ฉุยอวี้หันไปมองฉางเฮิ่นเทียน
“คนเช่นเจ้า คาดเดาได้ยาก เจ้าเคยทรยศข้ามาแล้วหนหนึ่ง จะให้ข้าเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร”
ฉางเฮิ่นเทียนคุกเข่าลงและพูดว่า “ทุกอย่างล้วนทำไปเพราะความจำเป็น เจ้าสำนักฉุยโปรดยกโทษให้ด้วย ข้าน้อยไม่ขอให้เจ้าสำนักฉุยดูแลแต่อย่างใด แค่อยากให้รับข้าน้อยให้อยู่ที่นี่ ก็พึงพอใจมากแล้ว”
ฉุยอวี้มีสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย
“เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”
ฉางเฮิ่นเทียนก้มหัวแล้วพูดว่า “ข้าน้อยออกมาจากอิ๋นเฉิง ต้องถูกจับกุมแน่ๆ ตอนนี้ไม่มีที่อยู่แล้ว มีเพียงตำหนักเทพหอทองคำเท่านั้นที่ทัดเทียมกับอิ๋นเฉิง ถึงจะรับรองความปลอดภัยของข้าได้”
ฉุยอวี้พยักหน้า คำพูดนี้สมเหตุสมผล
“ถ้าแค่อยากอยู่ที่นี่ ก็ไม่ใช่ปัญหา”
“ขอบพระคุณเจ้าสำนักฉุย ขอบพระคุณเจ้าสำนักฉุย”
ฉางเฮิ่นเทียนก้มหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก ท่าทางตื้นตันใจมาก
ฉุยอวี้พูดเบาๆ “ลุกขึ้นเถอะ ข้ารับรองได้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ได้ แต่เจ้าควรสำรวมตัวไว้ให้ดี หากกล้าก่อปัญหา อย่าหาว่าข้าไม่ปรานีกับเจ้า”
“ข้าน้อยไม่กล้า สิ่งเดียวที่ต้องการคือที่อยู่อาศัย”
“อยากพักที่ไหน เจ้าก็บอกมาได้”
“สถานที่เงียบสงบก็พอ ข้าน้อยไม่กล้าจู้จี้จุกจิก”
“เช่นนั้นที่ลำธารอวิ๋นซีเจี้ยนก็ได้ ข้าจะสั่งคนให้พาเจ้าไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
ฉุยอวี้วางเคล็ดวิชาลับไว้ในอกเสื้อ จากนั้นก็ออกไปทันที
ฉางเฮิ่นเทียนมองตามแผ่นหลังของนาง แล้วยกมุมปากขึ้นเยาะ
ผู้หญิงคนนี้หลอกง่ายกว่าอินชิงเสวียนมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นรองเจ้าเมืองอิ๋นเฉิง การจะหยิบตำราวิชายุทธ์มาแค่ไม่กี่เล่มยอมไม่เป็นปัญหา
ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรมาก แค่มีเวลาได้สงบใจและค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ ก็เพียงพอแล้ว แน่นอนว่าหากได้รับน้ำพุวิญญาณจากอินชิงเสวียนได้ ย่อมดีกว่ามาก
เพียงแต่นังเด็กนั่นระวังตัวมาก ตอนนี้เย่จิ่งอวี้ก็มาที่ตำหนักเทพแล้ว ถ้าคิดจะใช้กำลังจัดการนางยิ่งเป็นเรื่องยาก
เมื่อคิดถึงคนสองคนนี้ ดวงตาของฉางเฮิ่นเทียนก็ฉายแววมืดมนและเย็นชา
เขาค่อยๆ ปีนขึ้นไปจากพื้น แล้วเดินออกจากห้องหิน
“มิใช่ ประเดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟัง”
อินชิงเสวียนเร่งฝีเท้าและกลับไปที่พักกับเย่จิ่งอวี้ หลังจากปิดประตูแล้วนางก็เข้าไปในมิติ
เสี่ยวหนานเฟิงกำลังนั่งเล่นอุลตร้าแมนอยู่บนพื้นหญ้า เขามีความสุขมากจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งสองคนเข้ามาแล้ว
อินชิงเสวียนโบกมือ ส่งสัญญาณบอกเย่จิ่งอวี้ไม่ให้รบกวนเขา
ทั้งสองมาที่ประตูร้านค้าสะสมคะแนน แล้วนั่งลงบนบันได
“ทำไมหรือ มีเรื่องอะไร”
อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ฉางเฮิ่นเทียนคนนี้มีปัญหา”
อินชิงเสวียนไม่ได้ปิดบังเรื่องทักษะช่วงชิงโชคลาภ ยังเล่าถึงฉากที่ตัวเองเห็นในหัวของฉางเฮิ่นเทียน นางเกือบจะแน่ใจว่าวรยุทธ์ของฉางเฮิ่นเทียนนั้นเป็นฝังโลหิตจริงๆ
เย่จิ่งอวี้ค่อนข้างประหลาดใจ
“ฉางเฮิ่นเทียนยังเด็กมาก จะฝึกฝนวรยุทธ์ที่ดุร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...