"ผมให้คนไปเอาเอกสารและโต๊ะทำงานมาแล้ว ระหว่างนี้ ผมจะคอยดูแลอยู่เคียงข้างคุณ และไม่ทำให้เสียงานด้วยครับ"
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว ดวงตากลมโตของกู้จื่อเฟยเบิกโพรง เธอรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เย้นโม่หลินจะย้ายโต๊ะทำงานมาที่นี่ด้วย
เช่นนี้เขาจึงสามารถปกป้องเธอได้ พร้อมกับไม่ขาดตกบกพร่องในเรื่องงานด้วย
เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว
กู้จื่อเฟยเอาแต่จ้องมองเย้นโม่หลิน แล้วตระหนักว่า นี่คือความโรแมนติกเฉพาะของเย้นโม่หลินหรือ?
เขาหยอกล้อไม่เก่ง แต่ความจริงใจของเขาทำให้เธอสบายใจได้
กู้จื่อเฟยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "พี่เย้น ฉันอยากจูบคุณจริงๆนะ"
ร่างกำยำของเย้นโม่หลินแข็งทื่อ ใบหูของเขาเริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง
ความขุ่นเคืองที่มีอยู่ในใจมลายหายไปทันที
คุยกันอยู่ดีๆ ทำไมเธอเริ่มพูดเล่นอีกแล้วล่ะ?
......
นอกอาคารหลัก
เย้นจือฮวนคุกเข่าอยู่กับพื้นลมหายใจรวยริน แทบจะหมดสติ อ้าปากค้าง แต่กลับไม่มีเสียงลอดออกมา
เธอเจ็บ เจ็บปวดถึงขีดสุด เจ็บจนอยากตาย
แต่ว่าตอนนี้ยังตายไม่ได้
ร่างของเธอคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างอ่อนแรง แขนที่หักยังคงมีเลือดไหล สมองมึนงงอยู่นานแล้ว แต่ความเจ็บปวดทำให้เธอไม่สามารถตายได้
เธอรับรู้ได้ถึงการทรมานที่ไร้ขอบเขตนี้ได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
"ฮวนฮวน ฮวนฮวนของแม่"
เวลานี้ หญิงวัยกลางคนที่ท่าทางดูดีคนหนึ่งรีบร้อนแหวกฝูงชนเข้ามา ตรงไปยังข้างหน้าเย้นจือฮวน
เธอผลักบอดี้การ์ดที่คุ้มกันเย้นจือฮวนออกไปด้วยความโกรธ
"พวกแกปล่อยฮวนให้ฉันเดี๋ยวนี้! ฮวนฮวนของแม่ ลูกแม่ ทำอย่างนี้กับลูกฉันได้อย่างไร"
หมดแรงแล้วเย้นจือฮวนซบลงในอ้อมกอดของหญิงคนนั้นทันที
เธอมองหน้าผู้หญิงคนนั้น แล้วร้องไห้โฮออกมาในทันที
"ฮือๆๆ แม่คะ ฮือๆ ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูเร็วเข้า....หนูไม่ไหวแล้ว หนูจะตายแล้วค่ะ"
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที หัวใจของเธอกำลังแตกสลาย
เธอกอดเย้นจือฮวนอย่างระมัดระวัง "เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้วนะ แม่มาแล้ว แม่จะรักษาลูกให้หายเอง แม่จะพาลูกไปจากที่นี่"
พูดไป เธอก็ประคองเย้นจือฮวนขึ้นจากพื้นไปพลาง
แน่นอน มีมือทั้งสองข้างกดลงที่ไหล่ซ้ายและขวาของเธอและเย้นจือฮวนขัดขวางการเคลื่อนไหวของหล่อน
บอดี้การ์ดหน้าตายกล่าวว่า
"คุณหญิงสาม นายน้อยเป็นคนสั่งให้ลงโทษเย้นจือฮวนท่านสั่งไว้ก่อนที่จะออกไป เธอต้องคุกเข่าอยู่ตรงนี้เท่านั้น ห้ามไปไหนทั้งสิ้นครับ"
เย้นซิวหย่าโมโหขึ้นทันที ตะโกนออกไปว่า
"แกกล้าขวางทางฉันหรือ จะรนหาที่ตายใช่ไหม?"
บอดี้การ์ดยังทำหน้าเช่นเดิม ท่าทางแข็งขัน "คุณหญิงสาม นี่เป็นคำสั่งของนายน้อยครับ ต้องขออภัยด้วยครับ"
"ฉันจะเป็นคนบอกกับเสี่ยวโม่เอง ฉันเป็นคุณหญิงสามของเขา เขาจะไม่ฟังฉันเชียวหรือ? หลีกทางไปเดี๋ยวนี้ ถ้าลูกสาวฉันเป็นอะไรไป เพราะพวกแกถ่วงเวลาละก็ ฉันไม่ไว้ชีวิตพวกแกแน่!"
บอดี้การ์ดตอบว่า "ถ้านายน้อยไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่ง ผมก็ให้เธอลุกขึ้นไม่ได้ครับ"
เย้นซิวหย่าแทบคลั่ง "ฉันเป็นถึงคุณหญิงสามก็เป็นเจ้านายพวกแกเหมือนกันแหละ!"
บอดี้การ์ด "ผมทำตามคำสั่งของนายน้อยเท่านั้นครับ"
เห็นบอดี้การ์ดพวกนั้นไม่ยอมหลีกทางให้เย้นซิวหย่าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ถ้าเป็นเวลาปกติ เธอคงให้คนมาลากบอดี้การ์ดสองคนนี้ออกไปนานแล้ว
แต่เธอมาด้วยความรีบร้อน ไม่ได้พาลูกน้องมาด้วย ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยคนของเย้นโม่หลินทั้งนั้น แถมยังเฝ้าทางออกอาคารหลักไว้ด้วย
เธอคงฝ่าวงล้อมออกไปไม่ได้แน่
เย้นซิวหย่าโกรธจนหัวร้อน แต่ก็สามารถตัดสินใจได้ทันควัน
เธอมองหน้าบอดี้การ์ดเอาเรื่อง "ฉันจะไปหาเย้นโม่หลิน ให้เขาปล่อยฮวนฮวนเดี๋ยวนี้ พวกแกคอยดูก็แล้วกันฉันจะจัดการพวกแกยังไง!"
บอดี้การ์ดพูดรวดเดียวจบ ไม่ยอมถอยให้แม้ครึ่งก้าว
เย้นซิวหย่าเกือบจะอกแตกตาย คำก็นายน้อย สองคำก็เย้นโม่หลิน
หลานชายคนนี้นี่ยังไม่ทันจะเป็นหัวหน้าครอบครัว ใช้อำนาจบาตรใหญ่ถึงเพียงนี้ ไม่เห็นแก่หัวหงอกหัวดำในบ้านบ้างเลยหรือยังไงกัน?
เย้นซิวหย่าพูดด้วยความโกรธ "แกเข้าไปรายงานสิ บอกว่าฉันจะเข้าไป เขาไม่ปฏิเสธหรอก"
เธอยังไม่เชื่อว่าเย้นโม่หลินจะไม่เกรงใจเธอแล้ว
บอดี้การ์ดกลับทำนิ่งเฉย น้ำเสียงเย็นชา
"นายน้อยสั่งไว้ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่ยกเว้น ห้ามใครเข้าไปรบกวนเขาเด็ดขาด"
เย้นซิวหย่า : "....."
นี่เป็นครั้งแรก ที่เธอรู้สึกเกลียดชังเย้นโม่หลินเหลือเกิน
เธอสะกดกลั้นความโกรธไว้ กัดฟันพูดว่า
"ไปบอกนายหญิงว่า ฉันต้องการเข้าไป ให้เธอช่วยอนุญาตด้วย"
ด้วยความที่เกรงว่าบอดี้การ์ดจะอ้างถึงนายน้อยสั่งนู่นนี่ไว้อีกเย้นซิวหย่าจึงเสริมต่อไปด้วยน้ำเสียงดุดันว่า "นายน้อยก็แค่นายน้อยนายหญิงต่างหากที่เป็นใหญ่ที่นี่ พวกแกก็รู้สินะ?"
บอดี้การ์ดไม่ได้ปฏิเสธ พลางพยักหน้า
"คุณหญิงสามรอสักครู่นะครับ ผมจะไปถามให้"
มองบอดี้การ์ดเดินเข้าไปแล้ว เย้นซิวหย่ารีบสอดส่ายสายตามองเข้าไปข้างในอย่างกังวล
รอคอยด้วยใจจดจ่อที่จะเข้าไป
ในขณะเดียวกัน บอดี้การ์ดเดินเข้าไปในอาคารหลังเล็ก และพบกับกงจืออวีที่เฝ้าอยู่หน้าห้องของเย้นเจิ้นจื่อ
เขารายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าทางเข้าให้รับทราบ
กงจืออวียืนดูอยู่ที่หน้าต่างชั้นสอง มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหน้าอาคารหลังเล็กชัดเจน
และเห็นสภาพเลวร้ายของเย้นจือฮวนอยู่เต็มตา
ผู้หญิงที่เคยสง่างามน่าเกรงขาม ตอนนี้เนื้อตัวกลับเปรอะเปื้อนเลือดดูน่ากลัว บนพื้นยังมีกองเลือดอยู่อีกด้วย
ขืนรอต่อไป มีหวังคงตายหรือไม่ก็พิการแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...