ดูเหมือนว่าร่างกายถูกติดอยู่กับอะไรบางอย่าง ไม่สามารถหลุดพ้นได้เลย ความรู้สึกสิ้นหวังอันลึกซึ้งแล่นออกมาจากหัวใจของโมริตะคาวาสึบาเมะ
ของสิ่งนั้นที่มากระทบแขนช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ถ้าโดนหัว หัวของเขาจะไม่แตกหรือ
เมื่อเห็นรูดำของปืนชี้มาที่เขา โมริตะคาวาสึบาเมะก็รู้สึกว่าผมตั้งชึ้นขึ้น รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการลงโทษความชั่วร้ายจากวิถีแห่งสวรรค์ แต่ในขณะนี้ มีความทรมานและความกลัวที่อธิบายไม่ได้นั้นพลันเกิดขึ้นในใจ
อย่างไรก็ตาม เย่จิ่งหลานยังคงเล็งเป้ามา พึมพำกับตัวเอง
“ยิงตรงไหนดีนะ ให้เจ้าหมานี่ตายง่ายๆ ในวันเดียว เกรงว่าจะสบายไปหน่อยกระมัง”
หน้าผากของโมริตะคาวาสึบาเมะมีเหงื่อออกอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งความตายก็ไม่น่ากลัวนัก บางทีช่วงที่ตายนั้น อาจไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดด้วยซ้ำ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความทุกข์ทรมานจากการรอคอยความตาย ความอัปยศอดสูและการทรมานอย่างโจ่งแจ้ง
“ช้าก่อน”
เมื่อเย่จิ่งหลานเล็งปืนไปที่เขา โมริตะคาวาสึบาเมะก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เย่จิ่งหลานทำเหมือนจะตกใจ ทนทีที่สะบัดข้อมือ ปืนก็ดังปัง
ข้อเท้าของโมริตะคาวาสึบาเมะมีเลือดออกมาก เขาร้องด้วยความเจ็บปวด
เย่จิ่งหลานยิ้มอย่างลุขอแก่โทษ
“ข้าขอโทษ พลาดเป้าไปน่ะ คราวหน้าจะระวังกว่านี้”
โมริตะคาวาสึบาเมะอยากจะตาโคตรเหง้าศักราชมาก ถ้าเขาขยับได้ คงจะถูกเจ้าเด็กเปรตนี่ถลกหนัง แล้วตัดหัวมาทำหม้อแหน่ๆ
แต่ตอนนี้ คิดอะไรก็ไร้ประโยชน์
เย่จิ่งหลานอายุยังน้อย ไม่ว่าจะมีอุบายมากมายเพียงใด ก็มีข้อจำกัด เควรทำให้ตายใจก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ปัญหา
ดวงตาของเย่จิ่งหลานเข้มขึ้นเล็กน้อย หรือจะเป็นสิ่งนั้นที่อยู่ในตัวของเย่จิ่งอวี้?
“ในเมื่อมันเป็นศาสตร์วิชาของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง แล้วเจ้าไปเอามาจากไหน”
โมริตะคาวาสึบาเมะพูดอย่างเร่งรีบ “เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว”
เย่จิ่งหลานเก็บปืนพกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้ามีเวลาเหลือเฟือ เจ้าค่อยบอกก็ได้ แต่ว่า ถ้าสิ่งที่เจ้าพูดไม่ตรงใจข้า ข้าจะใช้ปืนลงโทษความซนของเจ้า”
โมริตะคาวาสึบาเมะอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจ
โคตรแม่มันเอ้ย เย่จิ่งหลานอายุเท่าไหร่กันเชียว ทำไมเหมือนจิ้งจอกแก่มีไหวพริบขนาดดี้
เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าที่ยิ้มแย้มเต็มไปด้วยการล้อเล่น โมริตะคาวาสึบาเมะก็ทำได้เพียงระงับความโกรธในดวงตา ดวงตาทั้งคู่เป็นเหมือนปลาตายจับจ้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง ราวกับว่ากำลังระลึกถึงบางอย่าง
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดราวกับเล่าเรื่อง “กว่าสามสิบปีที่แล้ว ข้าเคยใช้ร่างอื่นเพื่อกลับไปยังจงหยวน ในเวลานั้น เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงยังไม่ปิดสนิท จะเปิดประตูออกสู่ภายนอกเดือนละหนึ่งวัน ทำธุรกิจและแลกเปลี่ยนสินค้ากับคนทั่วไป ผู้อาวุโสในอิ๋นเฉิงจะขายยาทั่วไป ให้การรักษาพยาบาลโดยไม่คิดเงินแก่คนยากจนและอ่อนแอ ซึ่งในเวลานั้นดังนั้นข้ากำลังอ่อนแอ จึงถือโอกาสแอบเข้าไป...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...