บทที่ 42 นอนกับฉันสิ
มู่จื่ออี้ ไม่ใช่ไม่มีความรู้สึกต่อวางหนิงเวยแล้วแต่ว่าพวกเขาไม่สามารถทำอะไรก็ตามได้อีกต่อไปแล้วและทุกครั้งที่วางหนิงเวยเข้ามายุ่งกับเขานั้นมันทำให้เขาคิดถึงเรื่องราวในอดีตแล้วทำให้เขารู้สึกแย่ การไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีก ไม่มีการติดต่อใดๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดระหว่างพวกเขาแล้ว
มู่จื่ออี้ลังเลเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณพูดมาสิ”
วางหนิงเวยมองไปทางเย้นหว่านแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปนน้อยใจว่า “ฉันอยากคุยกับคุณตามลำพัง”
เย้นหว่านเองก็ไม่ได้อยากอยู่เป็นก้างขวางคอที่นี่จึงหันไปพูดกับมู่จื่ออี้ ว่า “ฉันกลับไปที่โรงแรมก่อนนะ”
มู่จื่ออี้ขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแค่เอ่ยเตือนว่า “ตอนกลับไปก็ระวังๆ ด้วยนะ”
ที่นี่ไม่ได้ไกลจากโรงแรมดังนั้นเย้นหว่านก็โบกมือให้มู่จื่ออี้แล้วเดินออกมาอย่างสบายๆ เมื่อเธอเดินมาถึงโรงแรมอย่างรวดเร็วก็พบกับพนักงานหลี่อันที่มาต้อนรับพวกเขาเมื่อตอนกลางวัน
“คุณเย้น ทำไมกลับมาแล้วล่ะครับ?”
“พอดีเหนื่อยนิดหน่อยแล้วอยากพักผ่อนน่ะค่ะ” เย้นหว่านตอบกลับอย่างสุภาพ
หลี่อันมองไปทางเย้นหว่าน แล้วเอ่ยปากพูดอย่างลำบากใจ “ในเมื่อคุณเย้นกลับมาแล้ว คุณจะช่วยผมได้ไหมครับ? เพราะคนอื่นๆ อยู่ที่งานเลี้ยงกันหมด ผมหาคนอื่นไม่เจอมาสักพักแล้วครับ”
เย้นหว่านมองไปไม่ไกล นอกจากแผนกต้อนรับและพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ของโรงแรม แล้วก็ดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นพนักงานคนอื่นๆ เลย
เย้นหว่านก็ถามอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก “คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไร?”
“ผมกำลังหาของที่สำคัญมากต้องใช้อย่างเร่งด่วนครับ” หลี่อันพูดแล้วก็พาเย้นหว่านเดินไปทางด้านอื่นของชายทะเล “ผมต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้คุณลำบาก ตอนนี้ผมไม่ทันเวลาแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นผมก็จะค่อยๆ หาด้วยตัวเองครับ”
เย้นหว่าน มองไปทางที่พนักงานเดินไปก็รู้สึกสงสัย “ไม่ได้อยู่ในโรงแรมเหรอคะ?”
“อ๋อครับ มีบ้านพักหลังเล็กตั้งริมชายหาดในนั้นมีห้องเก็บข้อมูลอยู่ครับ” หลี่อันอธิบายอย่างขาดความมั่นใจที่แวบขึ้นมาบนใบหน้า
เดินไปไม่นาน เย้นหว่านที่เดินตามหลี่อันก็ถึงบ้านพักหลังเล็กซึ่งบ้านพักหลังนี้ตั้งอยู่ชายทะเลเพียงหลังเดียวมันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมทะเล
หลี่อันเปิดประตู “ขอโทษนะครับ ของเยอะมากเลย”
เย้นหว่านมองตามทันทีก็เห็นว่าห้องนั้นเต็มไปด้วยเอกสารและวัสดุหลากหลาย เธอไม่ได้เดินเข้าไปในทันที “ของพวกนี้ใช้สำหรับการแข่งขันหรือเปล่า? ฉันเป็นผู้เข้าแข่งขันให้เข้าไปก็คงไม่เหมาะนะคะ”
“อย่าเข้ามานะ! ฉันไม่ใช่คนที่คุณพูดถึง อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ” เย้นหว่านตื่นตระหนกมือไม้อ่อนแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาหวังจะโทรขอความช่วยเหลือ แต่ก่อนที่จะกดโทรออกไป โทรศัพท์มือถือก็ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยแย่งเอาไปแล้วโยนลงพื้น
“อย่ามาเสแสร้งแกล้งทำหน่อยเลย ที่กูมาที่นี่ก็เพื่อจะมานอนกับมึงในคืนนี้” พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าไปคว้าตัวของเย้นหว่านแล้วกดเธอลงบนโต๊ะอย่างหยาบคายแล้วกดร่างกายแนบลงมาอย่างใกล้ชิด กลิ่นของชายคนนั้นที่เหม็นโชยคละคลุ้งทำให้เย้นหว่านรู้สึกสะอิดสะเอียน เธอต่อสู้และดิ้นรนสุดกำลัง “สารเลว ออกไปนะ ออกไปให้พ้น......”
“แควกกก” แต่สิ่งที่ตอบรับมากลับเป็นเสียงของคอเสื้อเธอที่ถูกฉีกออกมา
พนักงานรักษาความปลอดภัยกดเธอแล้วใช้มือลูบไล้อย่างหื่นกาม
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ออกไป....” เย้นหว่านร้องเสียงดังอย่างหวาดกลัว แต่พละกำลังของผู้ชายก็ต่างจากผู้หญิงมากจนทำให้เธอไม่สามารถดิ้นรนได้ การถูกล่วงละเมิดที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ร่างของเธอสั่นเทาและทำให้เธอนึกถึงคืนอันเลวร้ายโดยที่ตัวเองไม่ได้สมัครใจนั้น ฝันร้ายนั้นย้อนกลับมาความหวาดกลัวเข้ามาทับซ้อนกับเหตุการณ์ในตอนนี้ เธอถูกบังคับอีกครั้ง...... เย้นหว่านกลัวจนเข้ากระดูกแม้แต่ลมหายใจก็สั่นระริก ในเวลาที่เธอหวาดกลัวจนแทบจะสิ้นหวังนั้น “ปัง” ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงที่ประตูถูกคนใช้เท้าถีบให้เปิดออกอย่างแรง ร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินปรากฏขึ้นที่ประตู เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ในห้องแล้วทั้งร่างกายเขาก็พลันแผ่หมอกปกคลุมไปทั่วอย่างน่าหวาดกลัว
“รนหาที่ตายหรอ!” เขาก้าวเท้าเข้ามาแล้วคว้าตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยผลักออกจากเย้นหว่านจนกระเด็นไปกระแทกกำแพงอย่างแรงจนล้มลงไปกองที่พื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลออกจากมุมปาก
เย้นหว่านที่เสื้อผ้าบนกายถูกฉีกออกเกือบหมดและแขนมีรอยช้ำจากการถูกบีบอย่างแรง เธอดูหวาดผวาและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก
"ไม่เป็นไรแล้วนะ" โห้หลีเฉินเอ่ยปลอบโยนเบาๆ แล้วถอดเสื้อตัวนอกของเขาออกมาคลุมตัวให้เย้นหว่าน
เขากำลังจะเอื้อมมือออกไปอุ้มเธอขึ้นมา แต่เย้นหว่านก็เลี่ยงเขาแล้วลงมาจากโต๊ะ ใบหน้าของเธอซีดเซียวและร่างกายก็ยังคงสั่นเล็กน้อย แต่ดวงตาของเธอที่มองโห้หลีเฉินกลับดูห่างเหิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...