สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน นิยาย บท 242

บทที่242 ยั่วยุ

เย้นหว่านก็เลยต้องเอาเนื้อหาของหนังสือทั้งสองเล่มมาเชื่อมกันแล้วก็อธิบายให้โห้หลีเฉินอีกรอบ

หลังจากพูดจบ ครั้งนี้เธอไม่ได้ถอนตัวออกเลยทันที แต่เอาแต่มองโห้หลีเฉินครั้งแล้วครั้งเล่า

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอก็ถามออกมาว่า “คุณโห้ เหมือนฉันจะจำได้ว่าคุณเคยเรียนเกี่ยวกับการออกแบบมาก่อน แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบได้ล่ะ? ”

และมันบังเอิญหรือไม่กันแน่ เขาหยิบหนังสือเล่มที่เธอกำลังต้องการพอดี และหนังสือเล่มก่อนหน้านี้ของเขา ก็ไม่รู้ว่าเขาอ่านจบรึยัง ยังไงเขาก็วางมันไว้บนโต๊ะอยู่แบบนั้น

โห้หลีเฉินมองลงมา สายตาก็บรรจบกับเย้นหว่านพอดี ระยะห่างที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก

สายตาของเขาลึกซึ้ง น้ำเสียงไพเราะราวกับเสียงของเชลโล น่าดึงดูดมาก

“เธอคิดว่าไงล่ะ? ”

หัวใจของเย้นหว่านเต้นผิดจังหวะในทันที

มองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้มากขนาดนี้ เธอก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ รู้สึกเหมือนเลือดกำเดาจะไหล

และหัวใจของเธอก็พลิกไปพลิกมาเหมือนกับโดนคลื่นโหดซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง เธอคิดว่ายังไงยังงั้นเหรอ? เหมือนกับว่าสิ่งแรกที่เธอคิดขึ้นมาได้ ก็คือเขาอ่านก็เพราะว่าเธอ

เหมือนกับหัวใจขึ้นมาอยู่ตรงลำคอ เย้นหว่านตกใจจนหน้าแดงเพราะว่าความคิดที่ใจกล้าและเหมือนกับว่าตรงไปตรงมามากที่สุดในปัจจุบันของตัวเอง

โห้หลีเฉินเห็นท่าทางที่เธอหน้าแดงจนถึงหู ก็เม้มปาก มีรอยยิ้มกระจายอยู่ทั่วสายตาของเขา

หลังจากนั้นเขาก็พูดอย่างนิ่งเรียบ “ รู้ไว้เยอะก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้มีทีมออกแบบมาพอดี ฉันก็เลยลองเรียนดู”

ถือว่ามันเป็นการอธิบาย ไม่ใช่การโต้หรือว่าหักล้าง

ใจของเย้นหว่านเต้นขึ้นๆ ลงๆ เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ประโยคที่ว่ารู้ไว้เยอะก็ดีกว่ามันทำให้เธอเชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์ จะสงสัยอะไรได้อีกล่ะ?

ไอคิวสูง เขานี่น่าสรรเสริญจริงๆ

เย้นหว่านตัดสินใจไม่ถกเรื่องนี้ต่อไปแล้ว ไม่ว่าสรุปแล้วโห้หลีเฉินจะเรียนออกแบบเพราะอะไร ยังไงมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอมากมายอยู่แล้ว

เย้นหว่านหันหน้ากลับมาแล้วอ่านหนังสือต่อ

ส่วนโห้หลีเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอก็กำลังพลิกหนังสืออยู่เหมือนกัน แต่ว่าแค่กวาดตามองครั้งเดียว เขาก็เข้าใจเนื้อหาในหน้านั้นทั้งหมดแล้ว แต่ว่าเขากลับไม่ได้เปลี่ยนหน้าทันที เขารอให้เย้นหว่านเปลี่ยนหน้าก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนพร้อมเธอ

เนื้อหาของทั้งสองคนได้ถูกดำเนินไปข้างหน้าพร้อมกัน

แน่นอนว่าเย้นหว่านไม่ทันสังเกตเห็นเรื่องนี้ เธอนึกว่าหนังสือคู่กันสองเล่มนี้ เนื้อหาน่าจะคล้ายกัน เพราะฉะนั้นความเร็วในการอ่านของโห้หลีเฉินก็ไม่น่าจะต่างจากเธอมากเท่าไหร่

หลังจากผ่านไปสักพัก ประตูห้องที่ปิดไม่สนิทก็ถูกผลักเข้ามาจากด้านนอก

ฉูรั่วไป๋ยังไม่ทันจะเดินเข้ามา ก็พูดว่า “ เสี่ยวหว่าน ขอโทษด้วยนะ ให้เธอรอนานเลย ห้องข้อมูลนั้นถูกล็อกไว้ ฉันต้องรอพนักงานเอากุญแจมาให้ ก็เลยช้าไปหน่อย”

พอพูดจบ ฉูรั่วไป๋ก็ถือเก้าอี้เดินเข้ามา

แต่พอเข้ามาแล้วก็เห็นคนสองคนที่อยู่ในห้องนั่งข้างๆ กัน ก็ทำให้เขาอึ้งไป

เขามองหน้าโห้หลีเฉินอย่างตะลึง พอเห็นท่าทีที่เขานั่งอยู่ข้างๆ เย้นหว่านอย่างสนิทสนม ทำให้เขารู้สึกไม่ดีในพริบตาเดียว

เขาก็แค่ไปหาเก้าอี้ ถึงแม้ว่าจะมาช้าไปหน่อย แต่ว่าโห้หลีเฉินมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

แล้วก็มองไปที่เก้าอี้ที่โห้หลีเฉินนั่งอยู่ แล้วก็เลยคิดไปถึงเรื่องที่กว่าพนักงานจะเอากุญแจมาให้เขาคือผ่านไปนานมาก ฉูรั่วไป๋ก็เข้าใจเรื่องราวในทันที ก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่าถูกวางแผนมา

เขากัดฟันแน่น “บังเอิญจังเลย ไม่คิดเลยว่าคุณโห้จะอยู่ที่นี่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าคุณโห้มาอ่านหนังสืออะไรที่นี่เหรอครับ? ที่นี่มีแต่หนังสือประเภทออกแบบ น่าจะไม่มีหนังสือประเภทธุรกิจเท่าไหร่นะครับ”

ประโยคคำถามง่ายๆ แต่ว่ามันเหมือนเป็นการตาต่อตาฟันต่อฟัน เปิดเผยจุดประสงค์ของการที่โห้หลีเฉินมาที่นี่

จะจีบผู้หญิงแต่ว่าตามมาถึงห้องสมุด ห้องเก็บข้อมูล นี่มันผิดศีลธรรมจริงๆ

แล้วอีกอย่างผู้ชายที่สูงส่งอย่างโห้หลีเฉิน โดนเปิดโปงต่อหน้าแบบนี้ ต้องรู้สึกรับไม่ได้แน่นอน แล้วต้องกลับไปเพราะว่าอายจนแทบเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีแน่นอน

ฉูรั่วไป๋คิดแบบนี้ แต่ว่าผลมันกลับไม่เป็นเหมือนที่คิดเอาไว้เลย

เห็นเพียงแค่โห้หลีเฉินยังคงนั่งอย่างสง่างามอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม ข้อต่อของนิ้วที่ชัดเจนพลิกหนังสือที่อยู่ตรงหน้าของเขา สูงส่งอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ เมินคำพูดของเขาไปซะจนหมดสิ้น

เย้นหว่านส่ายหน้า แต่ว่าในใจก็รู้สึกกลัดกลุ้ม ตอนนี้อุณหภูมิในห้องก็เหมือนจะปกตินิ หรือว่าเมื่อกี้เธอรู้สึกไปเองยังงั้นเหรอ?

น่าจะเพราะว่าโห้หลีเฉินอยู่ข้างๆ เธอก็เลยตื่นเต้นมากเกินไป ก็เลยรู้สึกหลอนไปเองล่ะมั้ง

ไม่ไปคิดอะไรให้มากมายอีกแล้ว เย้นหว่านก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป เธอมีความคิดที่เห็นแก่ตัวว่า รีบอ่านหนังสือให้จบ แล้วก็จะได้รีบออกไปจากที่นี่

เพราะว่าหนังสือของห้องเก็บข้อมูลนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้นำออกไปข้างนอก เพราะฉะนั้นเธอก็ทำได้แค่อ่าน และก็ศึกษาวิจัยอยู่ที่นี่

แต่ว่าที่นี่ โห้หลีเฉินก็อยู่ด้วย……

แต่ว่าก็โชคดีที่ฉูรั่วไป๋ก็มาด้วยเหมือนกัน ยังไงอยู่กันสามคนก็น่าอึดอัดน้อยกว่าอยู่กันสองคนเยอะเลย

แต่ว่าสิ่งที่เย้นหว่านนึกไม่ถึงก็คือ อยู่กันสามคนมันน่าอึดอัดน้อยกว่า แต่กลับทำให้ระหว่างผู้ชายสองคนนี้เกิดแรงเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟ ศึกระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็เข้มข้นขึ้น

อ่านไปอ่านมา เย้นหว่านก็พบจุดที่ไม่เข้าใจอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ จิตใต้สำนึกสั่งให้หันไปหาคำตอบจากโห้หลีเฉิน

และในตอนนี้เอง ฉูรั่วไป๋ก็กลับแย่งพูดขึ้นมาก่อน :

“ อันนี้ถ้าเกิดว่าลองเปลี่ยนมุมมองดู มองจากด้านข้างเธอจะสังเกตเห็นจุดที่พิเศษไม่เหมือนใคร”

พอได้ยินดังนั้น ดวงตาของเย้นหว่านก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าตาสว่าง เนื้อหาความรู้ที่ติดขัดอยู่เมื่อกี้นี้ ก็เหมือนกับเข้าใจมากกว่าครึ่งภายในพริบตาเดียว

เธอรีบหันไปมองฉูรั่วไป๋ แล้วก็ดันหนังสือไปทางเขา ปรึกษาหารือกับเขา

“แล้วไงต่อ? ”

เย้นหว่านเขยิบเข้าไปด้วยตัวเอง ฉูรั่วไป๋ยกมุมปากขึ้นอย่างผู้ชนะ แล้วก็แอบส่งสายตาไปยั่วเย้าโห้หลีเฉิน

เขาทำงานร่วมกับเย้นหว่านมาตั้งหลายวัน เข้าย่อมเข้าใจนิสัยการอ่านหนังสือของเย้นหว่านดี เวลาที่เธอเงยหน้าขึ้นมา 100%หมายความว่าเธอไม่เข้าใจเนื้อหานั้นๆ

และเขามักจะให้ความสำคัญกับหนังสือที่เย้นหว่านอ่านมาตลอด แล้วก็คอยเติมเต็มให้เธอ

เป็นทั้งครูที่ดีและเป็นเพื่อนที่คอยให้ความช่วยเหลือ เขาใช้ความพยายามมากเป็นพิเศษ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน