บทที่475 เขาหายไปแล้ว
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ จิตใจกระสับกระส่าย
หยูซือห้านผู้นี้อย่างกับแมลงสาบฆ่าไม่ตายที่น่าขยะแขยง
“เฮอะ คุณชายหยูกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อ ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะผูกสัมพันธ์กับผมขนาดนั้น จะเรียกผมว่าคุณอา ผมก็ไม่ติดขัด”
กู้ซึงก้าวไปสองก้าวอย่างสง่างาม ร่างสูงของเขายืนอยู่ตรงหน้าเย้นหว่านอย่างไม่เอนเอียง ปกป้องเธอไว้ข้างหลังเขา
เขาจ้องตรงไปยังหยูซือห้าน มุมปากยกยิ้มอย่างร้ายกาจ “หลานชาย”
สีหน้าของหยูซือห้านพลันมืดลงทันที!
กู้ซึงเรียกเขาแบบนั้น เดิมก็เพื่อจงใจเย้ยหยันเขา
เขาคิดจะตอบโต้อย่างหงุดงิด แต่ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่พูดว่ากู้ซึงคือโห้หลีเฉิน คืออาของเขา ถ้าตอนนี้ไม่ยอมรับคำเรียกนี้ นั่นก็ตบหน้าตัวเองแล้วล่ะ
หยูซือห้านเม้มปากแน่น ในใจทั้งโกรธทั้งอึดอัด
ตระกูลเย้นเห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวอย่างลับ ๆ ไม่ได้ แม้แต่สายตาที่มองกู้ซึงก็ดีขึ้นไม่น้อย
การแสดงออกของกู้ซึงไร้ขอบเขต ยิ่งไม่ใส่ใจเมินเฉยใส่ตระกูลเย้น กระทั่งกับตัวตนของโห้หลีเฉินก็ยังไม่สนใจ
หากเขาคือโห้หลีเฉินตัวจริง คงไม่มีทางทำเรื่องที่บ่อนทำลายชื่อเสียงของตัวเองแบบนี้ออกมาแน่
ทำให้หลานชายอัปยศแบบนี้ ไม่เท่ากับทำให้ตัวเองอับอายหรอกเหรอ?
ด้วยเหตุนี้ กู้ซึงคนนี้ เกรงว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับโห้หลีเฉินแม้แต่น้อยจริง ๆ
ข่าวลือพวกนั้นก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเท็จ
ลุงมองไปยังกู้ซึง พยักหน้าให้กับเขา ก่อนหันไปมองกงจืออวี เอ่ยด้วยน้ำเสียงเมตตา
“ในเมื่อเรื่องกระจ่างชัดแล้ว เป็นเพียงข้อเข้าใจผิด ก็หยุดกันแค่นี้เถอะ”
ลุงป้าคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าแสดงความเห็นด้วยเช่นกัน
ใบหน้าของหยูซือห้านหม่นมืดอย่างหนัก กำหมัดแน่นอย่างไม่เต็มใจ กัดฟันเพื่ออดกลั้นกลืนกองไฟในท้องกลับเข้าไป
คราวนี้ เขาคงพ่ายแพ้แน่แล้ว
จะพูดอะไรอีกก็คงพัดคลื่นพายุให้ใหญ่ขึ้นไม่ได้
แต่จะให้ปล่อยกู้ซึงไปแบบนี้ หัวใจที่ไม่ยอมรับของเขาก็เจ็บปวด
เย้นหว่านเห็นลุงป้าหลายคนผ่อนลง ในที่สุดก็ปล่อยหินที่ทับอยู่ในใจลงได้
แม้ไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินปิดฟ้าข้ามทะเลมาได้ยังไงกันแน่ แต่ผลท้ายที่สุดนั้นดีที่สุด ปกปิดไปได้อย่างราบรื่น
เธอกับโห้หลีเฉินยังมีโอกาสที่จะย้อนคืนมาได้
กงจืออวีพยักหน้า ก่อนเงยขึ้น สายตาอ่อนโยนมองไปที่กู้ซึงอย่างขออภัย
“กู้ซึง ขอโทษด้วย เป็นความเข้าใจผิดของพวกเรา ทำให้เธอได้รับความไม่เป็นธรรม”
กงจืออวีพอใจกับผลลัพธ์นี้ ถึงยังไงเธอก็มองกู้ซึงในแง่ดี และหวังว่ากู้ซึงกับเย้นหว่านจะได้อยู่ด้วยกัน ให้ความสุขกับเธอไปตลอดชีวิต
กู้ซึงยิ้มอย่างสุภาพบุรุษ เอ่ยอย่างไม่ถือสา “ไม่เป็นไรครับ ข่าวลือในช่วงนี้ก็รบกวนผมอยู่บ้าง ตอนนี้ได้ตรวจสอบอย่างชัดเจน ผมก็ลดเรื่องวุ่นวายไปได้มากเหมือนกัน”
เย้นโม่หลินได้ยินดังนั้น จึงก้าวออก พูดอย่างจริงจัง
“วางใจเถอะ คุณได้รับความไม่เป็นธรรมในครั้งนี้ ไม่รับไปเสียเปล่าแน่ ฉันรับรองว่า จะจับผู้อยู่เบื้องหลังออกไป ไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่!”
น้ำเสียงเย็นลอดไรฟันนั้น มีความโหดเหี้ยมเฉียบขาด
ร่างกายของหยูซือห้านแข็งค้างอย่างช่วยไม่ได้ เหงื่อสองสามเหงื่อผุดออกมาจากหน้าผาก
ข่าวลือนี้ ก็เป็นเขาจัดเตรียมคนกระจายมันออกไปนี่!
ถ้าหากเย้นโม่หลินตรวจเจอว่าเขาทำเรื่องแบบนี้อยู่เบื้องหลัง น่ากลัวว่าเขาคงจะไม่สามารถอยู่ที่ตระกูลเย้นต่อไปได้อีก
เวลาที่เหลืออยู่ให้เขา คงจะไม่มากแล้ว
เธอตัวสั่นระริก กัดฟัน “นายไม่ใช่โห้หลีเฉิน!”
กู้ซึงเอนหลังพิงกำแพงอย่างเฉื่อยชา บนหน้ายังคงมีรอยยิ้ม ไม่มีความตื่นตระหนกที่ถูกเปิดโปงแม้แต่น้อย
เขาเอ่ยชมอย่างแผ่วเบา “เธอฉลาดจริง ๆ”
เย้นหว่านกลับไม่ดีใจเลยแม้แต่น้อย เธอพลันรู้สึกว่าหัวใจเย็นเยียบลง
จนตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้ตัว เธอฉลาดที่ไหนกัน ช่างโง่เขลาจริง ๆ !
มิน่าตอนป่ายฉีตรวจ ถึงตรวจไม่พบร่องรอยการปลอมตัวของกู้ซึง นี่ไม่ได้ปลอมตัวแน่นอน ตรงหน้านี้ที่จริงแล้วคือกู้ซึงตัวจริง!
เพราะอย่างนี้เขาถึงได้พูดจาเหยียดหยามตระกูลหยูพวกนั้นอย่างไร้ความรับผิดชอบ ไร้ยางอายขนาดนั้น
เพราะแท้จริงเขาไม่ใช้คนตระกูลหยูอยู่แล้ว
ตอนอยู่ที่ห้องโถงเย้นหว่านลนลานเกินไปจริง เธอกลัวเกินไป กู้ซึงก็จงใจแสดงเป็นสไตล์ของโห้หลีเฉินก่อนหน้านี้อีก เธอก็ไม่มีเวลาได้สงสัย
เย้นหว่านกัดฟันอย่างหงุดหงิด รีบถามออกไป “แล้วโห้หลีเฉินล่ะ? เขาไปไหนแล้ว?”
“เสี่ยวหว่าน พอเธอรู้ตัวตนของฉัน ก็ไม่มองฉันอยู่ในสายตาทันทีเลยนะ เธอรู้รึเปล่า ว่าความรู้สึกแตกต่างนี้มันทำให้หัวใจที่เปราะบางของฉันแตกสลายเลยนะ?”
กู้ซึงพูดหยอกล้อ ทั้งยังจงใจยื่นมือสัมผัสที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง
เย้นหว่านมองพลางมุมปากกระตุก แขนนั่น เป็นแขนข้างที่เธอเพิ่งจะจูงมา
การแสดงออกแบบนั้นของเธอต่อเขา ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ช่างขายหน้าจริง ๆ
เย้นหว่านหน้าแดงระเรื่อ พูดเสียงแข็ง “ฉันกับนายก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกเท่านั้น หัวใจนายจะแตกสลายแล้วงั้นเหรอ? เลิกพูดไร้สาระ รีบบอกฉันมาว่าโห้หลีเฉินอยู่ที่ไหน?”
เธอค่อนข้างร้อนใจ อยากจะเจอเขาเสียเดี๋ยวนั้น
กู้ซึงกลับส่ายหน้า น้ำเสียงทุ้มต่ำอันตราย
“เสี่ยวหว่าน ในเมื่อฉันก็มาแล้ว โห้หลีเฉินก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ที่นี่อีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...