ผ่านไปสักพักป่ายฉีถึงเดินเข้ามาอย่างเฉื่อยช้า
เขาเข้ามาก็เจอเย้นหว่านเป็นคนแรกเลย มองหน้าของเธออึ้งไปสักพัก เหมือนจะไม่ค่อยชิน และไม่ค่อยเต็มใจเลย
จากนั้น สายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่บนปากของเย้นหว่าน
ทั้งแดงและบวม เห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อกี้ถูกคนจูบ
อารมณ์ของป่ายฉีก็ไม่ดีขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าสัตว์น้อยที่ขังไว้ในใจ ได้คำรามอย่างโมโห
เย้นหว่านถูกเขามองจนขนลุกไปหมด "ป่ายฉี นายเป็นอะไร?"
ป่ายฉีเหมือนกับพึ่งตื่นจากฝัน รีบเบี่ยงสายตาออกจากเย้นหว่าน แล้วพูดว่า "ไม่มีอะไร เรียกฉันทำไม?"
"เริ่มทำการรักษาขาของโห้หลีเฉินตอนนี้เลย รักษาเร็วหน่อย เขาก็จะได้เดินเร็วหน่อย"
เย้นหว่านรีบพูดอย่างตื่นเต้น พอนึกได้ว่าโห้หลีเฉินนั่งอยู่บนรถเข็นมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว เธอก็รู้สึกอึดอัดและปวดใจมาก
ถ้าสามารพรักษาให้หายเร็วๆ เขาก็จะได้เดินได้เร็วขึ้น จะได้ไม่ต้องคอยนั่งอยู่บนรถเข็นแบบนี้อีกแล้ว
ป่ายฉีพยักหน้าแล้วหันหลังมองไปทางโห้หลีเฉิน
มองผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง ได้สบตาเข้ากับสายตาเยือกเย็นของเขา ความโกรธในใจของป่ายฉีที่ยังไม่ได้กดลงไป ก็ได้พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะมองโห้หลีเฉินยังไงก็ไม่พอใจ ไม่ชอบใจเลย
อยากจะฉีกใบหน้าที่หล่อเหล่าของเขานั้นให้แหลกจริงๆ
เขาหายใจเข้าลึกๆ หายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง สุดท้ายตัดสินใจ "ฉันไม่รักษาแล้ว"
"อะไรน่ะ?"
เย้นหว่านมองเขาอย่างแปลกใจ สงสัยว่าหูตัวเองฟังผิดไป
เธอมองหน้าป่ายฉีที่หน้ามืด "นายเป็นอะไร ใครไปทำอะไรให้นายอีก?"
"ไม่มีใคร" ป่ายฉีส่ายหัวอย่างหงุดหงิด "ค่อยรักษาเขาหลังจากแก้การสะกดจิต ถ้าเริ่มตอนนี้ ฉันไม่รับรองว่าฉันจะทนไม่วางยาใส่เขาได้"
เย้นหว่าน: "........" ผลกระทบต่อการสะกดจิตของเขารุนแรงขนาดนี้เลยหรอ
โห้หลีเฉินจ้องป่ายฉีไว้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชาเหมือนกับถามว่า
"นายยังชอบเย้นหว่าน?"
ป่ายฉีจ้องโห้หลีเฉินกลับอย่างหงุดหงิด เถียงกลับอย่างมั่งเลว่า "ที่กูชอบคือเย่ซือซือ"
พูดเสร็จ เขาก็งงไปทันที ในใจกำลังด่าอยู่นับไม่ถ้วน
เขาชอบเย่ซือซือนี่มันบ้าอะไรกัน
นี่มันเป็นผลการสะกดจิตที่ทำให้เขาประสาทไม่ปกติแล้ว
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างเย็นยะเยือก เสนอขึ้นมาว่า : "ไม่อย่างนั้น ฉันพาเย่ซือซือมา ให้นายได้อยู่กับเธอ"
"ไสหัวไปเลย" ป่ายฉีคำรามอย่างโกรธ "ถึงแม้ว่ากูจะไม่ถูกสะกดจิต ก็เกลียดนาย"
พูดเสร็จ เขาก็ได้ก้าวเท้าใหญ่ๆ เดินจากไป
ไม่อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว
เย้นหว่านยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ มองแผ่นหลังของป่ายฉีอย่างทำอะไรไม่ได้ รู้สึกสงสารเล็กน้อย
การสะกดจิตครั้งนี้ ทำร้ายเขามากเกินไปแล้ว
หวังว่าพรุ่งนี้น้าเมย์จะกลับมาได้ตามเวลา จะได้รีบช่วยป่ายฉี
เย้นหว่านกำลังคิดอยู่ แต่จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่เย็นยะเยือกมองอยู่บนตัวของเธอ ทำให้เธอรู้สึกเย็นไปหมด
เธอรีบหันกลับไปมอง ก็ประสบกับตาที่เย็นชาของโห้หลีเฉิน
เขาพูดออกมาทีละคำว่า "เธอก็เสียดายที่เขาไป?"
เย้นหว่านได้กลิ่นความหึงฟุ้งไปหมด
เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ หัวเราะไปด้วยส่ายหัวไปด้วย "เป็นไปได้ยังไง ฉันไม่ใช้แต่งงานกับนายแล้วหรอ"
คำพูดนี้ ทำให้สีหน้าของโห้หลีเฉินดีขึ้นมาเล็กน้อย
เขาได้ดึงเธอเข้าอ้อมกอดของตัวเอง กดไว้บนเตียง น้ำเสียงที่เหมือนกับคำสั่ง ไม่ให้ปฏิเสธ
"ก่อนที่จะแก้การสะกดจิต ห้ามเธออยู่กับป่ายฉีตามลำพังอีก ห้ามสบตากันด้วย ถ้าไม่คุยกับเขาได้ก็ไม่ต้องคุยกับเขา"
เย้นหว่านฟังข้อห้าม 3 ข้อนี้ไว้ รู้สึกตลกและทำอะไรไม่ถูก
การหึงของโห้หลีเฉินนี่ไร้เหตุผลจริงๆ
เพราะแรบบิทคิดถึงพวกเขาแล้ว หรือว่าเขาไม่อยากให้เธอและโห้หลีเฉินได้นอนอย่างมีความสุขกันแน่?
ผู้ชายอิจฉาขึ้นมานี่น่ากลัวจริงๆ
ถึงจะไม่เป็นความจริง
เย้นหว่านก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ว่าสำหรับแรบบิท กลับเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและคาดหวัง
เธอยิ้มแล้วมองแรบบิทไว้ ยื่นมือไปทางเธอ
"แรบบิท จะนอนกับแด๊ดดี้และหม่ามี๊ไหม?"
ตาโตๆ ของแรบบิทจ้องเย้นหว่านไว้ เหมือนกับว่าตานั้นจะติดอยู่บนหน้าของเย้นหว่านแล้ว
เธอจ้องมองเป็นเวลานาน จากนั้นถึงพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า
"คุณคือหม่ามี๊?"
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บนรถ เย้นหว่านและแรบบิทได้เชื่อมกันแล้ว แต่ว่าเด็กน้อยเอาแต่ร้องไห้ ไม่พูดอะไรเลย และไม่เข้าใกล้เธอด้วย
ตอนนี้ กลับถามเธอเอง
เย้นหว่านจับหน้าของตัวเองแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน : "หม่ามี๊เอง แรบบิทมานี่"
"หม่ามี๊......"
แรบบิทพูดพึมพำเบาๆ มองเย้นหว่านไว้ ขอบตายิ่งอยู่ยิ่งแดง
หยดน้ำตาที่ใหญ่เท่ากับถั่วได้ตกลงไปเป็นเม็ดๆ
"หม่ามี๊ หม่ามี๊......."
เธอร้องแต่ละครั้ง เสียงดังกว่าเดิม เหมือนกับเด็กที่หายไปนาน ในที่สุดก็ได้เจอกับแม่ของตัวเองแล้ว
เสียงสะอื้นและคิดถึง ก็ทำให้สะเทือนใจจริงๆ
เย้นหว่านอยากจะร้องไห้ รีบลงมาจากเตียง แล้วอุ้มแรบบิทไป
เด็กน้อยพึ่งอยู่ในอ้อมกอดของเธอ มือน้อยๆ ทั้งสองก็ได้จับหน้าของเย้นหว่านไว้ จับไปทั่วหน้า
เธอทั้งร้องไห้และหัวเราะ "หม่ามี๊ เป็นหม่ามี๊จริงๆ ด้วย......หนูเคยเห็นรูปของหม่าหมี๋ คุณเป็นหม่ามี๊ของหนูจริงๆ ด้วย......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...