บทที่ 52 ทำไมถึงหลับอยู่บนเตียงเดียวกัน
กอดไว้อย่างแนบชิด ระยะห่างที่คลุมเครือ ทำให้เย้นหว่านอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกและกังวล
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าเพราะอ้อมแขนของชายหนุ่มอุ่นเกินไปหรือว่าจริงๆแล้วเธอเหนื่อยเกินไป เธอกลับหลับไปในอ้อมแขนของเขาโดยไม่รู้ตัว
แล้วยังหลับสบายมากเป็นพิเศษ จนรู้สึกถึงฟ้าสาง
เย้นหว่านก็ลืมตา เห็นบนสุดของเต็นท์ แข็งทื่อสักพัก จึงหันกลับมา
เธอกำลังคิดจะยกมือขึ้น มีสิ่งของบางอย่างกระทบแขนของเธอ รู้สึกสบายมาก นุ่มลื่น แล้วยังอุ่นมากราวกับผิว…..
ทันใดนั้นเธอก็หยุดชะงัก สมองรู้สึกหนึบชา แล้วเธอก็ฟื้นสติขึ้นมา
เธอเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงหันไปมองด้านข้าง ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่ทำให้ผู้คนลมหายใจติดขัด
เขากำลังมองเธอ ดูเหมือนจะมีรอยยิ้มในแววตา
“ตื่นแล้วหรอ?”
“ตื่น ตื่นแล้วค่ะ……”
ทำไมพวกเขาถึงได้นอนอยู่บนเตียงเดียวกันล่ะ?
และสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นขนาดนี้…...แม้แต่ชุดนอนก็ไม่มี
ในสมองของเย้นหว่านสติแตก ตัวสั่นไหวอย่างรุนแรง แทบจะแตกระเบิด
เธออึดอัดใจแทบแย่ รีบดึงผ้าห่มอย่างรวดเร็วแล้วจะลุกขึ้น เวลานี้แขนที่แข็งแรงของชายหนุ่มกลับคว้าเอวของเธอไว้ ทำให้เธอหยุดชะงักไม่สามารถขยับได้
โห้หลีเฉินสายตาจ้องมองเย้นหว่าน ใช้มือข้างเดียวลูบหัว ใบหน้าหล่อเหลาจึงโน้มเข้าไปใกล้เธอ เสียงของเขาแผ่วเบามาก เสียงแหบพร่า
“เป็นลูกน้อยอบอุ่นของคุณทั้งคืน ไม่มีการขอบคุณสักนิด ก็คิดจะจากไปแบบนี้หรอ?”
“งั้น ก็ขอบคุณนะ….”
เย้นหว่านรู้สึกเครียดกังวลใจ แทบจะสติแตกแล้ว
ใกล้กันขนาดนี้ เธอได้ยินกลิ่นลมหายใจหอมอย่างชัดเจนบนร่างกายโห้หลีเฉิน สามารถมองเห็นภาพที่น่าหลงใหลภายใต้กระดูกไหลปลาร้าของเขา…..
"ผมทำเอง"
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากดูเหมือนกับมีรอยยิ้ม
ต่อมา เขาเอนกายลงริมฝีปากบางก็ประทับลงบนหน้าผากของเย้นหว่าน
ทันใดนั้นเย้นหว่านทั่วทั้งร่างแข็งทื่อกลายเป็นท่อนไม้
โห้หลีเฉินจูบเธอหรอ?
ไม่ใช่ว่าอยู่ภายใต้สถานการณ์การที่หญิงโสดชายโสด
อารมณ์พลุ่งพล่าน และอยู่ในช่วงเช้า……
จูบอย่างผิวเผินลงบนหน้าผาก ให้สัมผัสเหมือนกับจูบอรุณสวัสดิ์
เขา เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
เว่ยชีแน่นอนว่ามาตั้งแต่เช้าตรู่ โห้หลีเฉินเดินออกไปข้างนอกก่อน แล้วให้เว่ยชีนำชุดใหม่มาสองชุด
หลังจากเย้นหว่านเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงขึ้นเรือยอชท์ เตรียมกลับโรงแรม
เห็นได้ชัดว่าเพียงแค่ออกมาหนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ทั้งวันนี้ได้ผ่านอะไรมามากมาย ทำให้สมองของเย้นหว่านฟุ้งซ่าน จนกระทั่งไม่กล้าแม้จะเข้าไปดูโห้หลีเฉิน
เธอรู้สึกว้าวุ่นใจมาก
เย้นหว่านและโห้หลีเฉินกลับโรงแรมด้วยกัน เพิ่งจะถึงประตูโรงแรม เย้นหว่านก็เห็นมู่จื่ออี้
สีหน้าเขาไม่ค่อยดี พยายามกำลังโทรอยู่ตลอด ดูเหมือนจะหงุดหงิดอย่างมาก
“จื่ออี้ เป็นอะไรไปค่ะ?”
เย้นหว่านเดินเข้าไปถาม
มู่จื่ออี้เห็นเย้นหว่าน ความดีใจพาดผ่านดวงตา สาวเท้าเดินเข้ามายังเย้นหว่าน
มีความตื่นเต้นในน้ำเสียงอย่างควบคุมไม่ได้ “ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว เมื่อคืนไม่เห็นคุณทั้งคืนเลย และก็โทรไม่ติด แล้วผมยังนึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับคุณ”
หยุดชะงัก แล้วเขาก็ประเมินสายตามองทั่วร่างกายของเย้นหว่านตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียด
“เมื่อคืนคุณไปไหน ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“สบายดีค่ะ โทรศัพท์มือถือฉันตกน้ำ ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเป็นห่วง”
เย้นหว่านยิ้ม สำหรับความห่วงใยของมู่จื่ออี้ รู้สึกอบอุ่นใจ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันไม่นาน แต่มู่จื่ออี้ดีต่อเธอจริงๆ เป็นเพื่อนแท้
“คุณโห้ แล้วพบกันใหม่”
เย้นหว่านอารมณ์ดี ยิ้มแล้วโบกมือให้โห้หลีเฉิน จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรม
ขณะเดินไปแล้วก็ถามไป " คุณวางเอกสารไว้ที่ไหน"
"ที่ห้องผม"
ก่อนที่มู่จื่ออี้จะเดินไป มองไปทางโห้หลีเฉินด้วยสายตายากจะคาดเดา
โห้หลีเฉินเงยหน้า สายตาตกตะลึงเล็กน้อยในขณะที่มองไปที่เขา ในสายตามีลางบอกเตือนเล็กน้อย
ท่ามกลางอากาศเหมือนจะจุดประกายไฟ
ความเป็นศัตรู แพร่กระจายออกมาอย่างเงียบ
หลังจากที่ทุกคนออกไปจากประตูโรงแรม ผู้หญิงสองคนเดินออกมาจากมุมซ่อนตัวของห้องโถง
โอวน่อหย่าเห็นทิศทางที่เย้นหว่านออกไป ใบหน้าสวยดูร้ายกาจเป็นพิเศษ
วางหนิงเวยสีหน้าก็ดูย่ำแย่มาก จ้องมองโอวน่อหย่าอย่างตำหนิ
"คุณสาบานว่าพวกเขาจะไม่มีทางหาหลี่อันเจอไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงผ่านไปสองวัน หลี่อันก็ปล่อยให้ถูกจับได้
ตอนนี้ไม่เพียงแต่เย้นหว่านจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้อย่างราบรื่นแล้ว มู่จื่ออี้ยังคอยช่วยเหลือเธออยู่ข้างกายตลอดเวลา
“ที่แท้ก็ไม่ง่ายเลยที่จะหาหลี่อันพบ….”
โอวน่อหย่าภายใต้การแสดงออกที่ชั่วร้ายนั้น รู้สึกหวั่นกลัวเล็กน้อย “แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าคุณโห้จะช่วยเย้นหว่านแบบนี้
ทีแรกเธอได้นำตัวหลี่อันไปซ่อนไว้แล้ว เตรียมตัวส่งกลับไป แต่ใครจะไปรู้ว่าโห้หลีเฉินทุ่มเทแรงกายมากขนาดนี้ ลงมือปฏิบัติการที่ยิ่งใหญ่
ปิดล้อมทั้งเมือง ค้นหาทั่วทุกที่ เพียงแค่ปล่อยหลี่อันออกมาให้จับตัว
วางหนิงเวยขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยอิจฉาริษยา เธอเพื่อแต่งงานกับมู่จื่ออี้ จึงวางแผนอย่างรอบคอบมานานหลายปี จึงไม่ง่ายเลยที่จะได้ใจของมู่จื่ออี้ แล้วถูกเขาขอแต่งงานได้สำเร็จ
แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ในพิธีหมั้น เธอและตระกูลทรงอิทธิพลไร้ซึ่งวาสนา
ยากลำบากมากที่เธอจะได้โอกาสสักครั้งเข้าไปในตระกูลทรงอิทธิพล แต่เย้นหว่านล่ะ กลับทำให้โห้หลีเฉิน
มู่จื่ออี้ ชายหนุ่มที่ดีเพียบพร้อมทั้งสองคนนี้รายล้อมเธออย่างง่ายดาย
"มีสิทธิ์อะไรกัน?" วางหนิงเวยแผดเสียงเบาอย่างไม่พอใจ "ฉันต้องทำให้เย้นหว่านไม่มีที่ยืน! ในเมื่อตอนนี้เธอมีชายหนุ่มสองคนรายล้อม งั้นฉันก็ทำให้เธอตายที่เหยียบเรือสองแคม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...