สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1319

เย่จิ่งหลานคิดว่าตัวเองตาฝาด ฉากนั้นน่าทึ่งมากจริงๆ!

หญิงสาวผู้นั้นปิดหน้าด้วยผ้าโปร่ง สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าโปร่งสีชมพูอ่อนที่ดูเบาบางโปร่งแสง ทำให้เห็นผิวพรรณรูปร่างบางส่วน ซึ่งสร้างความรู้สึกที่น่าสนใจและเย้ายวนใจ

นางเยื้องย่างเข้าไป เดินไปหาเย่จิ่งหลาน ห่างเพียงไม่กี่ก้าว เดินไปอย่างอ่อนช้อยน่ามอง ทำให้คนอดคิดไปไกลไม่ได้

เย่จิ่งหลานขยี้ตา ผู้หญิงคนนั้นมาถึงตรงหน้าเขาแล้ว

“คุณชายน้อย ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ”

นางเอื้อมมือที่เรียวบางออกมา เกี่ยวคางของเย่จิ่งหลาน ผ้าคลุมอันอ่อนนุ่มตกใส่บนใบหน้าของเย่จิ่งหลาน ทำให้รู้สึกจั๊กจี้

เย่จิ่งหลานอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกมา ดึงผ้าคลุมออกจากใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น

เดิมคิดว่านี่เป็นใบหน้าที่มีเสน่ห์เย้ายวนมาก แต่คิดไม่ถึง ว่าจะกลายเป็นใบหน้าที่แสนบริสุทธิ์

ใบหน้ารูปไข่ได้รูป ดวงตากลมโต จมูกโด่ง ด้วยคิ้วที่โก่งนิดๆ ทำให้ดูมีบุคลิกที่สง่างามและแข็งแกร่ง

เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้เย่จิ่งหลานรู้สึกว่านางดูเหมือนอินชิงเสวียนเล็กน้อย

เขาต้องการถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แต่ริมฝีปากบางของผู้หญิงคนนั้นทาบทับลงมา เรียวมือคล้ายดอกบัวคู่หนึ่งโอบกอดคอของเย่จิ่งหลาน เรือนร่างกายอันละเอียดอ่อนก็กระหวัดรัดรอบตัวเขาอย่างอ่อนช้อย ราวกับไม่มีกระดูก

กลิ่นคล้ายดอกกล้วยไม้จากหุบเขาลึกได้ครอบครองประสาทสัมผัสทั้งหมดของเย่จิ่งหลาน ทำให้เลือดลมของเย่จิ่งหลานเดือดพล่านทันที

ในยุคปัจจุบัน เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่ชีวิตยากลำบากมาก ในสถานการณ์แบบนี้จะมีสิทธิ์หาแฟนได้อย่างไร เมื่อมาถึงต้าโจว ร่างกายก็เป็นเด็กอายุไม่กี่ขวบ ไม่แข็งแรงพอที่จะทำอะไรได้มากนัก

ต่อมาในที่สุดเขาก็เติบโตขึ้นมาในชั่วข้ามคืน แต่ส่วนหนึ่งของหัวใจของเขากลับถูกครอบครองโดยคนที่เป็นไปไม่ได้อยู่เสมอ แม้ว่าจะพบกับผู้หญิงมากมาย แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย

วันนี้ข้าได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่สวยงามเช่นนี้ในความฝัน อารมณ์และความปรารถนาทั้งหมดที่ถูกระงับมานานหลายปีก็พรั่งพรูออกมา

เขาพลิกร่างกลับมาอยู่ด้านบน ทาบทับร่างบางอ่อนช้อยราวกับน้ำให้อยู่เบื้องล่าง หน้าอกที่ร้อนระอุและร่างกายที่เย็นสบายเบียดเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องกระหึ่มรุนแรงราวกับประกายไฟ มันได้ลุกลามไปอย่างควบคุมไม่ได้...

พอตื่นมาอีกทีก็ฟ้าสางแล้ว

เย่จิ่งหลานเอื้อมมือไปคว้า แต่ไม่มีอะไรอยู่ข้างเตียง เขามองดูกางเกงของตัวเองอีกครั้ง ก็เห็นว่ายังสวมใส่อยู่ แต่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย

เมื่อมองดูคราบจางๆ เย่จิ่งหลานก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริงที่ได้ผ่านพ้นสถานะคนโสด หรือเป็นเพียงแค่ความฝันไป

เขาจับขอบเตียงและกระโดดลงไปที่พื้น ค้นหาเส้นผมหรือสิ่งของอื่นๆ บนเตียงอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม เตียงนั้นว่างเปล่าและไม่พบร่องรอยใดๆ

“ก็ไม่ได้หมายถึงอะไร แค่อยากจะทักทายท่านเฉยๆ”

เย่จิ่งหลานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย จึงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาปิดหน้า

“ไม่ดี”

หวังซุ่นหัวเราะแห้งๆ อาจเป็นเพราะนอนไม่สบายจริงๆ พอตื่นขึ้นมาถึงได้อารมณ์ไม่ดี

“ถ้างั้นบ่าวจะออกไปรอท่านอยู่ข้างนอก”

หวังซุ่นโค้งคำนับ แล้วเดินออกไปข้างนอก

เย่จิ่งหลานยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ ถามแล้วก็ไม่บอกอะไร ล้อเลียนข้าอยู่หรือไง

“กลับมานี่ก่อน”

เขาหายวับไปที่ประตู คว้าคอเสื้อของหวังซุ่น หวังซุ่นหันขวับทันที แต่ก็ต้องตกใจกับการปรากฏตัวของเย่จิ่งหลาน

ผมสีดำนั้นดูเหมือนจะกลายเป็นหมอกสีดำหนา ซึ่งดูแปลกและน่ากลัวอย่างยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์