มีนาแต่งหน้าเสร็จ ก็เปลี่ยนเสื้อที่มาร์ชเลือกไว้ให้ จากนั้นก็เดินออกจากห้องพร้อมกับมาร์ช
ขณะที่เดินลงบันได เธอก็พลันนึกถึงภาพเมื่อคืน ขาเธอยังคงสั่น ทั้งตัวไม่มีที่ไหนไม่รู้สึกเจ็บ ขนาดแค่เดินยังแทบจะไม่ไหว
ยังดีที่มาร์ชจับสังเกตได้ ก่อนที่ใบหน้าเขาจะเผยยิ้มปัญญาอ่อนแล้วพยุงเอวเธอ
ห้องโถงตระกูลธวัชพลังกรติดตัวหนังสือซังฮี้รอบสี่ทิศ บ่งบอกถึงบรรยากาศแสนสุขของตระกูลธวัชพลังกรที่เพิ่งจัดงานแต่งไปหมาดๆ
ในห้องอาหารที่โอ่อ่าและกว้างใหญ่ มีโต๊ะอาหารที่ทั้งใหญ่ทั้งยาว ตรงหัวโต๊ะมีนายท่านตระกูลธวัชพลังกรนั่งอยู่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ยังมีลุงป้าน้าอาที่นั่งอยู่ทั้งสองข้างของโต๊ะอาหาร ข้างหนึ่งมีน้อยสุดก็ประมาณเจ็ดแปดคน ภาพตรงหน้าทำให้มีนาลอบตะลึงในใจ ไม่เคยเห็นบ้านใครกินข้าวเช้าแล้วคนเยอะขนาดนี้
มีนาแสร้งทำตัวว่าเรียบร้อยพยักหน้ายิ้มทักทายผู้ใหญ่ ก่อนจะเหลือบไปเห็นอาหารเช้ามากมายที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร เธอลอบกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ตอนนี้เธอรู้สึกหิวมากจริงๆ
นายท่านตระกูลธวัชพลังกรคุณแพรวกวักมือเรียกพวกเขา “หลานย่า มาที่ข้างๆย่านี่มา”
มีนาเห็นข้างกายของนายท่านตระกูลธวัชพลังกรว่างอยู่สองที่ เดาว่าน่าจะเว้นเหลือไว้ให้พวกเขา
มาร์ชขานเหมือนเด็กอายุไม่กี่ขวบว่า “คุณย่า” จากนั้นก็นั่งลงข้างคุณแพรว
เธอจึงต้องจำใจตามไปด้วยเช่นกัน ก่อนจะนั่งลงแล้วเอ่ยถามว่า “กินได้หรือยังคะ?”
“ไร้มารยาทสิ้นดี! นอนจนถึงป่านนี้ถึงจะลงมา ให้คนทั้งบ้านต้องนั่งรอเธอสองคน ทุกคนยังไม่มีใครแตะตะเกียบเลยด้วยซ้ำ เธอก็โพล่งว่าจะกินซะแล้ว นี่เหรอสภาพลูกสะใภ้ตระกูลธวัชพลังกร?”
มีนาเหลือบมองพิมที่ตำหนิเธอเสียงดุ คร้านจะเถียงกับหล่อน จึงหันไปก้มหน้ากับนายท่านแล้วเอ่ยด้วยท่าทางเขินอายว่า “คุณย่าคะ เมื่อวานหนู......หนูกับมาร์ชเหนื่อยมาทั้งคืน หนูก็เลย......”
เธอพูดยังไม่ทันจบ ก็มีคนใช้หญิงชราวัยห้าสิบหกสิบเดินมาที่ข้างกายนายท่านแล้วกระซิบอะไรสักอย่างที่ข้างหู
นายท่านมองมายังมีนา พลันเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ เอ่ยว่า “ข้าวใหม่ปลามันก็แบบนี้แหละ ไม่เป็นไรๆ ป้าเค้ก เอาซุปรังนกมาให้นานาด้วย เมื่อคืนลำบากเธอแย่”
“คุณแม่คะ! จะตามใจสะใภ้ที่เพิ่งแต่งเข้ามาเกินไปไม่ได้......”
น้าสองพิมพูดยังไม่ทันจบ ณภัทรที่นั่งอยู่ข้างเธอก็พูดขัดเธอว่า “หุบปาก แม่ยังไม่ว่าอะไร ถึงตาเธอมาสอนภรรยาของมาร์ชเมื่อไหร่”
พิมเห็นสีหน้าของสามีตัวเองเริ่มเผยแววไม่ดี ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก พลันถลึงตาใส่มีนาทีหนึ่ง
คิดไม่ถึงเลยว่าเธอที่พึ่งฝีปากคมคายสบถคนในตระกูลธวัชพลังกรมาสิบกว่าปี จะถูกหักหน้าและเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะผู้หญิงที่เพิ่งแต่งเข้ามาคนนี้
มีนาเองก็ถลึงตาใส่กลับอย่างไม่ยอม พลางลอบคิดในใจว่าขนาดนี้แล้วยังต้องกลัวใครอีก ถ้าคนในตระกูลธวัชพลังกรคนไหนกล้ามาหาเรื่องเธอ งั้นเธอเองก็จะไม่เกรงใจเหมือนกัน!
“เอาล่ะๆ ทุกคนกินข้าวกันเถอะ” นายท่านปริปากเอ่ย “หลานรักฉันเองก็แต่งงานแล้วสักที ยัยแก่อย่างฉันดีใจเหลือเกิน”
มีนามองใบหน้าของแต่ละคนที่เหมือนสวมหน้ากากเอาไว้ พลันรู้ดีว่าคนเหล่านี้ไม่มีใครรับมือง่ายทั้งนั้น
มีนาที่เป็นภรรยาของเขา กำลังจะขอบคุณนายท่าน จู่ ๆก็มีหญิงสาวอายุรุ่นราวเคราวเดียวกับเธอผุดลุกขึ้นยืน
หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าเรียวทรงไข่หงส์ประกอบกับผมสั้นดัดลอน ทำให้เธอดูขี้เล่นและเฉียบแหลม
เธอเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “คุณย่า บริษัทแอมทีแฟชั่นหนูเป็นบริหารจัดการมาโดยตลอด จะยกหยาดเลือดหยาดเหงื่อของหนูให้คนปัญญาอ่อนได้ยังไงกัน?”
“เธอว่าใครปัญญาอ่อน?” มีนาลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทันที
หลังจากที่รู้ว่ามาร์ชแสร้งทำเป็นปัญญาอ่อนแล้ว มีนาก็คิดจนเข้าใจ หากตัวเองอยากจะยืนหยัดในตระกูลธวัชพลังกร ก้าวแรกก็คือต้องเอาใจมาร์ช
จะเอาใจเขาก็ต้องให้เขาเชื่อใจเธอก่อน ก็ต้องก้าวออกมาปกป้องเขาเมื่อยามที่เขาถูกกลั่นแกล้ง
“ห้ามเธอว่ามาร์ชแบบนี้เด็ดขาด ขอโทษมาร์ชเดี๋ยวนี้!”
มีนาจ้องเอนด้วยแววตาโกรธเคือง แสดงท่าทางประหนึ่งกำลังปกป้องมาร์ชจนถึงขีดสุด
เอนหันมามองเธอ พลันเอ่ยอย่างเหยียดหยามว่า “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าที่ตระกูลจรัลพรไพศาลใช้ลูกสาวตัวเองเป็นหมากต่อรองเพื่อจะสานสัมพันธ์กับตระกูลธวัชพลังกร ไม่อยากขายยัยลูกสาวที่อยู่ข้างกายนั่น ก็เลยต้องยัดลูกนอกสมรสอย่างเธอที่ถูกเก็บมาจากไหนก็ไม่รู้มาให้บ้านเรา! เธอถูกขายให้ใคร ก็คนนั้นแหละที่ปัญญาอ่อน!”
“ไม่ว่าแต่ก่อนฉันจะมีฐานะอะไร แต่ถ้าแต่งเข้ามาในบ้านตระกูลธวัชพลังกร ฉันก็คือพี่สะใภ้รองของเธอ ส่วนมาร์ชก็คือพี่ชายรองของเธอ เอนเธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลธวัชพลังกรของเรา จะมากล่าวคำพูดที่ทำให้ตัวเองดูเสื่อมเสียฐานะแบบนี้ได้ยังไง น่าขายหน้าไปหน่อยแล้วละมั้ง” มีนาตอกกลับอย่างไม่ยอม
“อาสองกับน้าสองสอนน้องเอนกันแบบนี้เหรอคะ?” มีนาพูดเสร็จ ก็หันไปมองพิมและณภัทรด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...