ฮวาเชียนเข้าใจทันที ดวงตาแข็งกระด้าง ยื่นมือออกไปจับโมริตะคาวาสึบาเมะทันที
“โจรชาติสุนัข คุณชายเย่ฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่ข้าทำได้”
นางไม่ได้พูดอะไรไร้สาระอีกต่อไป ใช้กระบี่แทงอกโมริตะคาวาสึบาเมะทันที
โมริตะคาวาสึบาเมะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เอื้อมมือออกไปคว้ากระบี่
เขากัดฟันกรอด พูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “ได้ พวกเจ้ากล้าทำแบบนี้กับข้า ข้าจะทำให้พวกเจ้าไม่ได้ตายดี ความทุกข์ทรมานที่ข้าได้รับ พวกเจ้าต้องได้รับเช่นกัน โดยเฉพาะเจ้า”
เขาหันหน้ามา ‘มอง’ เย่จิ่งหลานด้วยเปลือกตาที่ไร้ลูกตา
เขาพูดเน้นทีละคำ “ข้าคือเหตุและผล ข้าคือกรรม เจ้าจะถูกตามล่าและเนรเทศโดยคำสั่งลงโทษอันชั่วร้าย!”
เลือดหยดหนึ่งกระทบหน้าผากของเย่จิ่งหลาน รวดเร็วราวกับสายฟ้า ก่อนที่เย่จิ่งหลานจะรู้ตัว เลือดก็ไหลซึมเข้าสู่ผิวหนังของเขาอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าโมริตะคาวาสึบาเมะยังอยากพูดอยู่ แต่ฮวาเชียนได้เหวี่ยงกระบี่สับหัวของเขาแล้ว
เย่จิ่งหลานรู้สึกเย็นเฉียบที่ระหว่างคิ้ว เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสมัน ก็ไม่พบอะไรเลย
ฮวาเชียนมองตามสายตาของเย่จิ่งหลาน แต่ไม่เห็นเลือดหยดนั้น จึงถามด้วยความประหลาดใจ “มีอะไร”
เย่จิ่งหลานยิ้ม
“ไม่เป็นไร ท่านอาฮวาแน่ใจใช่ไหมว่าเขาตายแล้ว”
ฮวาเชียนก้มศีรษะลง พูดอย่างระมัดระวัง “ถูกตัดหัวขาดแล้ว คิดว่าคงไม่มีชีวิตอยู่แล้วล่ะ”
เย่จิ่งหลานกล่าวว่า “ฟันไปอีกหลายๆ กระบี่หน่อยก็ดี หลังจากรุ่งสาง เกาะตงหลิวจะถูกกวาดล้างจนหมด ไม่ว่าเด็กหรือแก่ ไม่ให้เหลือรอดแม่แต่คนเดียว”
“ทราบแล้ว”
ฮวาเชียนแทงอวัยวะสำคัญของโมริตะคาวาสึบาเมะมากกว่าสิบครั้ง จากนั้นจึงหยุด
“แต่เรื่องของเจ้า จะบอกกับทุกคนว่าอย่างไร”
“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะอธิบายให้ฟังเอง ภายในสามวัน เราจะกลับไปที่เป่ยไห่”
หลังจากพูดจบ เย่จิ่งหลานก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง
“กระหม่อมกลัว...ว่าจะมีคนปองร้ายต่อฝ่าบาท”
“ถ้าข้าสวมชุดชาวบ้าน พวกเขาจะรู้ได้อย่างไร หยุดพูดไร้สาระ เตรียมม้าให้พร้อม”
เย่จิ่งหลานผูกเข็มขัดเขาอย่างคล่องแคล่ว แล้วเดินออกจากตำหนักเฉิงเทียน
ต้นไม้ใบหญ้าทุกชนิดในวังไม่ต่างจากที่เขาจำได้ แต่เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป และดูเหมือนว่า... มีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ
ไทเฮาสิ้นพระชนม์โดยไม่คาดคิด อันผิงอ๋องถูกลอบสังหาร เขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องสำคัญเช่นนี้ นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ของลู่จิ้งเสียนกับพ่อของนาง รวมถึงเสนาบดีกวนเมิ่งถิงถูกลดตำแหน่ง เขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ซึ่งมันไม่ธรรมดาจริงๆ
หลังจากถามหมอหลวงหลายครั้ง พวกเขาเคยบอกว่าเขาป่วยหนัก คำตอบที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้ ไม่เพียงแต่ไม่คลายข้อสงสัยของเย่จิ่งอวี้ แต่ยังทำให้เขาสงสัยมากยิ่งขึ้น
แม้แต่เจวี๋ยอิ่งก็เป็นเหมือนกัน สายตาหลบเลี่ยง เห็นได้ชัดว่ากำลังปิดบังอะไรบางอย่าง
บางทีควรไปเดินเล่นท่ามกลางชาวบ้าน บางทีข้าอาจจะพบเบาะแสอะไรบางอย่าง
“เจวี๋ยอิ่ง วันนี้ไม่ต้องตามข้ามา”
เย่จิ่งอวี้พูดอย่างเย็นชา แล้วพลิกตัวขึ้นหลังเฟยมั่ว และมุ่งหน้าตรงไปยังประตูจิ้งอัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...