บทที่ 299 ความสะดวกของคุณนายน้อยตระกูลโห้
ตอนนี้จูเหลียนอีงจมสู่ความเศร้าเสียใจอย่างไม่มีทางถอนตัวได้ เดิมทีไม่ทันสนใจเย้นหว่าน
ถ้าไม่มีโห้หลีเฉินแล้ว สำหรับหล่อนแล้ว เย้นหว่านก็ไร้ความหมายไป
กลับเป็นเฝิงเสวียนหลัน เหลียวมองภาพด้านหลังของเย้นหว่านที่วิ่งหายไป ด่าอย่างเหยียดหยาม
“ยังเป็นพวกเนรคุณจริงๆ เห็นหลีเฉินไม่มีทางรอดแล้ว ก็รีบหนีไป ต่อไปยังต้องหาตำรวจมาจับหล่อน”
หล่อนกัดฟันด่า แต่ว่าแววตาลึกลงไป กลับประกายรอยยิ้มที่แผนการร้ายบรรลุผล
โห้หลีเฉินตายแล้ว งั้นทุกอย่างของตระกูลหล่อน มีความเป็นไปได้ที่จะได้สืบทอดตระกูลโห้ ทรัพย์สมบัติมหาศาลของตระกูลโห้นี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาจ้องตาเป็นมันมาหลายสิบปี ในที่สุดตอนนี้ก็มีโอกาสแล้ว
ในใจเฝิงเสวียนหลันเป็นความเบิกบานที่พูดไม่ออก
เย้นหว่านวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลอึดใจเดียว โบกรถแท็กซี่ที่ข้างทาง ไปยังร้านอาหาร153ที่นัดไว้กับป่ายฉี
เดิมทีนัดกันตรงร้านอาหารที่คึกคักที่สุด เป็นเพราะความปลอดภัยของตนเอง แต่ว่าตอนนี้ ความคึกคักนี้กลับเป็นอุปสรรคที่เย้นหว่านอยากจะย้ายออกตอนนี้แบบเร่งด่วนที่สุด
ยังมีระยะห่างถนนอีกหลายเส้น รถติดชะงัก หลายนาทีถึงขยับไปด้านหน้าด้วยระยะทางไม่กี่เมตร
ลงไปแบบนี้ รอผ่านระยะทางที่เบียดเสียดนี้ไป อย่างน้อยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่า
แต่โห้หลีเฉินอยู่ในขีดอันตราย สามารถรอนานขนาดนั้นได้ที่ไหน
ถึงแม้ป่ายฉีฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยม ก็ไม่อาจจะชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้
เย้นหว่านร้อนใจไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ลงมาจากบนรถทันที วิ่งไปทางร้านอาหาร153
เธอแสดงความสามารถที่ซ่อนอยู่ ความเร็วระดับวิ่งร้อยเมตร วิ่งอย่างบ้าระห่ำไปด้านหน้าเหมือนไม่รู้จักเหนื่อย
ระหว่างทาง ระยะห่างที่ไกลขนาดนั้น คาดไม่ถึงเธอไม่ได้หยุดสักนิดแม้แต่หยุดพัก พุ่งไปที่ร้านอาหาร153โดยตรงแบบอึดใจเดียวอย่างอดทนมากกว่านักกีฬาวิ่งมาราธอนเสียอีก
“คุณผู้หญิง ขอโทษนะคะคุณจองโต๊ะไว้ล่วงหน้ารึเปล่าคะ?”
พนักงานมองเย้นหว่านที่สีหน้าแดงด้วยความตกใจ ไม่นานก็สงบลงมา สอบถามแบบมืออาชีพ
เย้นหว่านยังไม่สิ้นเปลืองแม้แต่เวลาตอบหล่อน มองก็ไม่มองพนักงาน เดินไปด้านในโดยตรง
ที่นี่เธอเคยเข้ามาแล้ว จึงหาตำแหน่งที่นั่งที่จองไว้เรียบร้อยไปทันที
แต่ว่าที่นั่งนั้นในเวลานี้กลับว่างเปล่า ไม่มีใครสักคนหนึ่ง เพียงแต่บนโต๊ะยังมีกาแฟที่ถูกดื่มแล้วสองแก้ว เย็นชืดไปหมด
เวลานี้ก็มีพนักงานจะเก็บกวาดโต๊ะ
ชั่วขณะนั้นเย้นหว่านระลึกถึงสิ่งไม่ดี จับพนักงานเอาไว้อย่างรีบร้อน ถามด้วยความประหม่า
“คนที่โต๊ะนี้ล่ะ? ไปแล้วเหรอ? ไปเมื่อไรกัน?”
พนักงานถูกจับไว้กะทันหัน ตกใจไป พอมองอีกทีเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ว่าสายตาที่ดุร้ายของเธอนั้นก็น่าตกใจมาก
เขารีบตอบกลับ “พึ่งไปได้ไม่กี่นาทีครับ”
ไม่กี่นาที นั่นแสดงว่าเพียงแค่ออกไปข้างนอกไม่ได้ขึ้นรถไปกัน เดาว่ายังไปได้ไม่ไกล
เย้นหว่านปล่อยพนักงานออก เหมือนธนูพุ่งออกไปแล้ว
ทิ้งพนักงานสองคนที่มึนงงมากเอาไว้ มองภาพด้านหลังของเย้นหว่านอยู่ สักพักถึงมีปฏิกิริยาเข้ามา
“คุณผู้หญิงท่านนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?”
“ดูขึ้นมาเหมือนว่า……”
“อาจจะอาการกำเริบแล้ว”
สีหน้านั้นดูเหมือนไม่ปกติเอามากๆ ลมหายใจยิ่งไม่ปกติ เร่งรีบราวกับจะระเบิดแล้ว
พนักงานประชาสัมพันธ์คิดนิดหน่อย ถึงจำลักษณะของเย้นหว่านขึ้นได้
ตอนนี้ดูขึ้นมาเย้นหว่านแก้มแดงอย่างรุนแรง สีหน้าซีดเผือด ราวกับใกล้จะถอดออกจากร่างมนุษย์ ทำให้คนพอมองแวบแรกจำไม่ได้ แต่พอมองอย่างละเอียด ไม่ใช่เย้นหว่านนักออกแบบชื่อดังช่วงเวลาก่อนหน้านี้เหรอ
เรื่องของเธอกับโห้หลีเฉิน หยิบมาสักเรื่องแบบเรื่อยเปื่อย สามารถกระเตื้องอัตราการชมของสถานีโทรทัศน์ทั้งหมดได้
“คุณเย้นคะ ขอโทษด้วยค่ะ คุณรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันจะติดต่อให้”
ยืนยันสถานะของเย้นหว่านแล้ว พนักงานประชาสัมพันธ์จึงรีบไปโทรศัพท์หาผู้รับผิดชอบด้วยความกระตือรือร้น
เย้ยหว่านมาหาถึงสถานีโทรทัศน์เจอได้ แสดงว่าต้องมีธุระแน่ ไม่แน่ว่าจะนำธุรกิจก้อนโตมาให้สถานีโทรทัศน์ของพวกเขา ถึงตอนนั้นแม้แต่เป็นรางวัลของประชาสัมพันธ์ก็คงไม่หนีไปไหน
โทรศัพท์ไปได้ไม่นาน ในลิฟต์มีชายวัยกลางคนที่เจ้าเนื้อคนหนึ่งลงมา
บนหน้าเขาล้วนเป็นรอยยิ้มที่เอาใจ เอ่ยปากทักทายมาแต่ไกล
“คุณเย้น ขอโทษด้วยครับ ให้คุณรอนานเลย”
ตอนเขาเดินมาถึง ยื่นมือทักทายเย้นหว่าน “สวัสดีครับ ผมเป็นผู้รับผิดชอบแผนกโฆษณาครับ หวางควน”
“คุณหวาง ที่ฉันมามีเรื่องหนึ่งอยากให้คุณช่วยเหลือ”
เย้นหว่านเปิดอกตรงไปตรงมา พูดไปทันที
หวางควนเห็นเย้นหว่านท่าทีรีบร้อน ไม่ได้เล่นสำบัดสำนวนต่อไปอีก บอกว่า “คุณเย้น เชิญคุณว่ามา ขอเพียงสามารถช่วยเหลือได้ ผมจะช่วยแน่ครับ”
ล้อเล่นรึเปล่า เย้นหว่านเป็นคู่หมั้นของโห้หลีเฉิน คุณนายน้อยตระกูลโห้ในอนาคต สามารถช่วยเหลือเธอได้สักครั้ง ให้เธอติดหนี้น้ำใจ ไม่ว่าสำหรับการเติบโตของสถานีโทรทัศน์ หรือว่าสำหรับอนาคตของเขา ล้วนมีความช่วยเหลืออย่างมาก
เธอรู้ความคิดของคนคนนี้ นี่คือจุดประสงค์ที่เย้นหว่านนำสถานะคู่หมั้นของโห้หลีเฉินออกมา
ถ้าเธอเป็นคนธรรมดามา กลัวว่าตอนนี้ยังคงไม่ได้เจอกับผู้รับผิดชอบคนนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นจะลงมาต้อนรับด้วยตนเอง
เย้นหว่านบอก “ฉันต้องการหาคนคนหนึ่ง จำเป็นต้องเปลี่ยนหน้าจอโฆษณาของเมืองหนานทั้งหมด ล้วนเปลี่ยนเป็นเนื้อหาที่ฉันต้องการหาคน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...