สายใยร้ายคู่นิรันดร์ นิยาย บท 8

มีนาพยายามไม่ให้ตัวเองปริเสียงสะอื้นออกมา ก่อนจะพูดปลอบอธิว่า “แม่ต้องทำงานหาเงิน ถึงจะซื้อของกินอร่อยๆกับของเล่นให้อธิได้ อีกไม่กี่วันแม่ก็จะได้ไปเจอหนูแล้ว เป็นเด็กดีนะ กินข้าวดีๆ เข้านอนให้ตรงเวลา เข้าใจไหม?”

“ผมจะเชื่อฟังและเป็นเด็กดี แม่อย่าทิ้งผมไปนะครับ มาเจอผมเร็วๆ......”

“มาเอาตัวเจ้าเด็กนี่ไป” เสียงครีมพลันดังขึ้น เสียงร้องไห้ของอธิยิ่งอยู่ยิ่งฟังไม่ชัด

“ครีม! เธอทำอะไรลูกฉัน?” มีนาเอ่ยเสียงโกรธ

ครีมยิ้มขำเสียงเบา เอ่ยว่า “วางใจเถอะ ฉันให้คนใช้พาเขาไปที่ห้องตัวเอง นี่ฉันอุตส่าห์ใจดีให้เธอได้ฟังเสียงเด็กคนนี้เลยนะ เธอควรจะขอบคุณฉันสิถึงจะถูก”

“ตอนที่ฉันเห็นลูกอีกที ถ้าเขาเป็นอะไรไปแม้แต่เส้นผมเดียว ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเธอไปแน่!” มีนากลั้นน้ำตาเอ่ยเสียงแข็ง

ครีมได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ “เธอเอาอะไรมาขู่ฉัน? แค่ตำแหน่งนายหญิงรองตระกูลธวัชพลังกรของเธอในตอนนี้ ยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าตำแหน่งภรรยาของมาร์ชนั้นไร้ค่าขนาดไหน?”

“ในเมื่อตำแหน่งของฉันมันดูไร้ค่าขนาดนี้ ทำไมพวกเธอยังต้องบังคับให้ฉันแต่งงานด้วย? มันดีกับพวกเธอยังไง?” มีนาย้อนถามเธอ

ครีมเอ่ยเสียงรำคาญว่า “คุณพ่อฝากให้ฉันมาเตือนเธอ ว่าดูแลเจ้าคนปัญญาอ่อนนั่นให้ดี เอาใจนายท่านตระกูลธวัชพลังกร อย่าไปทำให้ใครในตระกูลไม่พอใจ เข้าใจหรือยัง?”

มีนาตอบส่งๆ ในใจรู้ดี ว่าปริญต้องการให้เธอเข้าใกล้นายท่าน ทำลายความลับที่จะทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงล้มละลาย

“จริงสิ แต่งงานวันแรกเมื่อคืนเป็นไงบ้าง? เขาคงยังไม่รู้หรอกใช่ไหมว่าเธอเป็นคนสำส่อนยังไง?” ครีมจงใจเหน็บแนมเธอ

มีนาตอกกลับว่า “ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง งั้นเธอก็ไปหาคนปัญญาอ่อนสักคนมาลองดูสิ”

“เธอ! หน้าไม่อาย......”

มีนาไม่รอให้เธอพูดเสร็จก็กดวางสายทันที

“คุณลุงน่าจะยังไม่รู้ เขาบอกว่าจะไปสำรวจโครงการที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จริง แต่จริงๆแล้วคือพาพี่ชายนายแล้วก็......ผู้หญิงคนนั้นไปพักผ่อนที่ริมทะเล” ชาร์วีพูดพลางสังเกตสีหน้าของมาร์ช

มาร์ชขมวดคิ้ว พลันเผยสีหน้าเยือกเย็น

ชาร์วีรู้ว่าทุกครั้งที่พูดถึงภรรยาคนปัจจุบันของณนน และพี่ชายคนโตต่างแม่ของมาร์ช ก็จะทำให้เขาไม่สบอารมณ์เสมอ

บอกตามตรง ณนนปฏิบัติตัวกับมาร์ชไม่เหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสักนิด รู้ทั้งรู้ว่ามาร์ชแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ แต่กลับพาภรรยาที่เคยเป็นเมียน้อยและลูกชาย ใช้ข้ออ้างสำรวจโครงการไปเที่ยวเล่น ไม่ให้หน้ามาร์ชเลยแม้แต่น้อย เทียบไม่ติดกับคนนอกเลยด้วยซ้ำ

มาร์ชปิดแฟ้มเอกสาร แล้วเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “ยังไม่รู้ก็ดี ให้บริษัทที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเล่นละครตบตาให้เนียนที่สุด ถึงเวลาเมื่อไหร่ฉันจะเตะพ่อฉันออกไปเอง ให้การลงทุนของเขาในครั้งนี้ขาดทุนย่อยยับ”

“เข้าใจแล้ว เรื่องแบบนี้พวกฉันก็ไม่ได้ทำครั้งแรก วางใจเถอะ ไม่มีทางพลาดแน่นอน”

มาร์ชเงยหน้ามองเขา ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก พลันเย็นวาบไปทั้งตัว