บทที่ 220 แฟนสาวตัวน้อย
เย้นหว่านตัวแข็งทื่ออย่างระแวง “คุณ คุณทำอะไรน่ะ?”
“ผมแค่อยากถามคุณว่า แอบมองผมทำอะไรเนี่ย?”
โห้หลีเฉินค่อยเอนพิงเย้นหว่าน น้ำเสียงดูอันตรายพิกล
สองมือเท้าอยู่ด้านข้างของที่นั่ง แทบจะกักตัวเย้นหว่านไว้ในอ้อมกอด ออร่าสีชมพูจ๋า
แม้แต่ลมหายใจของเย้นหว่านก็ร้อน ประหนึ่งหลอมรวมอยู่กับลมหายใจเขาแล้ว
เธอสีหน้าแดงก่ำ ปฏิเสธว่า “ไม่นี่”
“ไม่ยอมรับ แสดงว่าร้อนตัว”
โห้หลีเฉินสรุปออกมา มือหนึ่งจับคางเธอยกขึ้นเบาๆ ท่าทางนุ่มนวลระคนรักใคร่
อุณหภูมิในรถพุ่งสูงขึ้น
“เย้นหว่าน คุณกำลังยั่วผมนะ”
พูดทุกคำอย่างหนักแน่น
เย้นหว่านตัวแข็งค้าง ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอไปยั่วเขาตรงไหนล่ะเนี่ย?
เธอแค่แอบมองเขาสองทีเอง มากสุดก็ไม่เกิดแปดที
เธอเซ็งๆกำลังคิดจะค้าน แต่พออ้าปาก ริมฝีปากของผู้ชายตรงหน้าก็ฉกลงมาปิดไว้
“อุ๊!”
เย้นหว่านเบิกตากว้างอย่างตะลึง
โห้หลีเฉินเหมือนอดมานาน เขาเริ่มจูบดุเดือดขึ้น คล้ายกลับจะกลืนเธอลงไปทั้งตัว
เย้นหว่านใจเต้นเป็นกลองเพลง อยากผลักเขาออก แต่โดนเขาล็อคไว้ในอ้อมแขน ขยับตัวไม่ได้เลย
จูบเขาเริ่มดูดดื่มขึ้น ทำให้สมองของเธอเริ่มขาวโพลน
แต่พอคิดว่าตอนนี้อยู่ข้างทาง แถมกระจกรถก็ไม่ได้ปิด คนผ่านไปมาคงเห็นว่าพวกเขา...
เย้นหว่านทั้งอายทั้งกังวล ความรู้สึกร้อยแปดพันเก้าสับสนไปหมด เธอตื่นเต้นมาก
ผ่านไปสักพัก โห้หลีเฉินถึงค่อยยอมปล่อยเธอแบบอิดออด
เขาเห็นเธอหน้าแดงก่ำ สายตาทอประกายอ่อนโยน
เย้นหว่านกลับทำอะไรไม่ถูก เธอรีบหันหน้าไปอีกทาง ไม่กล้ามองเขา
ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วแน่ๆ ไม่รู้จักระงับใจ กล้าบังคับจูบเธอข้างทางอย่างนี้
เธอไม่รู้จะว่าเขายังไงดีแล้วเนี่ย
ทั้งอ่อนแรง และไม่พูดอะไร
พอสบตาต่อว่ากลายๆปนขัดเขินของเธอแล้ว สายตาโห้หลีเฉินทอประกายขบขันระคนเอ็นดู
สาวน้อยคนนี้ทำไมยิ่งดูยิ่งชอบนะ ยังไงก็ไม่เบื่อเลย
ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้อยู่ริมถนนแถมยังบนรถ เขาคงทนไม่ไหวจัดการเธอซะตรงนี้เลย
เพราะเหตุขัดข้องนิดหน่อย ฉูรั่วไป๋เลยมาถึงก่อน แถมยังต้องรออีกพักหนึ่ง โห้หลีเฉินถึงขับรถมาถึง
พอถึงที่หมาย เย้นหว่านเปิดประตูลงจากรถเองอย่างเคยชิน และกำลังคิดจะโค้งคำนับเป็นการบอกลาโห้หลีเฉิน กลับเห็นเขาเปิดประตูลงมาด้วยอย่างแปลกใจ
โห้หลีเฉินก้าวเท้ายาวมายืนข้างเธอ และโอบเธอเข้าอ้อมกอดทันที
พูดเสียงต่ำว่า “ไปเถอะ”
เย้นหว่านมองหน้าเขาอึ้งๆด้วยสีหน้าเป็นคำถาม
“คุณโห้ จะไปด้วยกันหรอคะ?”
ไม่หรอกมั้ง เธอมาทำงานนะ เขาเองก็มีงานต้องทำเยอะแยะไม่ใช่หรอไง
ในใจเย้นหว่านคิดต่างๆนานาว่าเป็นไปไม่ได้ วาดหวังให้เขาตอบปฏิเสธ แต่กลับเห็นเขาพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
“อื้อ”
คำตอบสั้นๆคำเดียวแสดงชัดถึงท่าทีเขา
เย้นหว่านอึ้ง แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย
ไม่ใช่ วันนี้ดูเขาว่างไปหน่อยหรือเปล่า?
ฉูรั่วไป๋เห็นพวกเขาสองคนเดินมา ก็ได้ยินบทสนทนาบทนี้พอดี และรู้สึกตกใจด้วย
คนงานยุ่งอย่างโห้หลีเฉินกลับจะมาตามพวกเขาสองคน?
แถมไม่ได้ทำอะไร แค่ตามเฉยๆเท่านั้น
แต่เพราะมาช้าไป ยังดูไม่ทันหมดก็ต้องออกมา วันนี้เลยพาเย้นหว่านมาอีกครั้ง
พอฉูรั่วไป๋เดินเข้าไป ก็เดินผ่านร้านไปด้านหลังเลย
ด้านหลังยิ่งกว้างใหญ่ เสื้อผ้าดีไซน์มากมายวางอยู่ แถมยังมีการสาธิตวิธีทำ
ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามาต้อนรับ เขาเดินไปเร็ว เห็นแค่ฉูรั่วไป๋คนเดียวก็ทักว่า:
“คุณฉู วันนี้ไม่พาแฟนสาวตัวน้อยมาด้วยหรอ?”
ฉูรั่วไป๋ตัวแข็งค้าง
คราวนี้โห้หลีเฉินพาเย้นหว่านเดินตามเข้ามา
ผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นถึงเห็นเย้นหว่าน แต่ก็เห็นโห้หลีเฉินที่โอบเธอไว้ด้วย ทั้งคู่ดูรักใคร่กันดีมาก
พวกเขาดูเหมือนคู่รักกันจริงๆ
ผู้ชายคนนั้นตกใจตะลึง วันก่อนตอนฉูรั่วไป๋พาเย้นหว่านมา ก็รู้สึกว่าท่าทีทั้งคู่ดูสนิทสนมกันดี เลยนึกว่าเย้นหว่านเป็นแฟนฉูรั่วไป๋
ไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจผิดงั้นหรอ?
โห้หลีเฉินเดินเข้ามาก็เห็นท่าทีตกใจของผู้ชายคนนั้น เลยรู้ได้ทันทีว่าแฟนสาวตัวน้อยที่เขาพูดถึงหมายถึงใคร
สีหน้าเขาทะมึนลงทันที สายตาทอประกายคมอันตรายขึ้นมาวูบหนึ่ง
เขาหันมองฉูรั่วไป๋ กระเซ้าถามแกมประชดประชันว่า:
“ที่แท้คุณมีแฟนสาวตัวน้อยแล้วหรอ?”
พูดอย่างอันตรายเป็นพิเศษ ดูตะหงิดๆพิกล
เย้นหว่านกำหมัดแน่น รู้สึกเหมือนมดที่เดินบนตะแกรงร้อน ใกล้สุกได้ทุกเมื่อ
เจ้าของร้านเข้าใจผิดแล้ว เขาเข้าใจผิดไม่เป็นไร ดันโดนโห้หลีเฉินได้ยินอีก ถ้าโห้หลีเฉินเข้าใจผิดจะทำไงดี?
เย้นหว่านร้อนใจมาก
เธอหันไปสบตาฉูรั่วไป๋อย่างไม่สบายใจ มองเขาเป็นเชิงขอร้อง
ฉูรั่วไป๋สายตาหลุบลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเข้าใจความหมายของเธอ แต่กลับไม่อยากยอมแพ้มากขึ้นไปอีก
ยิ่งเห็นโห้หลีเฉินอยู่กับเย้นหว่าน เขายิ่งรู้สึกขัดตามากขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...