สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน นิยาย บท 958

หมอหญิงตะลึงมองโห้หลีเฉิน คิดไม่ถึงว่าตัวเองถึงกลับ......มีชีวิตรอดจากความตายได้?

เธอรีบพยักหน้ารับคำ "ค่ะๆๆ นายน้อยวางใจ ฉันจะแจ้งต่อผู้นำตระกูลตามคำพูดเดิม"

เธอเป็นคนเฉลียวฉลาด เข้าใจอะไรได้ง่าย จึงเป็นธรรมดาที่จะเข้าใจวัตถุประสงค์ของคำพูดนี้

ภรรยาของหลานชายปู่ตั้งครรภ์เรื่องประเภทนี้ แม้ว่าจะยุ่งมากก็ควรจะไปบอกกับคุณปู่ด้วยตัวเอง แต่กลับให้เธอไปบอกแบบนี้ ก็เป็นเพียงแค่การแจ้งให้ทราบตามแบบแผนเฉยๆเท่านั้นเอง

เป็นการแจ้งให้ทราบด้วยความรู้สึกห่างเหินเป็นอย่างมาก

นั่นก็หมายความว่า แม้ว่าหยูฉู่สองจะเป็นผู้นำตระกูล แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรในเรื่องนี้

และเป็นการแสดงอำนาจหลังจากได้รับตำแหน่ง

หมอหญิงรู้ว่าตัวเองไปแล้วก็คงจะพบกับการชักสีหน้า แต่สุดท้ายแล้วสามารถเก็บชีวิตกลับมาได้ ก็โชคดีเป็นอย่างยิ่งแล้วเช่นกัน

เธอไม่กล้าล่าช้า หลังจากเอ่ยลากับโห้หลีเฉินด้วยท่าทางเคารพนบนอบแล้วก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งเห็นหมอหญิงออกจากประตูใหญ่ของตึกไปแล้ว ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะแอบฟังสิ่งใดได้อีก เย้นหว่านถึงได้หันหน้ากลับมาถามโห้หลีเฉินว่า

"เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวย่าคะ? ทำไมถึงได้คุกเข่าอยู่ตรงนี้?"

เย้นหว่านเห็นเสี่ยวย่าตัวสั่นระริกแล้วก็รู้ว่าเธอน่าจะทำผิดจึงถูกลงโทษ

แววตาอ่อนโยนแต่เดิมของโห้หลีเฉินเปลี่ยนเป็นเหน็บหนาวเสียดแทงกระดูกในตอนที่เห็นเสี่ยวย่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ

เขาเอ่ยเสียงเย็นว่า "ละเลยต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ"

"ละเลยต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ?"

เย้นหว่านสงสัย มองไปที่เสี่ยวย่า พลางเอ่ยถาม "เสี่ยวย่า เกิดอะไรขึ้น?"

ปกติเย้นหว่านจะไม่ถามเรื่องพวกนี้ให้มากความ แต่หลายวันนี้เสี่ยวย่าล้วนเป็นคนดูแลเธอ เธอรู้สึกได้อย่างน่าประหลาดว่า การที่เสี่ยวย่าคุกเข่าอยู่ตรงนั้นเป็นเพราะเธอ

เสี่ยวย่าเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองเย้นหว่านด้วยนัยน์ตาที่พร่าเลือนไปด้วยน้ำตา ทั้งยังขอโทษด้วยความละอายใจไม่หยุด

"ขอโทษค่ะ คุณเย้น ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเองที่หลายวันมานี้ไม่ได้ดูแลคุณให้ดี คุณมีอาการอยากนอนมากผิดปกติ กินได้น้อย ฉันก็ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ทำให้ร่างกายของคุณแย่ลงในทุกๆวัน

โชคดีที่เด็กในท้องของคุณไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นฉันตายเป็นหมื่นครั้งก็ยากที่จะหลุดพ้นความผิดนี้ได้"

เย้นหว่านถึงได้เข้าใจขึ้นมาในทันที ที่แท้ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้

ถึงกับทำให้เสี่ยวย่าตื่นตระหนกจนเป็นแบบนี้

เย้นหว่านรีบโน้มตัวไปดึงแขนของเสี่ยวย่า คิดจะพยุงเธอขึ้นมา

"ไม่เป็นหรอก นี่ก็ไม่สามารถโทษเธอได้ทั้งหมด เป็นฉันที่ไม่ให้เธอพูด ฉันที่เป็นแม่คนก็ยังไม่สังเกตเห็นเลย จะโทษเธอได้อย่างไรกัน"

เสี่ยวย่าตะลึงมองเย้นหว่าน คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดแบบนี้

แต่ว่าเธอก็ยังไม่กล้าลุกขึ้น "เป็นฉันที่ละเลยต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ ฉันควรจะเชิญคุณหมอมาตรวจอาการคุณตั้งแต่แรก คุณก็คงไม่ต้องเป็นลมหมดสติไป"

เย้นหว่านยิ่งหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก

"เรื่องที่ฉันหมดสติยิ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอ เป็นเพราะได้รับความสะเทือนใจจากเรื่องอื่น ฉันไม่โทษเธอ เธอรีบลุกขึ้นมาเร็วเข้า"

หลายวันมานี้เสี่ยวย่าดูแลจนสามารถบอกได้ว่าพยายามทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ และเย้นหว่านก็เป็นคนบังคับขอร้อง ไม่อนุญาตให้พวกเธอบอกกับโห้หลีเฉิน หากพูดถึงความรับผิดชอบ ก็ไม่สามารถโทษเธอได้จริงๆ

อีกทั้ง เธอกับลูกก็ไม่ได้บอบบางขนาดนั้น

"แต่ แต่ว่า....."

สายตาของเสี่ยวย่าที่มองโห้หลีเฉินสั่นระริก ขลาดเขลา และหวาดกลัว

เย้นหว่านใจอ่อน ถึงได้ไม่โทษเธอ

แต่ว่าสุดท้ายแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นเชื่อฟังแต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม ละเลยหน้าที่ความรับผิดชอบในเรื่องการดูแล ด่านของนายน้อยนั้นยังคงผ่านไปไม่ได้

เย้นหว่านหันหน้าไปมองโห้หลีเฉิน เอ่ยเสียงอ่อนว่า

"ฉันขู่ไม่ให้พวกเขาพูด คุณก็อย่าลงโทษเธอเลยนะคะ? ได้ไหม?"

เสียงนุ่มนวล ออดอ้อนราวกับขนนกหนึ่งอันกวาดไปมาที่หัวใจ

โห้หลีเฉินจะสามารถปฏิเสธคำขอร้องของเธอได้อย่างไร

ถึงตอนนี้เธอจะให้เขาคว้าดวงดาวที่อยู่บนฟ้าลงมาให้ เขาก็จะส่งจรวดไปขนอุกกาบาตบนท้องฟ้าลงมาจริงๆเช่นกัน

เขาโอบเอวเธอ เพื่อไม่ให้เธอต้องโค้งตัวมากเกินไป พลางเอ่ยอย่างจนปัญญาว่า "ได้"

เย้นหว่านยิ้มแย้มเบิกบานทันที

เอ่ยกับเสี่ยวย่าด้วยความยินดีว่า "ดูสิ โห้หลีเฉินก็ไม่ถือสาแล้ว ไม่เป็นไรแล้วๆ"

หมอหญิงยืนตัวแข็งค้างอยู่ที่เดิม ก้มหน้าลงต่ำโดยไม่กล้าเงยขึ้นมาแม้แต่น้อย บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นๆรินไหลไม่หยุด

เธอรายงานตามคำพูดเดิมของโห้หลีเฉิน หลังจากที่เห็นสีหน้าของหยูฉู่สองดำคล้ำลงเรื่อยๆ แรงกดอากาศภายในห้องก็ลดลงต่ำจนน่ากลัว

ผู้นำตระกูลถูกท่าทีของโห้หลีเฉินยั่วให้เกิดโทสะอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ

หรือจะพูดว่า คล้ายกับว่าผู้นำตระกูลไม่ได้เฝ้ารอการมาถึงของทารกน้อยเช่นกัน

ตระกูลหยู เกรงว่าจะเริ่มเปิดฉากสงครามที่มีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเสียแล้ว

"คุณยังอยู่ที่นี่ทำไมอีก? ไสหัวออกไป!"

หยูฉู่สองระเบิดอารมณ์ด่า

หมอหญิงร่างสั่นเทา รีบถอยออกไปโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา

ภายในห้องเหลือเพียงแค่หยูฉู่สองคนเดียว

เขากวาดคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นอย่างมีโมโห เพลิงโทสะเกือบจะลุกท่วมไปทั่วทั้งร่าง

สวมควรตาย

ไม่ตั้งครรภ์ก่อนหน้านี้หรือหลังจากนี้ แต่กลับมาตั้งครรภ์ลูกของโห้หลีเฉินในตอนนี้

ยาแก้พิษของตระกูลเย้นก็ยังไม่ได้ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นโห้หลีเฉินที่เป็นสายเลือดเพียงคนเดียวนั้น ยังไม่สามารถแตะต้องได้ชั่วคราว

แม้ว่าเขาจะจองหองเสียจนทำให้หยูฉู่สองสุดที่จะอดรนทนได้

แต่ดีร้ายอย่างไรเขาก็ยังมีเวลาอีกสามปี ถ้าหากว่าในช่วงเวลานี้ ได้ยาแก้พิษของตระกูลเย้นมา โห้หลีเฉินก็จะไม่ได้เป็นคนเพียงคนเดียวอีกแล้ว และจะไม่มีความมั่นใจหรือคุณค่าให้ใช้ประโยชน์อีกเช่นกัน

หยูฉู่สองก็สามารถจัดการเขาได้แล้ว

ถ้าหากว่าระหว่างนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น ไม่สามารถล้มตระกูลเย้น ไม่ได้ยาแก้พิษ หรือล้มเหลว อย่างนั้นก็ยังสามารถได้สิ่งที่ดีรองลงมาจากนั้นได้ ให้โห้หลีเฉินมีชีวิตต่อไปเพื่อเปิดคลังสมบัติ

แต่วิธีการสองแบบนี้ล้วนอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ต้องดูความเป็นไปของสถานการณ์ ถึงจะตัดสินได้ว่าหยูฉู่สองจะจัดการโห้หลีเฉินอย่างไรในภายหลัง

จะให้เขามีชีวิตอยู่ หรือให้เขาตาย

ตอนนี้เย้นหว่านตั้งครรภ์แล้ว อย่างนั้นเด็กที่กำลังจะเกิดมาบนโลกไปนี้ก็คือยาแก้พิษที่ทำให้โห้หลีเฉินมีชีวิตต่อไป นี่เป็นสิ่งที่ทำให้แผนการทั้งหมดของเขาวุ่นวาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน