เธอหันศีรษะกลับไปมองทันที แต่ด้านหลังคือท้องพระโรง ซึ่งเป็นพระราชวังที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามทาบทับเป็นชั้นๆ และไม่มีแม้แต่เงาของใครทั้งสิ้น
“เป็นอะไรไป?”
โห้หลีเฉินจ้องมองเธออย่างกังวลใจ พร้อมทั้งกระซิบถามกลับเสียงต่ำ
เย้นหว่านส่ายหน้าไปมา “เปล่า ไม่มีอะไร”
เธอมองอย่างสงสัย จากนั้นก็หันกลับมา อาจจะเป็นเพราะว่าระยะนี้เธอถูกทำร้ายมาเยอะแล้ว เลยทำให้ระบบประสาทดูตื่นตัวเกินไปแหละ
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก พร้อมทั้งจ้องมองมาทางตำแหน่งแท่นสูงด้วยสายตาเย็นชาวังเวง
เจตนาอาฆาตพลันปรากฏขึ้นทันที
ทันใดนั้น เขาก็เก็บงำอารมณ์อย่างไร้ร่องรอยอย่างทันท่วงที พลางหันตัวกลับมา พร้อมทั้งเดินไปยืนอยู่ด้านข้างเย้นหว่านอย่างเคร่งขรึม
ซาอินติที่ใช้ความรวดเร็วในการหลบด้านหลังหน้าต่าง จนรู้สึกเหงื่อเย็นแตกพลั่ก
แม้ว่าจะไม่ถูกจับผิดได้ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่า มีความอันตรายอย่างแรงกล้า
โห้หลีเฉินต้องหวาดระแวงเธอแล้วใช่ไหม?
ไม่ ไม่น่าจะเป็นไปได้มั้ง
สิ่งที่เธอลงมือทำซ่อนเร้นขนาดนั้น ทุกเรื่องก็ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนลงมือด้วยตนเอง แม้กระทั่งจะตรวจสอบออกมาแล้วว่าเป็นการจงใจฆ่าก็ตามที แต่คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าซัดทอดถึงเธอ
ไม่มีทางที่เธอจะถูกเปิดเผยได้ ไม่มีทาง
ก่อนหน้าที่จะมาถึงบ้านของเวนเดลล์ โห้หลีเฉินก็ได้พูดกำชับกับบอดี้การ์ดคนหนึ่งอะไรสักอย่าง บอดี้การ์ดคนนั้นรีบออกไปเพียงลำพังทันที
เย้นหว่านถามเขาด้วยความสงสัย “คุณทำอะไรเหรอ?”
สีหน้าท่าทางของโห้หลีเฉินดูลึกลับ จากนั้นก็ยิ้มตอบ “รออีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองแหละ”
เดี๋ยวก็รู้เองแหละ คงไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร เย้นหว่านก็เลยไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ
ผ่านไปหลายวัน คนหลายคนต่าง “นอนกลางดินกินกลางทราย” เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด ไม่ได้อาบน้ำอาบท่าดีๆ สักครั้ง และก็ยังพักผ่อนดีๆ เลย
เมื่อมาถึงบ้าน โห้หลีเฉินให้ทุกคนสลายตัว เพื่อให้ทุกคนต่างแยกกันไปอาบน้ำพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
แต่เขาก็ออกคำสั่งว่า ช่วงหัวค่ำ ทุกคนต้องมารวมตัวกันที่ด้านในห้องโถง
หรือว่า โห้หลีเฉินคงมีเรื่องต้องสั่งการอะไรอีกนะ
เพราะหลังจากนี้จะมีการลงมือกับผู้ช่วยรัฐบาลแล้ว เรื่องมันทั้งอันตายทั้งยุ่งยาก เลยต้องใช้ความระมัดระวังใส่ใจในการวางแผน
เย้นหว่านอาบน้ำอย่างสบายเนื้อสบายตัว จากนั้นก็เอนหลังนอนลงบนเตียง ถึงได้รู้สึกว่าร่างกายผ่อนคลายไปทั้งตัว
ความรู้สึกกลับมาถึงบ้าน มันดีจริงๆ
ไม่ใช่สิ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ ก็แค่เป็นที่พักเท้าที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง
อีกไม่นาน เธอก็จะกลับไปที่บ้านของตนเองแล้วแหละ ที่นั่นมีเย้นโม่หลิน มีพ่อ มีแม่ เป็นสถานที่แห่งความสะดวกสบายและความปลอดภัยอย่างครบครัน
ที่นี่ .... ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าผ่อนคลายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็คือในบ้านหลังนี้ ก็ยังมีการยั่วยุดูถูกอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งคุณป้าที่จ้องทำร้ายเธอตลอดเวลา
แม้ว่าจะนอนอยู่บนเตียงก็ตาม เย้นหว่านก็ยังคงระแวดระวังอยู่ดี
คุณป้าลงมือมาแล้วครั้งหนึ่ง จนถึงขั้นเจตนาฆ่ากันมาแล้ว การที่จะลงมือเป็นครั้งที่สองหรือสามนั้นก็ใช่ว่าไม่อาจเป็นไปได้
เย้นหว่านรออยู่ที่นี่ ยังต้องคอยระมัดระวังเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา ขนาดน้ำเปล่าสักแก้วยังไม่กล้าดื่มมั่วๆ เลย
ด้วยสถานการณ์สิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่เช่นนี้ มันทำให้เธอยิ่งปวดหัวมาก
เย้นหว่านกำลังปวดหัวว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี เวลานั้นเอง ผ้าม่านประตูถูกคนที่อยู่ข้างนอกเปิดออก
รูปร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินเดินเข้ามา
น้ำเสียงของเขาดังสดใสอ่อนโยน “คิดอะไรอยู่เหรอ?”
จิตใต้สำนึกของเย้นหว่านส่ายหน้าทันที และพูดปฏิเสธ “ไม่มีอะไร คุณเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ฉันยังไม่อยากลุกจากเตียงเลย”
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เย้นหว่านก็ใส่ชุดนอนทันที แล้วเอนหลังอยู่บนเตียงแล้ว
เมื่อมองมาที่โห้หลีเฉินอีกครั้ง เขาได้เปลี่ยนเป็นสูทสีดำใหม่เอี่ยม ทั้งตัวเต็มไปด้วยพลังงานมีชีวิตชีวา หล่อเหลาเกินมนุษย์จริงๆ
เมื่อเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว เย้นหว่านกอดผ้าห่มเอาไว้แน่นกว่าเดิมเล็กน้อย
สองวันเต็มเธอไม่ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผ้าห่มเลย เธอสามารถเลือกที่จะกินข้าวเย็นบนเตียงได้ไหม?
เธอยังคงกังวลว่าคุณป้าจะมาทำร้ายเธอต่อไปอีก แล้วเธอจะโต้ตอบกลับอย่างไร แต่ไม่คิดว่า ปัญหาที่เธอคอยกังวลอยู่ทั้งหมดนั้น โห้หลีเฉินได้ให้บทสรุปกับเธอเรียบร้อยแล้ว
ไม่เกินการคาดเดา วันนี้บทสรุปของคุณป้าย่อมไม่ได้ดีแน่นอน
คุณป้านั่งคุกเข่าตามกฎระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว พร้อมทั้งอดทนกับความเจ็บปวดของข้อเข่า แม้ว่าพอเวนเดลล์กลับมาก็เรียกเธอมานั่งคุกเข่าที่ห้องโถงทันที แถมยังไม่พูดอะไรทั้งนั้น เธอเองก็คงพอรู้อยู่ว่าเป็นเพราะอะไร
ทว่าก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวอะไรเป็นพิเศษ น่าจะเป็นแค่การลงโทษเท่านั้นเอง
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินมาถึงแล้ว อยู่ดีๆ เธอก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาแล้ว
เธอจ้องมองเย้นหว่านตาเขม็งอย่างโหดร้ายทารุณ จากนั้นก็ถามหาเรื่องทันที “แกมาที่นี่ทำไม?”
แม้ว่าจะนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างเขินอายก็ตาม อาการเป็นศัตรูของคุณป้าที่มีต่อเธอนั้น ยังคงไม่ลดน้อยถอยลงไปเลยสักนิด
เย้นหว่านสามารถกล่าวโทษได้ว่าเอาความผิดของคุณป้าได้โหดเหี้ยมขนาดไหน
ทว่าในความคิดของการเป็นทาสที่หยั่งลึกของเธอแล้ว ย่อมไม่เข้าใจกับความคิดที่เปิดกว้างและความเท่าเทียมกันในโลกภายนอก มีแต่ความคิดของคุณป้าที่เป็นตัวตั้งตัวตีขึ้นมาเอง จะถูกเธอมองว่าเป็นหนามทิ่มตาทั้งหมด
เย้นหว่านสบตากับคุณป้าหัวใจเย็นชาทันที สำหรับเธอแล้วไม่มียาที่สามารถแก้ไขได้อีกแล้วและก็ไม่มีความรู้สึกเมตตาให้สักนิด
เธอเม้มริมฝีปากเอาไว้แต่ไม่ได้พูดอะไรมา จากนั้นก็เดินตรงไปพร้อมกับโห้หลีเฉินและนั่งลงบนเก้าอี้
คุณป้าเห็นเย้นหว่านนั่งอยู่ในห้องโถงและมองมายังเธอที่กำลังโดนลงโทษอยู่ ความรู้สึกโกรธเกลียดมันยิ่งหนักข้อรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับปกปิดไว้ไม่มิด
เธอพูดกับเวนเดลล์อย่างรำคาญ
“นายท่าน นายท่านจะลงโทษข้าอย่างไรฉันก็ยอมรับผิดทั้งหมด แต่ทำไมวันนี้นายท่านถึงได้ให้เย้นหว่านมาดูที่นี่ด้วย ท่านดูหมิ่นข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”
หลังจากที่ฉู่ฉู่เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่ห้องโถงใหญ่
เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าประตูนั้น ก็ได้ยินคำพูดของคุณป้าน้ำเสียงนั้นเป็นความคิดที่มีศักดิ์ศรีและดูถูกอย่างเปี่ยมล้น จนทำให้ฝีเท้าของฉู่ฉู่แข็งทื่ออยู่กับที่ทันที
แววตาของเธอเศร้าโศกตอนที่มองมายังมารดาของตนเอง ภาวะหดหู่ในใจจนทำให้พูดไม่ออก
มาถึงขั้นนี้แล้ว ท่านแม่ยังคงไม่สำนึกกับความผิดพลาดไปแม้แต่น้อย แถมยังใช้สายตาดูถูกเหยียดหยาม สบตาเย้นหว่านไม่เลิก
เธอเองย่อมรู้ว่า สิ่งที่เธอทำไปทั้งหมดนั้นโห้หลีเฉินรู้เรื่องหมดแล้ว และความโกรธของโห้หลีเฉินใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว และเธอจะรับมันไหวไหม?
ฉู่ฉู่อดใจไม่ไหวที่ต้องมองต่อไป แต่ว่าฝ่าเท้าราวกับมันหยั่งรากลงไปแทน ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...