สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1185

“เจ้าตำหนักเหมย!”

อินชิงเสวียนรีบพุ่งไปข้างหน้า ปราดเข้าไปประคองเหมยชิงเกอ

ลิ่นเซียวยืนมองดูนางอยู่ที่เดิม

“นางเป็นเจ้าตำหนักจริงๆ หรือ”

อินชิงเสวียนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เป็นเรื่องจริง ท่านอาจารย์ไม่สนใจเรื่องทางโลก จึงไม่รู้ว่าวันนี้เป็นพิธีสืบทอดตำแหน่งเจ้าตำหนักคนใหม่ ผู้อาวุโสเหมยผู้นี้เป็นศิษย์ของเจ้าตำหนักคนเก่า”

ลิ่นเซียวร้องอ้อ และพูดว่า “ที่แท้ข้าก็ถูกคนบ้าหลอก ข้าจะไปทวงความยุติธรรมจากเขา”

ทันทีที่ร่างหายวับ เขาก็ไล่ตามหันเจิงหมิงไปแล้ว

เหมยชิงเกอคว้ามือของอินชิงเสวียนทันที พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ชิงเสวียนได้โปรดส่งข้ากลับไปที่พักของข้าด้วย ห้ามให้เหล่าศิษย์เห็นข้าเด็ดขาด”

ทันทีที่พูดจบ เย่จิ่งอวี้ก็อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงตามมาถึงแล้ว

“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

อินชิงเสวียนหันกลับมาแล้วพูดว่า “ข้าสบายดี ผู้อาวุโสเหมยได้รับบาดเจ็บ เราไปส่งนางกลับก่อนเถอะ”

เมื่อเห็นมิตรภาพอันลึกซึ้งในแววตาของทั้งสองคน เหมยชิงเกอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

นี่คือลูกสาวของนาง ทำไมถึงต้องเสียนางไปให้ผู้ชายคนอื่น ลูกสาวของนางฉลาดหลักแหลมโดดเด่นมากขนาดนี้ ยังมีทักษะวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องมีภาระอย่างเช่นพวกผู้ชายเลย

นิ้วที่จับอินชิงเสวียนบีบแน่นขึ้นเล็กน้อยในทันที

“เสื้อผ้าของข้าเปื้อนเลือด มีผู้ชายอยู่ด้วยเกรงว่าจะไม่สะดวกในการเปลี่ยนชุด...”

อินชิงเสวียนเหลือบมองคราบเลือดบนหน้าอกของเหมยชิงเกอ แล้วหันกลับมาพูดว่า “เช่นนั้น อาอวี้จะกลับไปรอข้าก่อน แล้วข้าจะตามกลับไป”

เย่จิ่งอวี้ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก จึงพยักหน้าและกล่าวว่า “เสวียนเอ๋อร์ระวังด้วย หากตกอยู่ในอันตราย ให้ใช้ดอกไม้ไฟเป็นสัญญาณ”

“ได้ งั้นข้าไปล่ะ”

อินชิงเสวียนอุ้มเหมยชิงเกอขึ้นมา หลังจากนั้นผลุบๆ โผล่ๆ ไม่กี่ครั้ง นางก็มาถึงห้องหินที่เหมยชิงเกอพักอยู่

นางยกมือขึ้นแล้วหยิบเอาขวดน้ำพุวิญญาณออกมาจากมิติ

“ผู้อาวุโสเหมยเชิญใช้น้ำนี่ สิ่งนี้จะช่วยให้รักษาอาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสได้”

“ขอบคุณชิงเสวียน”

เหมยชิงเกอจิบสองคำ แล้วพิงกำแพงหินอย่างอ่อนแรง

“ในปีนั้นข้าถูกคนไล่ล่า เวลานั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกลมแรงกัดกร่อนมานานหลายปี อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทั้งหลายพอนานวันเข้าก็กลายเป็นโรคเรื้อรัง แม้ว่าจะมีน้ำพุวิญญาณก็จะยากฟื้นตัวได้ทันที”

อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

เหมยชิงเกอพักอยู่ในมิติมานานกว่าสิบวัน แช่ตัวและดื่มน้ำพุวิญญาณตลอดทั้งวัน จะยังหลงเหลือโรคเรื้อรังได้อย่างไร

เหมยชิงเกอกล่าวเสริม “ชิงเสวียนได้โปรดอยู่ต่ออีกสองสามวัน จนกว่าข้าจะหายจากอาการบาดเจ็บค่อยไป จะได้ไปส่งเจ้าดีๆ ตอบแทนที่ช่วยชีวิตข้าไว้”

เมื่อมองดูดวงตาแดงระเรื่อของเหมยชิงเกอ อินชิงเสวียนก็รู้สึกใจอ่อน ถึงอย่างไรนี่ก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดของเจ้าของร่างเดิม นางอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ช่วยดูแลคุณย่าของตัวเองอย่างดี หากตัวนางจากไปเช่นนี้ ก็คงไม่สมเหตุสมผล

เอาเถอะ ถึงอย่างไรตระกูลอินพ่อลูกก็ได้กลับเมืองหลวงแล้ว มีพวกเขาและจอมพลเฒ่ากวนอยู่ คงไม่น่าจะเกิดความสับสนวุ่นวายในเมืองหลวง งั้นก็ฝืนใจ ลองอยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ได้

“ได้เจ้าค่ะ”

อินชิงเสวียนนำถังไม้ออกมาจากมิติ และเติมน้ำพุวิญญาณเข้าไปในถัง

“ผู้อาวุโสสามารถแช่ตัวในน้ำพุวิญญาณได้ ต้องได้ผลลัพธ์เกินคาดแน่นอน”

เหมยชิงเกอถามอย่างระมัดระวัง

“ชิงเสวียนจะอยู่ที่นี่กับข้าไหม”

“แน่นอน ข้าจะช่วยพยุงผู้อาวุโสเข้าไปเอง”

อินชิงเสวียนช่วยพยุงเหมยชิงเกอเข้าไปในถังน้ำ และนั่งรอบนม้านั่งหินด้านข้าง

“ศิษย์พี่ใหญ่ไม่รู้ความคิดของเจิงหมิงจริงๆ หรือ เป็นเพราะศิษย์พี่ใหญ่เขาถึงเป็นบ้า และกลายเป็นคนวิกลจริต”

เสียงของฮั่วเทียนเฉิงดังขึ้นนอกประตู น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเสียใจ

ร่างกายของเหมยชิงเกอแข็งทื่อ ได้ยินเฟิงเอ้อร์เหนียงพูดว่า “ศิษย์พี่ฮั่ว...”

ดูเหมือนว่าเฟิงเอ้อร์เหนียงไม่ต้องการให้เขาพูดมากกว่านี้ แล้วถามว่า “เจ้าตำหนักเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”

เหมยชิงเกอพูดอย่างอ่อนแอทันที “ได้รับบาดเจ็บจริงๆ กำลังแช่ตัวในน้ำพุวิญญาณของชิงเสวียนเพื่อฟื้นฟูอยู่”

ฉุยอวี้กล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกข้าจะปกป้องเจ้าตำหนักที่อยู่นอกประตู”

เหมยชิงเกอตอบอืม แล้วถามว่า “เทียนเฉิง เจ้ารู้ไหมว่าศิษย์น้องเจิงหมิงอาศัยอยู่ที่ไหน”

ฮั่วเทียนเฉิงถามว่า “เจ้าตำหนักไปหาเขา แล้วจะทำอย่างไรต่อ”

เหมยชิงเกอกล่าวว่า “แน่นอนว่าต้องหาวิธีฟื้นฟูสติสัมปชัญญะของเขา”

ฮั่วเทียนเฉิงถอนหายใจ “ถ้าเขารู้ว่าผู้อาวุโสหันเสียชีวิตเพราะเจ้าตำหนัก ต้องรู้สึกไม่พอใจ และล้างแค้นแทนบิดาอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น มิเท่ากับว่าจะเสียไปอีกหนึ่งชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์หรอกหรือ”

เหมยชิงเกอขมวดคิ้ว

“เจ้าหมายความว่า จะไม่ให้ข้าสนใจไยดีงั้นหรือ”

ฮั่วเทียนเฉิงมองไปในทิศทางที่เจ้าตำหนักถูกฝังอยู่ พูดด้วยน้ำเสียงจนปัญญา “บางครั้ง การมีชีวิตอยู่อย่างสับสน ก็ใช่ว่าจะไม่ดี”

เหมยชิงเกอคิดอยู่นานและพูดว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าควรไปพบเขา”

นางไม่เคยรู้ใจของหันเจิงหมิง ยิ่งไม่รู้ว่าเขากลายเป็นแบบนี้เพราะนาง

จู่ๆ ฉุยอวี้ก็พูดว่า “วันนี้เมื่อเขาเห็นเจ้าตำหนักก็กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง บางทีใช้เวลาไม่นานก็จะรู้สึกตัว แทนที่จะปล่อยให้เสือที่นอนอยู่ข้างเตียงทำให้เราไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสงบ ไม่สู้กำจัดมันไปเสียตั้งแต่เนิ่นๆ”

เหมยชิงเกอเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า “เรื่องนี้ ข้ามีความเห็นของตัวเอง ที่นี่ให้ชิงเสวียนอยู่กับข้าก็พอ พวกเจ้าไปที่ห้องโถงด้านหน้าก่อน ปลอบใจเหล่าศิษย์ ประเดี๋ยวข้าจะตามไป”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์