บทที่559 พวกเธอเป็นใคร
“มองอะไรนักหนา? เข้าไป!”
สีหน้าของสาวใช้มืดครึ้มออกมาทันที เดินไปข้างๆก้าวหนึ่ง เพื่อบดบังสายตาของเย้นหว่านเอาไว้
จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปทันที ผลักเย้นหว่านเข้าไปในห้องอย่างหยาบคาย
“ปัง!”
เสียงหนึ่งดังขึ้น ประตูห้องถูกปิดลง
สาวใช้ทั้งสี่คนยืนเรียงแถวกันอยู่หน้าประตู เหมือนกับกำแพงหนึ่งแนวไม่มีผิด บล็อกทางออกของเย้นหว่านเอาไว้
เห็นได้ชัดว่าความหมายของพวกหล่อนก็คือไม่ต้องการให้เธอออกไปนั่นเอง
ในใจของเย้นหว่านยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นกว่าเดิม
เธอเริ่มตระหนักได้ว่าเธอไม่ได้ถูกช่วยมาเลยด้วยซ้ำ แต่เหมือนกับว่าจะถูกขังเอาไว้...
เธอถอยไปข้างหลังอย่างระวังตัว เอ่ยถามออกไปเสียงเข้ม
“พวกเธอเป็นใคร?”
“พวกฉันเป็นใคร เธอไม่ต้องรู้ เธอแค่ต้องนอนอยู่ที่นี่ให้ดีๆ พักผ่อนให้ร่างกายฟื้นฟูดีขึ้น”
สาวใช้พูดเสียงแข็งออกมา แล้วได้เดินเข้าไปทางเย้นหว่าน
ส่วนสาวใช้อีกสองคน กลับเดินไปเครื่องที่มีสายพวกนั้นอยู่ข้างๆ เริ่มทำการล้างทำความสะอาดสายยางที่เปื้อนเลือดไปอย่างคล่องแคล่ว
เย้นหว่านเห็นแล้วก็รู้สึกกลัวขึ้นมา นี่พวกเธอจะสอดสายอะไรแปลกๆพวกนั้นเข้ามาบนร่างของเธออีกงั้นหรอ?
พูดว่ารักษาร่างของเธอให้ดี ความจริงแล้ว กลับไม่รู้ว่าตกลงแล้วกำลังคิดยังไงอยู่กันแน่
ไม่แน่ว่าอาจจะสูบเลือดเธอไปจนเกลี้ยงก็ยังไม่แน่เลยด้วยซ้ำ
เย้นหว่านยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวขึ้นมา ถอยออกไปทีละก้าวๆ ร้องตะโกนออกไปอย่างกระวนกระวาย
“พวกเธอรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร? ! ฉันเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเย้น พี่ชายฉัน พ่อแม่ฉันมีอำนาจล้นฟ้า! ทางที่ดีพวกเธอรีบให้ฉันออกจากที่นี่ไปดีกว่านะ ฉันจะทำเป็นว่าเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จะไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร แล้วยังจะให้ของขวัญขอบคุณพวกเธออย่างงามแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็รอพี่ชายฉันหาฉันเจอ พวกเธอไม่มีชีวิตอยู่ต่อแน่!”
เย้นหว่านขู่พลางล่อลวงด้วยผลประโยชน์ออกไป
แต่เหล่าสาวใช้พวกนั้น กลับยังคงนิ่งไม่ไหวติง
พวกเธอเหมือนราวกับว่าไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ยังคงมีใบหน้าที่เรียบเฉยออกมา เดินเข้าไปหาเย้นหว่าน
“อย่าเข้ามา!”
เย้นหว่านรีบขัดขืนออกไปทันที แต่เรี่ยวแรงของสาวใช้ที่อยู่ตรงหน้ามันมากกว่าเธอเป็นสิบเท่า จับเธอเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ทำเอาเธอขยับไปไหนไม่ได้
พวกเธอลากเธอไปอย่างแรง พาเย้นหว่านกดลงไปบนเตียง
สาวใช้อีกสองคน ก็ได้เอาสายยางพวกนั้นเสียบมาที่ร่างของเย้นหว่านสายแล้วสายเล่าอย่างคล่องแคล่วเข้ามาใหม่อีกครั้ง
“ตกลงนี่มันคืออะไรกันแน่?”
เย้นหว่านขัดขืนออกไปตื่นตระหนก แต่กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อย
สายยางพวกนั้นแทงเข้ามาบนผิวเจ็บมาก สายแล้วสายเล่า เจ็บจนเหงื่อเย็นไหลพรากออกมา
สาวใช้ยืนกันอยู่ข้างๆเตียง น้ำเสียงเย็นชาไม่แยแส
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้ เธอก็แค่ให้ความร่วมมือ มันจะทรมานน้อยลง”
ความหมายก็คือเธอไม่ให้ความร่วมมือ พวกเธอจะไม่เบามือแน่
พวกเธอ เป็นใครกันแน่?
เย้นหว่านรู้สึกกลัว ไม่รู้ว่าตัวเองไปล่วงเกินคนอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอกัดฟัน ข่มกลั้นความเจ็บเอาไว้ พลางเอ่ยออกไป
“ได้ ฉันร่วมมือด้วยก็ได้ เธอช่วยบอกฉันหน่อยได้หรือเปล่าว่าผู้ชายคนที่ตกน้ำมาพร้อมกับฉันคนนั้น เขาเป็นยังไงบ้าง?”
เย้นหว่านมองสาวใช้ไปด้วยสายตาที่เป็นประกาย น้ำเสียงแทบจะเว้าวอนออกมา “รบกวนเธอบอกฉันหน่อย ฉันก็แค่อยากทราบข่าวของเขาเท่านั้นเอง แล้วฉันจะให้ความร่วมมือกับพวกเธอแน่”
สาวใช้เอ่ยเสียงเย็นออกมา “ตอนที่ส่งเธอมา มีแค่เธอคนเดียว”
ส่งเธอมา?
เย้นหว่านขมวดคิ้ว “ใครเป็นคนส่งฉันมา? ฉันเจอเขาได้มั้ย?”
“ตอนนี้ไม่ได้”
สาวใช้เอ่ย “ตอนที่เขาอยากเจอเธอ ก็จะได้เจอเอง”
โทนเสียงที่ฟังดูหงุดหงิด เหมือนกับว่าเจอหน้าเธอครั้งหนึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นการทำทานทั้งนั้น
แต่ก็หมายความว่าจะไม่ได้ไม่มาเจอเธอเลยเหมือนกัน
เย้นหว่านไม่เข้าใจเลย คนคนนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ยิ่งไม่เข้าใจเลยว่าตกลงแล้วเขาต้องการอะไรกัน
แต่ในใจของเธอนั้นคิดแต่เรื่องของโห้หลีเฉินว่าเขาจะปลอดภัยหรือเปล่า จะให้มาอยู่ที่นี่อย่างสบายใจได้ยังไงกัน?
ในใจของเย้นหว่านเหมือนกับถ่านที่กำลังเผาไหม้ คิดจะหนีออกไปตลอดเวลา
และตรงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นวิวสวนดอกไม้นั้นเอง แท้จริงแล้วก็เป็นผนังชัดๆ!
หน้าต่างนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นของปลอมไปได้?!
เย้นหว่านตื่นตกใจรู้สึกไม่ดีไปหมด
การออกแบบแปลกๆอะไรของห้องนี้เนี่ย แม้แต่หน้าต่างก็ยังปลอม นี่มันก็ได้แสดงความหมายบางอย่าง ห้องแห่งนี้ไม่มีทางออกที่จะหนีออกไปได้เลย!
ภายในใจของเย้นหว่านหนาวสั่นขึ้นมา รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาเป็นระลอกๆ
นี่คือถึงกับสร้างคุกปิดตายให้เธอโดยเฉพาะ?
“เธอเป็นใครกันแน่?! ทำไมถึงจะต้องขังฉันเอาไว้ด้วย?!”
เย้นหว่านทั้งโกรธและทั้งหงุดหงิดใจขึ้นมา ตะโกนต่อว่าออกไปกับห้องด้วยความตื่นตระหนก
แต่เธอก็อยู่ในห้องเพียงลำพัง ไม่ได้มีใครตอบเธอเลย
ด้านนอกประตู ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่น้อย
เย้นหว่านกลับรู้สึกไม่ยินยอม เธอทนไม่ไหวแล้ว เธอยังอยากจะรู้ว่าโห้หลีเฉินยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว เธอไม่อาจอยู่ที่นี่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้ว
เธอพุ่งไปทางหน้าประตู ทุบประตูไปด้วยความร้อนใจ
ปากก็ร้องตะโกนเสียงดังออกไปไม่หยุด
“ปล่อยฉันออกไป ฉันต้องการจะออกไป!”
“เธอไสหัวออกมานะ!”
“เธอเป็นใครกันแน่ เธอไม่กลัวหรือไงว่าหลังจากนี้ฉันจะกลับมาแก้แค้นเธอน่ะ?!”
……
เสียงตะโกนเธอดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ตะโกนออกไปจนเสียงแหบแห้ง
เธอไม่เชื่อว่าคนด้านนอกไม่ได้ยิน แต่คนพวกนั้น กลับปล่อยผ่านเสียงตะโกนของเธอ บ่งบอกว่าไม่คิดจะสนใจเธอเลยสักนิด
ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน เย้นหว่านได้ตะโกนออกไปจนเจ็บแสบคอไปหมด ทั้งร่างหมดแรงไปหมด
ในเวลานี้เอง ประตูห้องจู่ๆก็เปิดออกมาจากทางด้านนอก
ลำตัวของเย้นหว่านแข็งเกร็งออกมาทันที ออกแรงไปอย่างกะทันหัน เผยความเร็วในการโถมเข้าไปด้านหน้า พุ่งออกไปด้านนอกอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
คนที่เปิดประตูนึกไม่ถึงว่าเย้นหว่านจะจู่ๆก็มาไม้นี้ ก็ถูกชนไปจนรับมือไม่ทัน จนล้มลงไปข้างๆ
แต่เย้นหว่านก็ได้ถือโอกาสใช้ช่องว่างนี้ วิ่งออกไปด้านหน้าอย่างไม่มีหยุดยั้งเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...