เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนมีความกังวล เย่จิ่งหลานจึงไม่บังคับอีก ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด เขาก็ไม่สามารถยัดเยียดความคิดของตัวเองให้กับผู้อื่นได้
“งั้นก็ควบคุมพวกโง่นี้ให้ได้ก่อน”
เขายืนขึ้นกำลังจะออกไป แต่อินชิงเสวียนห้ามไว้
“เย่จิ่งหลาน เจ้าไม่ได้รับผลกระทบใช่ไหม”
เย่จิ่งหลานแค่นเสียงชิพูดว่า “ข้าเป็นใครไม่รู้รึ คิดจะควบคุมข้า ไอ้ของเส็งเคร็งนี่ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่ออีกพันปีถึงจะทำได้”
อินชิงเสวียนไม่รู้สึกถึงความอาฆาตพยาบาทในตัวเขา จึงโล่งใจ
“ความใจร้อนวู่วามคือปีศาจ การฆ่าคนก็ถือเป็นหนี้กรรมเช่นกัน พยายามควบคุมพวกเขาก็พอ”
“รู้แล้ว”
ครั้นแล้วเย่จิ่งหลานก็กระโดดเข้าสู่วงการต่อสู้อีกครั้ง
ในระยะไกล เฮ่อยวนก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
เขาเป็นคนใจดีมีเมตตา เขาไม่ได้ลงมือโหดเหี้ยมเลย แต่จะทำอย่างไรได้เพราะพวกคนเหล่านี้ที่ไล่ตามไม่เลิก ราวบ้าคลั่งไปแล้ว
“เฮ่อยวน ไม่ต้องยั้งมือ”
เมื่อเห็นลูกศิษย์ของตำหนักเทพล้มลงอย่างต่อเนื่อง เหมยชิงเกอก็โกรธจัด
ในเวลาเดียวกัน เสียงที่คล้ายกับเสียงของนางเองดังก้องอยู่ในใจ
“ดูเอาเถิด นี่เป็นความอยุติธรรมของสวรรค์ เจ้าไม่มีเจตนาจะทำร้ายผู้อื่น แต่พวกเขากลับเจตนาจะฆ่าเจ้า หลายปีมานี้เจ้ายังคิดไม่ตกอีกหรือ เจ้าบอกว่าความทุกข์ทรมานที่เจ้าได้รับ ล้วนเกิดจากพวกเขา แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะได้รับการชดเชย แต่สิ่งที่หายไปในตลอดสิบปีนี้ สามารถนำกลับคืนมาได้หรือไม่”
เหมยชิงเกอลังเล ดวงตาไหววูบด้วยความสับสน
ใช่ แม้ว่าตอนนี้นางได้สามีและลูกสาวคืนกลับแล้ว แต่ก็เข้าสู่วัยกลางคน ลูกสาวก็กำลังจะจากไป สิบกว่าปีที่สวยงามที่สุดในชีวิตได้หายไปอย่างเงียบเชียบ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่สามารถกลับคืนมาได้
“ฉะนั้น เจ้าต้องแก้แค้น ฆ่าคนพวกนี้ซะ ฆ่าพวกมัน ฆ่าพวกมัน!”
“ชิงเกอ!”
เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเหมยชิงเกอ เฮ่อยวนจึงแอบโคจรกำลังภายในบางส่วน และตบไหล่ของนาง
เหมยชิงเกอตัดสินใจทันที “จื่อฉู่ เจ้ารีบนำศิษย์ตำหนักเทพที่มีสติออกจากหุบเขาทันที ค้นหาชาวยุทธ์ที่หลบหนี ห้ามปล่อยให้พวกเขาทำร้ายชาวบ้านโดยเด็ดขาด”
ในเวลาเดียวกันเฮ่อยวนก็ออกคำสั่งให้ลูกศิษย์ของอิ๋นเฉิงเช่นกัน
ส่วนที่เหลือรวบรวมชาวยุทธ์ที่ถูกปราบไว้ในที่เดียว รอบๆ ยังมีศพเกือบร้อยศพ เมื่อนั้นทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะอาเจียน
เย่จิ่งอวี้รีบไปประคองเอวของหญิงสาวไว้
“เสวียนเอ๋อร์ รู้สึกไม่สบายใจหรือ อยากเข้าไปพักในมิติสักพักไหม”
อินชิงเสวียนพยักหน้า
“งั้นข้าไปพักก่อน หากมีเรื่องอะไร อาอวี้เรียกข้าได้ตลอดเลย”
อินชิงเสวียนทนไม่ไหวอีกต่อไป นางหายตัวเข้าไปในมิติทันที
ในเวลาเดียวกัน เหล่าชาวยุทธ์ที่บ้าคลั่งก็หลั่งไหลเข้ามาในเมือง ฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า ชั่วขณะหนึ่ง เมืองอันเงียบสงบแห่งนี้ก็กลายเป็นนรกที่น่ากลัวที่สุดในโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...