บทที่672 สถานที่อันตราย
แน่นอนว่าเย้นหว่านนั้นยังเที่ยวเล่นไม่หนำใจ ยังสามารถถ่ายรูปได้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง สร้างตุ๊กตาหิมะสองชั่วโมง และขว้างบอลหิมะได้อีกสามชั่วโมง
แม้จะไม่เต็มใจ แต่เธอเองก็รู้ดี ว่าวันนี้ยังมีทางที่ต้องรีบไปอีกไกล ไม่ได้มาเที่ยวเล่นกัน
เธอพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วตามโห้หลีเฉินขึ้นรถไป
ในรถเปิดเครื่องทำความร้อน อบอุ่นอย่างมาก ความหนาวเย็นรอบตัวสลายหายไปกว่าครึ่งในทันที
และในตอนนี้ โห้หลีเฉินก็ยังกุมมือของเย้นหว่าน ฝ่ามือใหญ่ลูบเบา ๆ ทำให้มือเล็กที่ค่อนข้างเย็นของเธอค่อย ๆ อุ่นขึ้น
ความอบอุ่นจากร่างกายของเย้นหว่านตรงเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
ใกล้ ๆ นั้น เว่ยชีและบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งต่างก็ขึ้นรถมาแล้ว ตัดขาดความหนาวเหน็บเอาไว้ข้างนอกโดยสมบูรณ์
หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้ว ขบวนรถก็ออกเดินทางอีกครั้ง
แขนแกร่งของโห้หลีเฉินโอบรอบเอวของเย้นหว่าน ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดของตน
เขาเอ่ยเสียงเบา “นอนสักหน่อยเถอะ”
เย้นหว่านชะงัก ค่อนข้างกลัดกลุ้ม ระหว่างทางมานี้คำที่โห้หลีเฉินพูดบ่อยที่สุดที่เธอได้ยิน ก็คือให้เธอนอน
เอาจริง ๆ เบื่ออยู่บนรถก็ทำได้แค่นอนนอนนอนนั่นแหละ
แต่ก่อนหน้านี้เอาแต่ให้โห้หลีเฉินนอนตลอด แล้วยังออกไปเล่นอีกพักใหญ่ ที่จริงกำลังวังชาของเย้นหว่านก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นแล้วด้วย
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงซบไปบนตัวของโห้หลีเฉินอย่างว่าง่ายแล้วเตรียมเข้านอน
แต่สภาพถนนหนทางของเส้นทางนี้นั้นแย่มาก ขับรถจึงโคลงเคลงไปมา เธอเองก็ไม่ได้ง่วงขนาดนั้น จึงไม่ได้หลับอยู่พักใหญ่
เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง มองไปนอกหน้าต่างรถอย่างไม่ได้ใส่ใจ
มองไปแล้ว ทันใดนั้นเธอก็สูดหายใจเฮือก
“อย่ามอง”
โห้หลีเฉินปิดตาเธอเอาไว้ในทันที
แต่เย้นหว่านกลับเห็นไปหมดแล้ว เธอหน้าซีดเผือด ร่างกายแข็งเกร็ง
น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา ค่อนข้างหวั่นวิตกอย่างรุนแรง “ด้านนอก.....”
แววตาของเขาหนักแน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำทั้งยังอ่อนโยน พร้อมด้วยน้ำเสียงที่ปลอบประโลม
“ไม่ต้องกังวล แค่ทางอันตรายนิดหน่อยเท่านั้น คนขับรถได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ กับถนนแบบนี้ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“เธอไม่ต้องมองก็พอแล้ว”
แต่เธอ เห็นไปแล้วนี่
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่แวบเดียว แต่ตอนนี้หัวใจของเย้นหว่านห้อยต่องแต่งไปหมดแล้ว เหมือนคนกลัวความสูง ที่อยู่ ๆ ถูกทิ้งไว้บนโซ่เส้นเดียวบนหน้าผาสูงชัน
อันตรายอย่างมาก
แต่สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ความจริงก็ไม่ต่างกันมาก
ด้านนอกหน้าต่างรถ เย้นหว่านแทบจะมองไม่เห็นถนนเลย แต่ข้าง ๆ นั้น คือหน้าผาที่อยู่ชิดมาก ๆ เป็นเหวลึกที่มองไม่เห็นก้น จนถึงกับมีเมฆหมอกลอยอยู่ด้วย
เห็นได้ว่า ตอนนี้พวกเขาอยู่ในที่ที่สูงมากขนาดไหน
สภาพถนนที่อันตรายแบบนี้
หากประมาทเพียงนิดเดียว ก็อาจตกลงไปได้
โห้หลีเฉินจับดวงหน้าเล็กของเย้นหว่านหันมาสบกับเขา ให้เธอจ้องมองมาที่ดวงตาของเขา
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน เสียงทุ้มต่ำราวกับมีเวทมนตร์ที่ทำให้ผ่อนคลาย
“มีฉันอยู่ ฉันไม่ให้เธอตกลงไปหรอก เย้นหว่าน เชื่อใจฉัน”
เชื่อใจเขา
สามคำนี้เหมือนกับกระแสความอบอุ่นที่แล่นเข้าสู่หัวใจของเย้นหว่าน
เธอมองเขาด้วยสายตาวูบไหว ความกระวนกระวายที่คุกรุ่นในใจนั้นจึงค่อย ๆ สงบลงบ้าง
เธอส่งเสียงแผ่วเบา “ฉันแค่ตกใจเมื่อกี้นี้น่ะ”
เธอเจอกับสภาพแวดล้อมที่อันตรายขนาดนี้เป็นครั้งแรก จึงยังไม่ปรับตัว
แต่ก็ได้เตรียมใจเอาไว้แต่แรกแล้ว ก่อนจะมา ก็เคยบอกแล้วว่าเส้นทางนี้นั้นอันตรายยิ่งกว่าอันตราย
นั่นคือไม่ระวังเพียงนิดแล้วรถตกลงไปนั้นก็ล้วนเป็นไปได้ หรืออาจจะดินทรุด และหิมะถล่มด้วย
อาจเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ตลอดเวลา
เย้นหว่านสูดหายใจลึก มองโห้หลีเฉินด้วยแววตาส่องประกาย
แก้มของเย้นหว่านแดงเรื่องอย่างเขินอาย
กินอาหารปรุงร้อนกันอย่างรวดเร็วแล้ว เธอก็กลับไปที่เต็นท์ของตัวเองอย่างอาย ๆ
โห้หลีเฉินตามเข้ามาแทบจะทันที
เต็นท์นั้นไม่ได้ใหญ่ ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ของเขาเดินเข้ามาก็ครอบครองพื้นที่ว่างไปมาก ทำให้ทั้งเต็นท์ดูคับแคบไปเล็กน้อย
เขามองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนเอ่ย “กินอิ่มแล้วเหรอ?”
เย้นหว่านนั่งอยู่บนที่นอน พยักหน้า
มุมปากของโห้หลีเฉินยกโค้งขึ้นอย่างพึงพอใจ ร่างสูงกดทับเข้าหาเธอ
“งั้นก็ดี ถึงตาฉันกินแล้ว”
เขาอยากจะกินอะไร ไม่พูดก็รู้กัน
แต่ตอนนี้ยังเช้าอยู่นะ เพิ่งจะทุ่มหนึ่งเอง ทุกคนยังไม่นอนกันเลยนะ!
เย้นหว่านเขินอายจนจะผลักเขาออก แต่ยังไม่ทันได้พูดคำพูดออกจากปาก ก็ถูกโห้หลีเฉินประทับริมฝีปากบางกลืนกินเสียงของเธอลงไปทั้งหมด
การจูบ ในสภาพแวดล้อมที่อยู่ท่ามกลางหิมะแบบนี้ ดูท่าจะเร่าร้อนเป็นพิเศษ
เย้นหว่านเกร็งร่างกายอย่างช่วยไม่ได้ และร่างของชายหนุ่มก็กดทับลงมาและปกคลุมเธอไว้ในเงาของเขาอย่างสมบูรณ์
ระหว่างสัมผัสทั้งห้า ทั้งหมดล้วนเป็นลมหายใจของเขา
แข็งแกร่ง จนไม่อาจต่อต้าน
ภายในเต็นท์ บรรยากาศอันครุมเครือแสนยั่วเย้า อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และเป็นคืนที่อ้อยอิ่มอีกครั้ง
เต็นท์นั้นใช้วัสดุกันความเย็นและรักษาความอบอุ่นที่ดีที่สุดในโลก นอนด้านในนั้นอุ่นมาก เย้นหว่านถูกโห้หลีเฉินกอดไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง แทบจะไม่รู้สึกถึงความเย็นเลยแม้แต่น้อย
ทั้งคืน ได้นอนหลับอย่างสุขสบายเต็มที่
ในตอนเช้า เธอตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า
บางทีหลายวันมานี้คงเหนื่อยเกินไป ตอนที่เธอตื่น โห้หลีเฉินจึงยังไม่ตื่น
ขนตายาวเรียงอยู่บนดวงตา ดูเหมือนจะเฉียบคมน้อยกว่ายามปกติอยู่เล็กน้อย มากด้วยรูปงามในความเงียบสงบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...