ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์
ทุกคนมาถึงปากหุบเขาแล้ว
ชาวยุทธ์หลายคนที่ติดตามพวกเขาได้กลิ่นของทางสู่วิถีแห่งสวรรค์แล้ว ต่างวิ่งไปดูที่ปากหุบเขา
“หรือว่าทางสู่วิถีแห่งสวรรค์อยู่ที่นี่?”
“ที่นี่แค่มองก็รู้ว่ามีฮวงจุ้ยดี”
“ทำไมเราไม่ปรึกษากันก่อน แล้วเพิ่มเงินอีกหน่อย แทนที่จะรอถึงสามวันหลังจากนั้น”
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะพบกับโอกาสที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทุกลมหายใจแห่งการรอคอยนั้นทรมานจิตใจพวกเขามาก
“ถูกต้อง ดังคำกล่าวที่ว่า เงินสามารถทำให้ผีมาปั่นหินได้ คนที่อาศัยอยู่ในตำหนักเทพไม่ใช่เทพเจ้าจริงๆ เสียหน่อย”
หลังจากที่คนผู้นั้นพูดจบ เขาก็หันกลับมาพูดกับเหมยชิงเกออย่างเกรี้ยวกราดว่า “เจ้าตำหนักเหมย ข้าเห็นว่าท่านเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา พวกเราอย่าอ้อมค้อมกันอีกเลย เราต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ถึงจะไปดูทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ได้เดี๋ยวนี้ ท่านบอกราคามาได้เลย”
คนข้างๆ พูดคล้อยตามทันที “ถูกต้อง แค่สามวันเท่านั้น จะเร็วขึ้นหนึ่งวันหรือช้ากว่านั้นหนึ่งวันก็ต่างกันไม่มากหรอก”
“เจ้าตำหนักเหมยเสนอมาเถอะ ผู้ที่มีกำลังก็เข้าไปได้ แบบนี้ยุติธรรมมาก!”
เมื่อเห็นทุกคนอยู่ในความสับสนผลหม่าน เหมยชิงเกอก็ขมวดคิ้ว เป็นพวกฝูงชนวุ่นวายจริงๆ
“ไม่ได้”
นางขยับริมฝีปากสีแดงสดเบาๆ พูดอย่างเย็นชา “ตกลงกันแล้วว่าหลังจากนี้สามวัน ก็ต้องสามวัน จะขาดหรือเกินไปหนึ่งชั่วยาม สิบห้านาที หรือชั่วขณะหนึ่งก็ไม่ได้”
เมื่อเห็นท่วงท่าวางอำนาจของเหมยชิงเกอ เหล่าชาวยุทธ์ก็เงียบลงมาก
ชายอ้วนใบหน้าปรุประหัวเราะแห้งๆ แล้วพูดว่า “เจ้าตำหนักเหมย พวกเราล้วนเป็นชาวยุทธ์ เหตุใดต้องทำให้ถึงที่สุดขนาดนี้ด้วย”
เหมยชิงเกอเงยหน้าขึ้น เห็นลูกไฟในดวงตาลุกโชน
ขณะนี้ คนที่อยู่ข้างหลังกล่าวว่า “ไม่ต้องพูดไร้สาระกับพวกเขา ปากหุบเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว เราบุกเข้าไปพร้อมกันก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่รึ”
เฮ่อยวนโอบตัวเหมยชิงเกอโดยไม่แม้แต่จะมองพวกเขา เหล่าศิษย์และอาคันตุกะของตำหนักเทพ ไม่กล้ามองข้าม รีบเดินตามรอยเท้าของเฮ่อยวนทีละก้าว ด้วยกลัวว่าจะเดินพลาด ทำให้เสียชีวิตทันที
มีศิษย์อิ๋นเฉิงคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกของหุบเขา พวกเขาแต่งตัวเรียบง่าย แต่รัศมีของพวกเขาเหมือนดาบยาวที่อยู่นอกฝัก ให้คนรู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่อาจต้านทานได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็มาถึงหน้ากำแพงหิน
เฮ่อยวนยื่นมือออกไป แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “สิ่งที่เรียกว่าวิถีแห่งสวรรค์คือสิ่งนี้ ไม่มีค่ายกลในบริเวณใกล้เคียง ทุกคนสามารถดูรายละเอียดได้”
เหล่าอาคันตุกะอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เป็นไปได้อย่างไรที่ก้อนหินขนาดใหญ่เส็งเคร็งนี่ จะเป็นทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ที่ได้รับการกล่าวขานมา?
จากนั้นพวกเขาก็คิดว่าอาจมีโอกาสดีๆ อยู่ข้างใน ทั้งหมดทำตัวให้ฮึกเหิมขึ้น
เย่จิ่งหลานยืนอยู่ด้านหลังฝูงชน เห็นว่าพวกเขากำลังมองไปรอบๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจ
และในขณะนี้ จู่ๆ เสียงที่คล้ายกับเขามากก็ดังขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง
“เจ้าฆ่าคน คนเหล่านั้นจะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน แล้วทำไมไม่ฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลยล่ะ ถึงเวลานั้น พลังทั้งหมดของข้า ก็จะเป็นของเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...