ฝ่ามือนั้นเร็วมาก จนเจวี๋ยอิ่งเห็นเป็นภาพติดตา คิดจะหลบก็สายเกินไปเสียแล้ว
ปัง!
เสียงอึกทึกดังขึ้นในหน้าอกของเจวี๋ยอิ่ง ทันใดนั้นเขาก็ลอยลิ่วออกไปราวกับว่าวสายป่านขาด และกระแทกเข้ากับกำแพงวังหลวงอย่างแรง
แต่แรงนั้นยังไม่ลดน้อยลง เสียงปังดังสนั่น กำแพงวังหลวงถูกเจวี๋ยอิ่งกระแทกจนพังทลาย ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์
“หัวหน้า!”
องครักษ์เงาหลายคนใช้วิชาตัวเบาไปช่วยพยุงเจวี๋ยอิ่งที่กระอักเลือดขึ้นมา
“ทำอย่างไรดี ฝ่าบาทฝึกพลังยุทธ์แบบไหนกัน ทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้”
องครักษ์หมายเลขสามทั้งตกใจและหวาดกลัว เหงื่อเย็นไหลออกมาที่ปลายจมูก
“ไม่รู้ ปกติฝ่าบาทเป็นคนสุขุมเยือกเย็น ไม่เคยคลุ้มคลั่งขนาดนี้ ต้องเป็นเพราะธาตุไฟเข้าแทรกแน่ๆ”
เจวี๋ยอิ่งลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก
“ก่อนจากไปฮองเฮากำชับให้ปกป้องฝ่าบาทให้ดีเป็นพิเศษ วันนี้แม้ต้องตาย เราก็ต้องหยุดเขาให้ได้”
เขาผลักเหล่าพี่น้องออกไป แล้ววิ่งฝ่าเข้าไปอีกครั้ง
เย่จิ่งอวี้ไม่หันกลับมามอง สะบัดฝ่าเท้าเตะออกไปทันที
พลังมหาศาลพุ่งกดดันใส่เจวี๋ยอิ่ง เจวี๋ยอิ่งคล้ายจะได้ยินเสียงกระดูกหักของตัวเอง แต่เขาก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะจับเย่จิ่งอวี้
“ฝ่าบาท ตื่นเถิด ท่านยังมีองค์ชายน้อย ยังมีฮองเฮาอยู่!”
เมื่อเทียบกับความลับเหล่านั้น เจวี๋ยอิ่งให้ความสำคัญกับสุขภาพของเย่จิ่งอวี้มากกว่า หากฝ่าบาทเสียสติ การปกปิดทั้งหมดก็ไร้ความหมาย
เย่จิ่งอวี้ตกใจเล็กน้อย
ดูเหมือนจะมีแสงสว่างขึ้นในใจของเขา แต่กำลังภายในร่างกายไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอีกต่อไป มันยังคงพุ่งขึ้นหว่างคิ้วอย่างบ้าคลั่ง
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เขาต้องหยุดมือ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เสียงคำรามอย่างต่อเนื่องราวกับเสียงฟ้าร้องจากฟ้าทำให้เหล่านกกาตกใจ
ในเวลาเดียวกัน เสียงคมชัดดังก้องในหัวของเขาเบาๆ โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นซึ่งกักขังเขาไว้เป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดก็แตกออกเป็นชิ้นๆ นับไม่ถ้วน ใบหน้างดงามหยาดเยิ้มก็ครอบงำจิตใจของเขาทั้งหมด
ณ อารามซ่างชิงกวน
นักพรตเทียนชิงกำลังเทศนาผู้คน ใบหน้าสงบมีเมตตา ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความปรานี
ข้างหลังเขา นักพรตน้อยชิงฮุยเงยหน้าขึ้น มองดูกลุ่มเมฆพายุลมบนท้องฟ้า ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย รู้สึกเคลือบคลุมไม่แน่นอน
เป็นเขาหรือเปล่า
เขามีความแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือ
ขณะที่ชิงฮุยกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นักพรตเทียนชิงก็เทศนาพระคัมภีร์เสร็จแล้ว พูดกับทุกคนว่า “วันนี้พอแค่นี้ก่อน พวกเจ้าทุกคนกลับไปพักผ่อนเถิด!”
ทุกคนยังคงรู้สึกไม่อิ่มใจ การเทศนาคัมภีร์เต๋าของนักพรตเทียนชิงนั้นเข้าใจง่าย เหมือนจะมีพลังในการชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ ใครก็ตามที่ฟังการเทศนาของเขา จะรู้สึกว่าตัวเองรู้แจ้งมากขึ้น
พวกเขาเฝ้าดูนักพรตเทียนชิงเดินเข้าไปในอารามเต๋าที่รายล้อมไปด้วยลูกศิษย์ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปอย่างช้าๆ
หลังจากปิดประตูแล้ว นักพรตเทียนชิงก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือศีรษะ
เขาลูบเคราสีเทาแล้วพูดว่า “ไม่คิดว่าจะมีบุคคลเช่นนี้ในเมืองหลวง บางทีข้าควรจะพบกับเขาสักหน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...