สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1122

อินชิงเสวียนรู้สึกหงุดหงิด ยกเท้าเตะก้อนหินใส่ยอดหน้าของเย่จิ่งหลาน

“หุบปากเน่าๆ ของเจ้าซะ”

เย่จิ่งหลานหัวเราะ เบี่ยงตัวหลบทันที

“ข้าในวันนี้ไม่ใช่คุณชายน้อยที่ถูกเจ้าหิ้วไปไหนมาไหนคนนั้นแล้ว”

อินชิงเสวียนเตะหินอีกก้อนหนึ่ง เย่จิ่งหลานยกสองนิ้วขึ้นมาจับไว้ได้ ปรายหางตามองอินชิงเสวียนด้วยท่าทางขิงๆ

“เป็นอย่างไร”

อินชิงเสวียนพูดอย่างล้อเลียน “มีความสามารถมากทีเดียว แต่ไม่รู้ว่าเป็นหัวตะกั่วเลียนแบบเงิน ที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมหรือเปล่า”

เย่จิ่งหลานอยากจะบอกว่า เจ้าก็ลองสิจะได้รู้ แต่คำพูดล้อเล่นแบบนี้ เขาไม่กล้าพูดมั่วซั่ว หากทำให้ยัยนี่ขุ่นเคือง แม้แต่เพื่อนก็อาจจะไม่ได้เป็นอีกต่อไป

ตอนนี้กำลังพอดี ไม่ใกล้ไม่ไกล ทั้งเป็นความสนิทที่ไม่ใกล้ชิดเกินไป ทั้งยังไม่ห่างเหินเกินไปด้วย

แม้ว่าเย่จิ่งหลานจะยั้งใจไม่ให้มีความคิดอื่นไม่ได้ แต่ก็เข้าใจ เมื่อใดที่ล้ำเส้น ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอินชิงเสวียนก็จะจบลง

อินชิงเสวียนไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย นางมีความสง่างามเหมือนดอกดารารัตน์ ทั้งยังสูงส่งดังลูกพลัมยามเหมันต์ นางไม่สนใจชื่อเสียงเงินทอง และไม่สนใจสถานะหรือตำแหน่ง หากชาตินี้เย่จิ่งอวี้จำนางไม่ได้จริงๆ นางจะไม่แต่งงานอีกแน่นอน

อนิจจา ช่างน่าเสียดาย!

“เจ้าถอนหายใจทำไม”

อินชิงเสวียนเดินเข้ามา ยกเท้าขึ้นเตะเขา

เย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า “เป็นผู้หญิงอยู่ดีๆ แต่ดุร้ายเหมือนเสือ ในโลกนี้นอกจากเย่จิ่งอวี้แล้ว ก็ไม่มีใครอยากแต่งงานกับเจ้า”

“ถุย งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัขจริงๆ”

อินชิงเสวียนสบถสาปแช่ง แล้วก็รู้สึกถึงการขับเคลื่อนของชี่เมื่อครู่นี้อีก แต่มันก็หายไปแล้ว

น่าแปลก

นี่ไม่ใช่เจตนาฆ่า แต่เหมือนกับการสอดแนมบางอย่าง สรุปก็คือมันแปลกมาก อินชิงเสวียนไม่สามารถอธิบายได้ในขณะนี้

“เมื่อครู่เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ”

สีหน้าของทั้งสามคนดูหนักใจเล็กน้อย

หลายคนยืนอยู่ที่นั่นสักพัก ไม่มีใครพูดอะไรก่อน ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็เป็นคนเอ่ยทำลายความเงียบ

เขาบิดเนื้อตัวอย่างเมื่อยขบพูดว่า “ข้าจะกลับไปพักผ่อนก่อน เราพักอยู่ไม่ไกลกัน มีธุระอะไรก็เรียกข้าได้ ข้ารับรองว่าจะมาถึงทันทีที่เรียก”

ฮั่วเทียนเฉิงก็ประกบมือกล่าวคำอำลาเช่นกัน

อินชิงเสวียนมองส่งคนทั้งสองจากไปจนสุดสายตา เดินเข้าไปในที่พักหิน แล้วถามว่า “เจ้าตำหนักมีรูปร่างคล้ายผู้ใด มีหน้าตาเป็นอย่างไร”

ทั้งสองตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ฉุยอวี้ก็กล่าวว่า “เจ้าตำหนักมีรูปร่างสง่างาม ค่อนข้างคล้ายคลึงกับคุณชายเย่ผู้เป็นสามีของแม่นางอิน รูปร่างผอมเพรียว ดวงตาสงบอ่อนโยน”

ส่วนเรื่องอื่น ฉุยอวี้ไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไร

เฟิงเอ้อร์เหนียงถามว่า “ทำไมจู่ๆ แม่นางอินถึงถามเรื่องนี้”

อินชิงเสวียนนึกถึงเย่จั้นขึ้นมาทันที เม้มริมฝีปาก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดีเลย คราวนี้ เราจะได้พบกับเจ้าตำหนักอย่างแน่นอน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์