เฟิงเอ้อร์เหนียงถูกกระแทกให้ถอยไปก้าวด้วยกำลังภายในที่แข็งกร้าวเผด็จการทันที
นิ้วของอินชิงเสวียนจี้สกัดจุดสำคัญบนหน้าอกของฉุยอวี้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า และจุดสุดท้าย นางจี้สกัดจุดที่หว่างคิ้ว
นางกำนิ้วเป็นดัชนีกระบี่ จิ้มไปยังจุดห้วงทะเลแห่งจิตของฉุยอวี้ ฉุยอวี้เหมือนจะมีอาการกระตุกอย่างแรง ร่างทั้งร่างสั่นอย่างรุนแรงราวกับว่าเขาถูกไฟฟ้าช็อต
“ฉุยอวี้!”
เฟิงเอ้อร์เหนียงอุทานลั่น ลูกกลมแสงสีม่วงอ่อนก่อตัวบนฝ่ามือของนาง
ขณะที่กำลังจะลงมือ จู่ๆ ก็เห็นฉุยอวี้ก็ลืมตาขึ้นมา
นางมองดูกำแพงหินรอบๆ ตัวด้วยสีหน้าสับสน แล้วพึมพำว่า “ที่นี่...ที่ไหน”
“ฉุยอวี้ เจ้ารู้สึกตัวแล้ว ยังจำข้าได้ไหม”
เฟิงเอ้อร์เหนียงวิ่งไปที่เตียงอย่างตื่นเต้น
นับตั้งแต่ฉุยอวี้ถูกควบคุม นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดขึ้น
ฉุยอวี้หันหน้ามาช้าๆ พูดด้วยเสียงอ่อนแรง “อวิ๋นลี่... “
เฟิงเอ้อร์เหนียงจับมือนางอย่างตื่นเต้น พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกและพูดว่า “ข้าเอง ในที่สุดเจ้าก็จำข้าได้แล้ว”
ฉุยอวี้พยักหน้า มองไปยังอินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“แม่นางชิงเสวียน ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่ ที่นี่ที่ไหนกันแน่”
เฟิงอวิ๋นลี่ก็มองไปที่อินชิงเสวียนเช่นกัน
“หรือว่าแม่นางอินแก้ไขการถูกควบคุมของฉุยอวี้ได้แล้ว?”
อินชิงเสวียนพยักหน้า
“คงจะเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ข้าไม่แน่ใจ ต้องขออภัยด้วย ถ้าข้าอธิบายกับผู้อาวุโสเฟิงก่อน ข้าก็กลัวว่าจะไม่มีความมั่นใจเพียงพอ อาจกลัวจนถดถอยลง ล่วงเกินแล้ว หวังว่าผู้อาวุโสทั้งสองท่านจะให้อภัย”
ฉุยอวี้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยๆ นึกถึงการเผชิญหน้าของนางกับผู้อาวุโสหันในเมืองหลวง รวมถึงเหตุการณ์ที่นางเชือดคอเพื่อปกป้องตัวเอง
ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะยังคงพูดได้ สวรรค์ทรงเมตตาต่อนางจริงๆ
โดยที่ไม่รู้เลยว่าในช่วงนี้นั้น นางได้รับน้ำจากน้ำพุวิญญาณมาตลอด ร่างกายฟื้นตัวอย่างช้าๆ ไม่เพียงแต่สามารถพูดได้ แต่กำลังภายในของนางก็ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
เฟิงเอ้อร์เหนียงรีบโค้งคำนับให้อินชิงเสวียนอย่างสุดซึ้ง
“ขอบคุณแม่นางอินสำหรับความช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าทำไมแม่นางอินจึงใช้วิชาควบคุมของตำหนักเทพได้?”
นางเงยหน้าขึ้นมองอินชิงเสวียน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“เจ้าหมายความว่า?”
ฉุยอวี้กำนิ้วแน่นโดยไม่รู้ตัว แววตาตื่นเต้นปรากฏขึ้นในดวงตา
“ใช่ ข้าต้องการขับไล่เขาออกจากตำหนักเทพ ให้ผู้ที่มีคุณธรรมเข้ามาแทน”
แน่นอนว่า ถ้าได้ชีวิตชั่วๆ ของเขา ถึงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เฟิงเอ้อร์เหนียงร้องออกมา
“นี่...”
ทันใดนั้นนางก็นึกถึงเรื่องอื่น
“แม่นางชิงเสวียนได้ยินเรื่องการหายตัวไปของธิดาเทพคนก่อนหรือไม่ แล้วมีข่าวเกี่ยวกับจ้าวเอ๋อร์ของเจ้าบ้างไหม”
อินชิงเสวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจปกปิดเรื่องที่ช่วยเหลือเหมยชิงเกอก่อน
“เคยได้ยิน แต่ไม่มีเบาะแส ไม่มีข่าวเกี่ยวกับลูกชายของข้าด้วย คิดว่าผู้อาวุโสหันไม่เห็นเรื่องที่ลูกชายของข้าหายตัวไปอยู่ในสายตา คนหน้าด้านเช่นนี้ แม้ต้องตายไปเป็นหมื่นๆ ครั้ง ก็ยากที่จะบรรเทาความเกลียดชังในใจข้าได้ แต่ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสทั้งสองคิดอย่างไร”
ฉุยอวี้พูดโดยไม่ลังเล “ข้าเห็นด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...