ธิดาเทพคนใหม่?
อินชิงเสวียน อดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
นางสวมผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์ วางมือทับกันด้านหน้าอก ทำให้คนรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาทั้งคู่หลุบลงเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถตัดสินสีหน้าของนางได้
แต่ดูจากรูปร่างแล้ว คงมีอายุไม่มากนัก
วินาทีต่อมา อินชิงเสวียนเห็นลิ่นเซียวที่มีผมสีขาวอยู่ท่ามกลางฝูงชน
รูปร่างหน้าตาของเขายังคงหล่อเหลาเหมือนตอนที่พบครั้งแรก แต่แววตากลับดูวิปลาสกว่าตอนนั้น
มีคนถามว่า “ผู้อาวุโสหัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเรียกทุกคนมาที่นี่กลางดึก”
ผู้อาวุโสหันยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนแท่นสูง สายตาคมกริบดั่งสายฟ้า กวาดมองทุกคนทีละคน
“วันนี้ข้าพาแม่ลูกคู่หนึ่งขึ้นมาบนเขา เมื่อสามสิบนาทีที่แล้ว เด็กคนนั้นถูกลักพาตัวไป ไม่ทราบว่าช่วงนี้มีใครออกไปข้างนอกบ้างหรือไม่”
ทันทีที่ผู้อาวุโสหันพูดจบ ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความตกใจ
อาคันตุกะมักจะบำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำของตน ยกเว้นศิษย์ที่ลาดตระเวนบนภูเขาแล้ว ก็แทบไม่มีใครเดินเพ่นพ่านในตอนกลางคืน
ลิ่นเซียวได้เห็นอินชิงเสวียนแล้ว จิตใจพลันเกิดความผันผวนทันที
เขาเหาะไปที่หน้าแท่น แล้วคว้าข้อมือของอินชิงเสวียน
เขาถามด้วยน้ำเสียงบ้าคลั่ง “เป็นเจ้าเอง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”
เมื่อเขาถาม ธิดาเทพในชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นเช่นกัน นัยน์ตาเจือจาง ราวกับว่าไม่มีอารมณ์ใดๆ
“ผู้อาวุโสลิ่น ท่านยังจำข้าได้ด้วยรึ”
ลิ่นเซียวก้มศีรษะมองดูนาง ผมขาวเงินของเขาสั่นไหวเบาๆ
“ข้าสอนเพลงหยกรัตติกาลให้กับเจ้าด้วยตัวเองแล้ว ทำไมจะจำไม่ได้ แล้วพิณการเวกล่ะ”
“ยังอยู่กับผู้เยาว์เจ้าค่ะ”
อินชิงเสวียนก้มศีรษะเพื่อแสดงความเคารพ
ในแง่หนึ่ง ลิ่นเซียวก็เป็นอาจารย์คนแรกของนาง
ด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสหันขมวดคิ้ว เหมือนจะไม่พอใจกับการกระทำของลิ่นเซียว
แต่เขาไม่ได้พูดอะไรมาก มองไปรอบๆ และพูดต่อ “ถ้าใครสามารถให้เบาะแสได้ จะเปิดให้เข้าไปใช้หอตำราสะสมของตำหนักเทพโดยไม่มีข้อจำกัด หากใครสามารถหาเบาะแสของเด็กน้อยได้ ข้าจะรับปากคำขอของเขา ไม่ว่าจะเป็นด้านการฝึกพลังวรยุทธ์ หรือทรัพย์สินเงินทอง ข้าก็ไม่ปฏิเสธ”
อาคันตุกะที่นี่ล้วนเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในยุทธจักร ไม่มีใครสนใจเรื่องทรัพย์สมบัติเงินทองนัก แต่หอตำราสะสมของตำหนักเทพ เป็นสิ่งเย้ายวนใจมากที่สุดสำหรับพวกเขา
อินชิงเสวียนพูดทั้งสะอื้นว่า “ใช่ หลังจากผู้เยาว์เข้าไปในบ้านหินไม่นาน ประตูก็พัง เด็กก็ถูกคนชุดดำลักพาตัวไป”
“เจ้าไม่ต้องห่วง เขาหนีไปไหนได้ไม่ไกล ข้าจะตามหาเขาเดี๋ยวนี้”
ลิ่นเซียวไม่สนใจผู้อาวุโสหัน พลังจากพูดจบก็วิ่งหนีไปราวกับสายลม
ผู้อาวุโสหันขมวดคิ้วมองดูเขา แล้วพูดกับเหล่าศิษย์ตรงหน้าเขา “พวกเจ้าก็ไปค้นหาทุกที่เถอะ หากพบร่องรอยใดๆ ให้ส่งสัญญาณด้วยไฟ”
“ขอรับ”
ทุกคนตอบรับ จากนั้นก็เหาะลงจากภูเขา
มีเพียงผู้หญิงในชุดขาวเท่านั้นที่ยังคงยืนเงียบๆ โดยไม่พูดไม่จา
ผู้อาวุโสหันเหลือบมองนางแล้วพูดว่า “ซูเอ๋อร์ เจ้าก็กลับไปก่อนเถอะ”
ผู้หญิงในชุดขาวหันหลังกลับทันที และจากไปโดยไม่หันกลับมามองฝูงชนอีก
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของนาง อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะดูแปลกๆ ไปหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...