สายใยร้ายคู่นิรันดร์ นิยาย บท 5

“ยัยคนต่ำทราม เธอว่า......”

“หุบปากซะ!”

คงเป็นเพราะมีนาแสดงเจตนาประชดออกมาอย่างชัดเจน ดังนั้นทันทีที่สิ้นเสียงมีนา เอนและพิมก็พลันเผยสีหน้าไม่สู้ดี พวกเธอกำลังจะด่ามีนา กลับดันถูกเสียงตวาดลั่นของณภัทรขัดขึ้นเสียก่อน

“หลานสะใภ้พูดถูก คราวหลังห้ามเอ่ยคำพูดพวกนี้ที่ทำให้ตระกูลธวัชพลังกรขายขี้หน้าอีก”

“นานาพูดถูก เป็นถึงคนของตระกูลธวัชพลังกร ก็ต้องระวังคำพูดคำจาอยู่เสมอ อย่าให้คนนอกมาขำเราได้” นายท่านพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เสมือนว่าพึงพอใจที่มีนาเอ่ยว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลธวัชพลังกร

“ฉันบอกไปแต่แรกแล้ว ว่าจะให้เธอดูแลบริษัทแอมทีแฟชั่นแทน แต่ไม่ได้บอกว่าจะยกบริษัทให้เธอ ตอนนี้มาร์ชก็แต่งงานแล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องให้สองสามีภรรยาเข้ามารับไม้ต่อแทนแล้วล่ะ” นายท่านยิ้มเอ่ยกับเอนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ค่ะ”

เมื่อกี้เอนเพิ่งถูกพ่อเธอตำหนิ และรู้ดีว่านายท่านรักหลานชายมากกว่าหลานสาว แม้มาร์ชจะเป็นคนปัญญาอ่อน ทว่าสำหรับนายท่านแล้วก็ยังถูกนับว่าดี ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางถูกยอมรับได้

“หนูฟังคำคุณย่าค่ะ” แม้ในใจจะไม่พอใจขนาดไหน แต่ปากก็ไม่อาจไม่ตอบตกลงได้

......

นายท่านแจ้งเรื่องที่ต้องการบอกเสร็จ ก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไป

กลับมาถึงห้อง มีนาต้องการเพียงพักผ่อนเงียบๆครู่หนึ่ง แต่ทันทีที่ปิดประตู มาร์ชก็เปลี่ยนท่าทางจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เขาโอบเอวบางของเธอ พลันผลักเธอชิดอยู่หลังประตู แล้วปัดเส้นผมที่อยู่ข้างหูเธอออก “เมื่อกี้ ทำไมต้องปกป้องฉัน?”

ขณะที่พูด ลมหายใจอุ่นก็เป่ารดที่คอของเธอ ทำให้มีนารู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย เธอบิดตัวจะหนีออก แต่กลับถูกชายหนุ่มกอดแน่นกว่าเดิม

“หืม?” มาร์ชปริเสียงถาม เสียงทุ้มขึ้นจมูกทำให้มีนารู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย

“ฉัน......ฉันก็แค่คิดว่าอย่างน้อยเราก็เป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะยังไงนายก็เป็นสามีฉัน ฉัน......ฉันจะยอมให้คนอื่นมากลั่นแกล้งสามีฉันได้ยังไงกัน?” มีนาเอ่ยตะกุกตะกักด้วยใบหูแดงก่ำ

“เป็นเพราะแบบนี้จริงๆเหรอ? ไม่ใช่เพราะจุดประสงค์อื่น?” มาร์ชถามต่อ พลางกอดมีนาแน่นกว่าเดิม ริมฝีปากแตะหูมีนา........

“ฉันจะ......อะ!” มีนาอยากบอกว่าเธอจะมีจุดประสงค์อะไรได้ แต่พูดยังไม่ทันจบ ก็พลันถูกมาร์ชกัดใบหู ซ้ำยังถูกอีกฝ่ายใช้ฟันแทะเบาๆ

“คิดให้ดีแล้วค่อยตอบ” มาร์ชแทะกัดไปพลาง เอ่ยเสียงแหบพร่าเตือนไปพลาง

มาร์ชเป่าลมหายใจอุ่นร้อน ถูฟันแทะกัดเบาๆ ทำให้มีนารู้สึกทั้งช้าและจั๊กจี้ จนท้ายที่สุดก็จำต้องตอบตามจริงว่า “ฉัน......เป้าหมายของฉันก็ง่ายๆ แค่อยากให้พวกเขาปล่อย......ปล่อยเราไป อย่ากลั่นแกล้งเราอีก ชีวิตฉันในตระกูลธวัชพลังกรจะได้สบาย”

มีนาอายจนตาแดงก่ำ

“ต้องแบบนี้สิเด็กดี” มาร์ชยิ้มขำเสียงเบา ประหนึ่งว่าเชื่อคำที่เธอพูด

มีนาได้ยินมาร์ชเอ่ยเสียงขำ ก็พลันโล่งอกไปด้วย

“มาร์ช นายปล่อยฉันไปได้......อ๊ะ!” เธออยากจะบอกให้มาร์ชปล่อยเธอไป กลับคิดไม่ถึงว่าจู่ ๆมาร์ชจะอุ้มเธอขึ้นกะทันหัน

“นาย......นายจะทำอะไร?” มีนาถามอย่างตกใจ พลันกอดคอมาร์ชด้วยสัญชาตญาณ

“เหอะ ข้าวใหม่ปลามัน ก็ต้องทำเรื่องที่ผัวเมียเขาทำกันอยู่แล้วสิ” มาร์ชยิ้มขำเบาๆ พลางอุ้มมีนาตรงไปที่เตียง

“ไม่! ไม่เอา!” มีนาได้ยินมาร์ชเอ่ยดังนั้นก็ขัดขืนทันที

“มาร์ชนายปล่อยฉันนะ นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้” เมื่อคืนที่เมาเหล้าแล้วทำเรื่องแบบนั้นกับมาร์ชนับว่าเป็นเรื่องบังเอิญไปแล้ว ตอนนี้เธอมีสติครบดีทุกอย่าง เธอไม่ต้องการถูกมาร์ชทำแบบนั้นอีก

“ทำไมจะไม่ได้? เธอกับฉันแต่งงานกันแล้ว จะทำอะไรก็ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายทั้งนั้น” มาร์ชกลับไม่สนว่ามีนากำลังขัดขืน เขาโยนมีนาลงบนเตียง ก่อนจะขึ้นไปคร่อมตัวเธอ

มีนาชะงักฝีเท้า พลันชี้ไปยังคฤหาสต์หลังใหญ่ประหนึ่งปราสาทที่ตัวเองเพิ่งเดินออกมา ถามว่า “ทำไมนายท่านถึงไม่อยู่ที่บ้านหลังใหญ่นั่นกับมาร์ช แล้วออกมาอยู่คนเดียว?”

ป้าเค้กเอ่ยยิ้มๆว่า “นายท่านอายุเยอะแล้ว ชอบความเงียบสงบ บ้านใหญ่มีคนอยู่เยอะ นอกจากคุณกับคุณชายมาร์ช ก็ยังมีคุณชายใหญ่กับผู้หญิงคนนั้น รวมถึงคุณชายธารณ์ด้วย นายท่านไม่อยากเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น”

เสียงของป้าเค้กยิ่งพูดยิ่งเบาลง มีนาเองก็เข้าใจขึ้นมาทันที พลันถามต่อว่า “แล้วคุณลุงป้าน้าอาคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ?”

ป้าเค้กส่ายหัวเอ่ยว่า “หลังจากที่พวกเขาแต่งงานก็ย้ายออกไปจากคฤหาสต์ตระกูลธวัชพลังกรกันหมดแล้ว มีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง แต่ก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลกันหรอก นายหญิง เรารีบไปกันดีกว่า นายท่านรออยู่”

“ค่ะ” มีนาเร่งฝีเท้าตามป้าเค้กไปทันที พลางคิดในใจว่าที่แท้คนเหล่านั้นก็มารวมตัวกันทานข้าวเช้าที่นี่เองหรอกเหรอ ยังดีที่ไม่อยู่ที่นี่กัน ไม่งั้นถ้าต้องเจอกับแม่ลูกพิมทุกวัน เธอก็คงได้กลายเป็นไก่ชนกันไปพอดี

คุณชายใหญ่ที่ป้าเค้กพูดถึง ก็คือณนน พ่อของมาร์ช ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็คือวรรณ เป็นเมียน้อยที่มาทำลายชีวิตคู่ของภรรยาเก่าและณนน จนกลายมาเป็นเมียหลวง

ส่วนคุณชายธารณ์ ธารณ์ก็คือลูกชายของพวกเขา พี่ชายต่างแม่ของมาร์ช

ก็ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ทั้งที่เป็นวันแต่งงานวันแรกของมาร์ช แต่สามคนนี้กลับไม่มีใครอยู่บ้านเลย

มีนาเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นเพียงนายท่านกำลังนั่งหลับตาพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้โยกตรงหน้าต่างชั้นหนึ่ง

แสงแดดสาดส่องมายังบนตัวของหญิงชรา เก้าอี้โยกถูกขยับอย่างมีจังหวะ ทำให้คนรู้สึกว่ากาลเวลา ณ ตอนนี้เองก็ผ่านไปอย่างเชื่องช้าด้วยเช่นกัน

ป้าเค้กให้เธอยืนนิ่งอย่าเพิ่งขยับ ก่อนจะก้าวเดินไปเบาๆ แล้วเอ่ยที่ข้างหูนายท่านว่า “นายท่านคะ นายหญิงมาแล้วค่ะ”

“มาร์ชล่ะ?” นายท่านลืมตาขึ้นถาม

ป้าเค้กตอบว่า “คุณชายชาร์วีมารับคุณชายไปทำกายภาพบำบัดที่ศูนย์สมองแล้วค่ะ”

นายท่านเอ่ยเสียงอืม ก่อนจะหันไปมองมีนา พลันเอ่ยด้วยสีหน้าหม่นลงว่า “คุกเข่าลงซะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์