเช่นกัน

มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้นมา “ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ข้าไม่รู้ว่าเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ก็เติบใหญ่แล้วเช่นกัน”

“เด็ก ๆ เติบใหญ่ขึ้นแล้ว ย่อมต้องบินออกไปเสมอ” จื่อเยวี่ยนกล่าว “คุณหนูของพวกเราช่างโดดเด่นจริง ๆ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย