สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน นิยาย บท 839

“ผมไม่อยาก พวกคุณทานกันให้อร่อย”

พูดจบเย้นโม่หลินก็สีหน้านิ่งขรึม ก้าวขาเดินจากไป

เงาหลังที่สูงใหญ่ราวกับว่าห่อหุ้มไปด้วยความเหี้ยมโหดอันตรายที่ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกหายใจไม่ออก ทำให้อุณหภูมิบริเวณโดยรอบติดลบ

ถึงขนาดที่เย้นหว่านถึงกับตัวสั่น

สองวันนี้ อารมณ์ของเย้นโม่หลินผันผวนแปรปรวนอยู่ไม่น้อย เขาเป็นอะไรกันแน่?

โห้หลีเฉินมองเงาหลังของเย้นโม่หลินอย่างสุขุมรอบคอบ ชักมุมปากเบาๆ ก่อนจะคีบอาหารไปใส่ไว้ในถ้วยของเย้นหว่านด้วยความนิ่งเฉยสง่างาม

กู้หรงมองเย้นหว่านพร้อมกับพูดถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“เสี่ยวหว่าน พี่ชายของเธอไม่กินข้าวกินปลา ไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม?”

ทำตัวดื้อรั้นในบ้านของคนอื่น เย้นหว่านก็รู้สึกอึดอัดเกรงใจอยู่บ้าง

เธอรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นอะไรค่ะ พี่ชายของหนูคงจะมีเรื่องที่ต้องรีบไปทำ ไม่ต้องไปสนเขาหรอกค่ะ พวกเรากินกันเถอะ”

กู้หรงหันมองเงาหลังของเย้นโม่หลินที่จะหายลับไปจนมองไม่เห็นแล้วอีกครั้ง ทำได้แค่ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง

ผู้ชายคนนี้ฉลาดหลักแหลมสุดๆ ความสามารถเป็นเลิศ ต่อให้เป็นเขาก็ก้มหัวให้โดยสัญชาตญาณแน่นอน แต่ยิ่งยืนอยู่สูงเท่าไร นิสัยก็จะยิ่งไม่ดีขึ้นเท่านั้น ยากที่จะเข้าหา มีปฏิสัมพันธ์ด้วย

โชคดี โชคดีที่คนที่จื่อเฟยชอบถูกชะตาก็คือป่ายฉี ไม่ใช่เย้นโม่หลินที่อยู่สูงเกินเอื้อม

ไม่อย่างนั้นผู้ชายแบบนี้ ไม่มีใครเอาเขาอยู่หรอก

“ใช่แล้ว เมื่อตะกี้ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นล่ะ? จู่ๆก็พูดชื่นชมป่ายฉีทำไม?”

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินด้วยความสงสัย พร้อมกับพูดถามขึ้นด้วยเสียงเบาๆ

โห้หลีเฉินเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบพูดคุยโต้ตอบกับคนอื่น แล้วก็ไม่ใช่คนที่จะไปชื่นชมคนอื่นตามอำเภอใจด้วย

คำพูดที่เขาพูดออกมา ต้องมีจุดประสงค์อย่างแน่นอน

จุดประสงค์ที่ตอนนี้เย้นหว่านยังคิดไม่ออก แอบรู้สึกว่าที่จู่ๆเย้นโม่หลินเดินหนีไปด้วยความโมโหแบบนั้น มันมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวพันอะไรกันอยู่

โห้หลีเฉินขยี้ผมของเย้นหว่าน พร้อมกับพูดยิ้มๆ

“เดี๋ยวกลับไปคุณก็รู้เอง รีบกินข้าวเถอะ เย็นหมดแล้ว”

พูดพลาง เขาก็คีบกับข้าวใส่ไว้ในถ้วยของเธอไปอีกหลายอย่าง

ไม่ทันได้สังเกต เย้นหว่านก็พบว่าในถ้วยของตัวเองมีแต่กับข้าวที่ตนเองชอบกองพูนอยู่เต็มไปหมดแล้ว

เย้นหว่านมองดู เธอทำได้แค่ก้มหน้าก้มตากินแต่โดยดี

ถ้าโห้หลีเฉินไม่คิดที่จะบอก เธอถามไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเขาบอกมาว่ากลับไปเดี๋ยวก็รู้เอง ถ้าอย่างนั้นเธอก็รออีกสักหน่อยแล้วกัน

ถึงยังไงโห้หลีเฉินเวลาทำอะไร มักจะมีเหตุผลและจุดประสงค์ของเขาอยู่ตลอด

เธอเชื่อเขา

ผู้คนจึงเริ่มทานข้าวกันเรื่อยๆ ทว่าเว้นแต่โห้หลีเฉินคนเดียวที่ทำตัวปกติ คนอื่นๆ ล้วนดูเหมือนกินไม่ลง

ต่างคนต่างคิดอะไรอยู่

กู้จื่อเฟยหันมองไปยังทางที่เย้นโม่หลินเดินจากไปเป็นระยะๆ ในใจเหมือนกับเส้นด้ายที่พันกันไปมาจนยุ่งเหยิงไปหมด ตัดไม่ขาด ว้าวุ่นอยู่ในใจ

เมื่อตะกี้เห็นๆอยู่ว่าพ่อของเธอจะจับเธอกับป่ายฉีคู่กัน แล้วทำไมเย้นโม่หลินถึงต้องจากไปด้วยสีหน้าเย็นชาแบบนั้นพอดีเลยด้วยล่ะ?

เขาไม่มีอารมณ์ที่จะมาฟังคนอื่นคุยเรื่องสัพเพเหระ หรือว่าอะไร…...

ในใจเธอเต็มไปด้วยความคิดมากมาย แต่ไม่กล้าคาดเดา

ป่ายฉีไม่มีความอยากอาหาร คีบอาหารก็ไม่มีกะจิตกะใจใส่เข้าไปในปากตัวเอง

เขารู้สึกว่า ชีวิตนี้ของเขาตกอยู่ในอันตรายแล้ว

ไปก้าวก่ายทำให้เย้นโม่หลินไม่สบอารมณ์เข้าแล้ว กลายเป็นศัตรูทางหัวใจของเขาไปโดยไม่รู้ตัว

คุณชายคนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงโกรธ ถึงยังไงก็เห็นเขารู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว สถานการณ์แบบนี้ ป่ายฉีไม่มีแม้แต่หนทางจะพูดอธิบาย ทำได้แค่รอความตายเท่านั้น

น่าสังเวชใจเหลือเกิน

เขาจะหนีไปดีไหม?

เย้นหว่านกลับเปิดปากพูดขึ้นมาด้วยความกังวล

“วิธีการแบบนี้ โห้ถิงก็จะเสียหายอย่างหนักเหมือนกัน ต่างคนต่างก็เสียหายกันทั้งคู่นะ มันต้องแลกมาด้วยราคาที่มันมากเกินไปหรือเปล่า?”

อีกอย่างการที่ฝู้เหวยข่ายกล้าใช้เงินของตัวเองมาโจมตีผู้ทรงอำนาจของเมืองหนานแบบนี้ นั่นก็เพียงพอจะรับประกันได้แล้วว่า เงินของเขาอาจจะพอที่จะทำให้คนเคียดแค้นและหวาดกลัวได้

ในเมื่อมีความมั่นใจในการลงมือแล้ว เป็นไปได้สูงว่าจะทำให้โห้ถิงเสียหายอย่างหนักได้

แม้ว่าโห้หลีเฉินจะเป็นประธานของโห้ถิง แต่เบื้องล่างก็มีผู้ถือหุ้นอยู่มากมาย ไหนจะพี่น้องในตระกูลที่จ้องพร้อมจะตะครุบดั่งพญาเสืออีก

ถ้าเขาทำผิดพลาดขึ้นมาล่ะก็ จะมีคนอีกจำนวนมากที่รอซ้ำเติม หาเรื่องมาข่มขู่ทำให้เขายิ่งยากลำบากมากขึ้น

เย้นหว่านไม่อยากให้โห้หลีเฉินต้องจ่ายราคาที่สูงขนาดนี้ไปกับเรื่องไร้สาระพวกนี้

“นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุด”

โห้หลีเฉินยื่นมือออกไปโอบไหล่ของเย้นหว่านเอาไว้ พูดขึ้นอย่างขี้เล่น“ตอนนี้เริ่มเป็นห่วงเป็นใยเงินของผมแล้วเหรอ?”

ความหมายนั้น มันคลุมเครือจนทำให้เธอหน้าแดง

เย้นหว่านผลักเขาออกด้วยความเขินอาย“ฉันพูดจริงจังนะ”

กู้หรงพอได้ฟังเรื่องราว ก็ขมวดคิ้วพูดขึ้น

“คุณโห้ ที่คุณจงใจให้ฝู้เหวยข่ายโจมตีมาขนาดนี้แล้ว ก็เพื่อทำให้เขายิ่งแย่ลงเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็จะควักทรัพย์สินเงินทองออกมาจนหมดตัว?”

นี่มันเป็นเจตจำนงของนักพนัน ยิ่งแพ้หมดตัวเท่าไร ก็จะยิ่งไม่ยอมปล่อยวางเท่านั้น ถ้าตอนที่เงินของเขาใช้ไปจนหมดแล้ว แต่โห้ถิงกลับยังคงยืนหยัดอยู่ต่อได้ จะต้องทำให้เขายิ่งทวีความโกรธมากขึ้นอีกแน่นอน

แล้วความโกรธแค้นนั้น ก็เหลือแค่อำนาจอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังเขาเท่านั้นแล้ว

ถ้าเกิดอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของฝู้เหวยข่ายเริ่มลงมือล่ะก็ จากการเคลื่อนไหวการกระทำที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลไหน อยู่ที่เมืองอะไรได้อย่างแน่นอน

ตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนแล้ว ก็สามารถลงมือได้เลย

โห้หลีเฉินพยักหน้าปิดปากเงียบไม่พูดอะไร

แต่คิ้วของกู้หรงยังขมวดอยู่ ลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความกังวล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน