“จิ่งหลาน เจ้าเป็นอะไรไป”
เย่จิ่งอวี้อยู่ใกล้ที่สุด เขารีบเขาไปพยุงเย่จิ่งหลานทันที
“ไม่เป็นไร ข้าแค่ปวดหัวนิดหน่อย”
“ที่หว่างคิ้วหรือ”
อินชิงเสวียนพะวงเรื่องชาดแห่งบาปบนใบหน้าของเขามาก ได้ยินดังนั้นก็รีบเข้ามาถามทันที
“ไม่รู้”
เย่จิ่งหลานกดหน้าผาก รู้สึกราวกับว่าลูกธนูนับพันถูกยิงออกมาจากหัว ซึ่งความเจ็บปวดนั้นทำให้เขาหน้ามืด
อินชิงเสวียนหยิบขวดน้ำพุวิญญาณออกมาอย่างรวดเร็ว
“ลองดื่มดูสิ เผื่อจะบรรเทาได้บ้าง”
หลิวซือจวินและเฮ่อฉางเฟิงก็ตามมาดูด้วย
เย่จิ่งหลานรับน้ำขึ้นมาจิบ แต่ยังคงปวดหัวแทบระเบิด ดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงพึมพำอะไรบางอย่างอยู่ในหัว
“อ๊ากกก!”
เขากดหน้าผาก แล้วร้องโอดครวญ
เย่จิ่งอวี้เอื้อมมือไปคว้าเข็มขัดของเขา แล้วอุ้มเย่จิ่งหลานลงไปที่พื้น
“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าบอกท่านแม่ก่อนว่าเราจะตามไปทีหลัง ให้คุณชายหลิวตรวจอาการให้จิ่งหลานก่อน”
“ได้”
อินชิงเสวียนเป็นห่วงเย่จิ่งหลานอยู่แล้ว จึงขี่ม้าไล่ตามเหมยชิงเกอไปทันที
เย่จิ่งอวี้ประคองเย่จิ่งหลานไปที่โคนต้นไม้ “รบกวนคุณชายหลิวด้วย”
หลิวซือจวินหยิบเข็มเงินออกมาแล้ว แล้วฝังเข็มบนศีรษะของเย่จิ่งหลานอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำพุวิญญาณหรือการฝังเข็มที่ได้ผล ราวไ สิบห้านาที อาการปวดหัวของเย่จิ่งหลานก็ดีขึ้นในที่สุด
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหงื่อด้านหลังทำให้เสื้อผ้าเปียกโชก เมื่อลมหนาวพัดมา ก็รู้สึกเย็นยะเยือก
อินชิงเสวียนไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นจึงตอบตกลง
ทุกคนออกเดินทางอีกครั้ง และรีบรุดไปที่ตำหนักเทพ
ในเวลานี้ เจ้าสำนักเซี่ยวและพรรคพวกได้ละทิ้งม้าและออกเดินทางไปบนถนนแล้ว
เซี่ยวอิ่นหวนมองไปที่ภูเขา เห็นเพียงเกลียวหมอกที่ซัดสาด มองเห็นลักษณะได้ยาก จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ดูเหมือนจะมีเทพธิดานางฟ้าอยู่บนยอดเขาที่นี่”
เจ้าสำนักเซี่ยวเดินเร็วราวกับบิน พูดอย่างมีกำลังวังชา “ตำหนักเทพหอทองคำเป็นสำนักสันโดษ คนในสำนักไม่ค่อยลงจากภูเขา ศิษย์ภายใต้สำนักต่างก็ฝึกฝนอย่างหนัก จึงชื่นชอบความเงียบสงบแห่งขุนเขาเป็นธรรมดา”
อินสิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คนที่ฝึกฝนวรยุทธ์เพียงต้องการที่จะมีชื่อเสียง ดังนั้นการอยู่บนภูเขาจะมีประโยชน์อะไร”
ในความเห็นของเขา ผู้ฝึกยุทธ์ควรจะกล้าหาญและมีคุณธรรม เพื่อผดุงความยุติธรรม
หากพวกเขาเข้าร่วมในศึกที่เป่ยไห่ ก็คงไม่สูญเสียศิษย์ผู้บริสุทธิ์ไปมากมายขนาดนี้
เจ้าสำนักเซี่ยวยิ้มอย่างกรุณา “สิ่งที่ทุกคนปรารถนา ล้วนแตกต่างกัน ที่ตำหนักเทพหอทองคำปิดสำนัก จะต้องมีการแสวงหาที่สูงกว่า เหล่าเซี่ย เจ้าคิดอย่างไร”
นับตั้งแต่ออกจากเมือง นักพรตเทียนจีก็นิ่งเงียบ เมื่อได้ยินเจ้าสำนักเซี่ยวเรียกเขา ก็สะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “เหล่าเซี่ยวพูดถูก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...