เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปรับแก้วชา และบ้วนปาก
เสี่ยวฮว๋ายจื่อค้อมกาย ถวายอ่างน้ำด้วยความเคารพ
อินชิงเสวียนอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ และมองดูมือของพวกเขาอยู่ตลอด
ในโทรทัศน์มักมีการแสดงทำนองนี้ นักฆ่าถือของบางอย่าง และกริชในมือของเขาถูกวางไว้ใต้อ่าง และเขาก็สังหารอย่างไม่มีผู้ใดคาดได้
โชคดีที่มือทั้งสองของพวกเขาแสดงให้เห็นชัดเจนและไม่ได้ถืออะไรเลย
อินชิงเสวียนจึงวางใจ
ไม่แน่ว่าเสี่ยวฮว๋ายจื่ออาจพูดเล่นเท่านั้น เขาคงไม่มีความกล้ามากขนาดนั้น
เย่จิ่งอวี้ล้างมือเสร็จก็พูดขึ้นเสียงเรียบ “ออกไปเถอะ เหลือเพียงเสี่ยวเสวียนจื่อคนเดียวก็พอ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เสี่ยวฮว๋ายจื่อค่อยๆ ถอยหลังไปสองสามก้าว สายตาแปลกๆ ของเขาก็ปรากฏขึ้น
อินชิงเสวียนใจเต้น และเห็นฝ่าเท้าของเย่จิ่งอวี้สั่นคลอนเล็กน้อย
“ฝ่าบาท!”
อินชิงเสวียนเข้าพยุงเย่จิ่งอวี้โดยไม่ทันตั้งตัว เสี่ยวฮว๋ายจื่อพลิกคว่ำอ่างน้ำอย่างรุนแรง พร้อมหยิบมีดสามง่ามออกมาจากกลางอกของเขา และแทงลงไปยังหน้าอกของเย่จิ่งอวี้
แม้อินชิงเสวียนจะเฝ้าระวัง แต่นางก็ยังคงลังเล
อย่างน้อย เย่จิ่งอวี้ก็ยังตายไม่ได้จนกว่ารากฐานของนางจะมั่นคง
ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นเย่จิ่งอวี้หรี่ตาลง และการเยาะเย้ยในดวงตาของเขาก็หายไป
ในใจรู้ทันทีว่าเขากำลังเสแสร้ง
ไม่แน่ วันนี้เขาจงใจให้หลี่เต๋อฝูออกไป
ในระหว่างที่ครุ่นคิดในใจ ก็เหยียดแขนออกในทันทีเพื่อรับมีดของเย่จิ่งอวี้
เพื่อให้เสี่ยวหนานเฟิงได้ออกไป อินชิงเสวียนยอมทุ่มสุดตัว
บางทีอาจเป็นเพราะดื่มน้ำพุวิญญาณมาโดยตลอด ความเร็วของอินชิงเสวียนจึงว่องไวมาก ถึงขั้นที่มาทีหลังแต่ถึงก่อน ความเจ็บปวดรวดร้าวมาจากแขน อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เสี่ยวเสวียนจื่อ!”
เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปปกป้องอินชิงเสวียน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เดิมทีเขาต้องการรู้ว่าเสี่ยวฮว๋ายจื่อจะมีความสามารถแค่ไหน กลับไม่คิดว่าบ่าวตัวน้อยจะรับมีดแทนตัวเอง
ด้วยความโกรธเขาจึงเตะออกไป เสี่ยวฮว๋ายจื่อร้องคร่ำครวญและถูกเตะไปอีกด้านโดยทันที
เสียงดังแกร๊งดังกังวาน มีดสามง่ามเล่มนั้นตกอยู่บนพื้น
เสี่ยวเหลียงจื่อที่อยู่ข้างๆ ตกใจเสียจนนิ่งไม่ขยับ กาน้ำชาและแก้วที่อยู่ในมือต่างก็ร่วงหล่นลงพื้น
เสี่ยวฮว๋ายจื่อกุมหน้าอกไว้และพยายามจะคลานขึ้นมา สายตาจ้องมองไปยังเย่จิ่งอวี้ด้วยความอาฆาต
“ท่านคงยืนหยัดได้อีกไม่นาน เข้าได้ใส่ยาแฝดลงในอำพันปลาวาฬแล้ว...”
เย่จิ่งอวี้ยกมุมปากของเขาขึ้น และรอยยิ้มเย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“เป็นเพียงแผนเล็กๆ น้อยๆ เจ้าคิดว่าข้ามองไม่ออกงั้นหรือ คนอย่างเจ้ากล้าวางแผนทำร้ายข้างั้นรึ!”
ลูกเตะอีกลูกลอยขึ้นไป เสี่ยวฮว๋ายจื่อถูกเตะไปที่ประตูและล้มลงอย่างแรง
เสี่ยวฮว๋ายจื่อกัดฟันด้วยความเจ็บปวด แต่ยังคงพูดอย่างชั่วร้าย “เจ้าไม่คู่ควรกับการเป็นฮ่องเต้ ฮ่องเต้ควรเป็นของท่านอ๋องของพวกข้า”
เขาสำรอกเลือดออกมาเต็มปาก และหันไปยังอินชิงเสวียน
“เสี่ยวเสวียนจื่อ เจ้ายังไม่...”
สายตาจของเย่จิ่งอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย และแววตาเย็นชาสองดวงปรากฏขึ้นในดวงตาที่แคบลงเล็กน้อยของเขา
ตัวคนก็ได้มาถึงข้างกายของเสี่ยวฮว๋ายจื่อราวกับสายฟ้าแลบ
ไม่รอให้เขาได้พูดคำต่อไป นิ้วเรียวก็บีบคอของเขาไว้แล้ว
เสียงหักดังเป๊าะดังขึ้น เสี่ยวฮว๋ายจื่อก็สิ้นลมหายใจทันที
อินชิงเสวียนปิดแขนของนาง หัวใจของนางเต้นแรงด้วยความกลัว กลัวว่าเสี่ยวฮว๋ายจื่อจะพูดอะไรออกมา เมื่อเห็นว่าเขาตายแล้ว ขาของนางก็อ่อนแรงลง และนางก็นั่งลงบนพื้นทันที
เย่จิ่งอวี้ปล่อยมือ และพูดเสียงเรียบ “ลากตัวสุนัขทาสตัวนี้ออกไปแล้ว นำร่างของมันแขวนไว้บนหอคอยเมือง ข้าจะตากมันให้แห้ง เพื่อเป็นการตักเตือนไม่ให้ทำตามตัวอย่างที่ไม่ดี”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เงามืดแวบวับออกมาจากห้องโถง หมวกที่ต่ำมากวางไว้บนศีรษะและไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้
มันคือนักวิ่งเงาที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ
เขาหิ้วตัวเสี่ยวฮว๋ายจื่ออย่างไร้ความรู้สึก และลากเขาออกไปราวกับลากตัวสุนัข
สีหน้าของเสี่ยวเหลียงจื่อหวาดกลัวอย่างมาก จนคุกเข่าลงกับพื้นและคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระหม่อม กระหม่อมไม่รู้อะไรเลย”
ในระหว่างที่พูด แพทย์หลวงก็แบกกรุยาวิ่งเข้ามา
“กระหม่อมขอคารวะฝ่าบาท”
เย่จิ่งอวี้พูดอย่างไม่อดทน “ไม่จำเป็น รีบดูแผลให้เขา”
แพทย์หลวงเฒ่ารีบมาข้างตัวอินชิงเสวียน
“กงกงน้อยได้โปรดถอดเสื้อผ้าออกก่อน”
อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ไม่ต้องถอดหรอก แค่ดึงแขนเสื้อของข้าออกก็พอแล้ว”
แพทย์หลวงเฒ่าดึงสองทีก็ดึงไม่ออก เย่จิ่งอวี้คว้าแขนเสื้อของนางและใช้นิ้วออกแรงเล็กน้อย แขนเสื้อก็ขาดครึ่งทันที แขนสีขาวโชกไปด้วยเลือดสีแดงสด ซึ่งดูน่าตกใจ
อินชิงเสวียนก็มองเห็นบาดแผลตนเองเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะก่นด่าในใจ สมกับที่เป็นมีดสามง่าม แทงนางทะลุเป็นรูใหญ่ทีเดียว
แพทย์หลวงให้เสี่ยวเหลียงจื่อยกน้ำสำอาดเข้ามา และล้างแผลให้กับอินชิงเสวียน
อินชิงเสวียนก้มหน้าสำรวจู จู่ๆ ก็มีคนเข้ามาปิดตาไว้
“อย่ามอง”
เสียงทุ้มต่ำดังออกขึ้นข้างหู และเสียงลมหายใจอุ่นๆ หายใจอย่างชัดเจนบนคอขออินชิงเสวียน
ใบหูของอินชิงเสวียนร้อนผ่าวในทันที
เมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นบนหลังของนาง อินชิงเสวียนรู้สึกเขินอายอีกครั้ง ร่างกายของนางแข็งทื่อทันที และนางไม่กล้าขยับตัว
จากนั้น ความรู้สึกแสบร้อนก็ส่งออกมาจากแขนของนาง อินชิงเสวียนอดตกใจไม่ได้ โชคดีที่ความเจ็บปวดไม่ยาวนานนัก แพทย์หลวงเฒ่าก็ห่อแผลให้นางเสร็จเรียบร้อย
“นี่คือยาจินชวงชั้นดี กงกงน้อยยังเด็กและแข็งแรงดี อีกไม่กี่วันก็จะหายดีพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงของแพทย์หลวงเฒ่าดังขึ้นตรงหน้า มือของเย่จิ่งอวี้ก็ปล่อยลง
“ออกไปเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”
แพทย์หลวงหยิบกล่องยาแล้วเดินออกไป อินชิงเสวียนรีบสวมเสื้อผ้าของนางอย่างรวดเร็ว
ค้อมตัวลงและพูดว่า “เสือผ้าของฝ่าบาทก็เปียกเช่นกัน กระหม่อมจะไปหยิบชุดใหม่ให้ฝ่าบาทเปลี่ยนพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาของเย่จิ่งอวี้กวาดไปเหนือแขนเรียวยาว คิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร ให้เสี่ยวเหลียงจื่อรับใช้ข้า เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...