สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1367

เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้รู้ถึงพลังความร้ายกาจของพิณการเวก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคนระวังด้วย พิณการเวกเป็นอาวุธที่ใช้โจมตีแบบกลุ่ม และมันจะเสริมกำลังให้แก่ฝ่ายตนตามความประสงค์ของผู้ดีด”

อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ

“ในเมื่อรู้แล้ว ยังไม่ยอมจำนนอีกรึ!”

นิ้วเรียวแตะที่สายพิณ และทันใดนั้นเสียงที่คมชัดก็แพร่กระจายไปทั่วอิ๋นเฉิง

เสียงพิณนั้นรวดเร็วและเร่งด่วน เสียงดนตรีจากเครื่องสายก็ดังราวกับฝนตกหนักตกลงมากระทบจานเงิน ทำให้หลายคนรู้สึกกระสับกระส่าย เลือดลมเดือดพล่าน อย่างไรก็ตามทุกคนในอิ๋นเฉิงรู้สึกสดชื่นและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

เมื่อได้ยินเสียงพิณที่คุ้นเคยอีกครั้ง ขวัญกำลังใจของเหล่าศิษย์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ก็สูงขึ้นไปอีก ทุกคนต่างตื่นเต้นฮึกเหิม มีเพียงดวงตาของเซี่ยวอิ่นหวนเท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

นางคิดถึงพ่อบุญธรรม ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ หากได้เห็นชิงเสวียนประสบความสำเร็จเช่นนี้ เขาคงจะมีความสุขมากกระมัง!

ทักษะการเล่นพิณของอินชิงเสวียนนั้นเชี่ยวชาญขึ้นนานแล้ว มีแสงสีเงินและสีม่วงพุ่งออกมาที่ปลายนิ้วของนาง ซึ่งเป็นวรยุทธ์ของอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพ พลังของทั้งความแข็งและความนุ่มนวลแทรกซึมเข้าไปในตัวพิณ ในความเร่งรีบนั้นมีความช้า และในความช้าก็เกิดความเร่งรีบขึ้น ระหว่างที่กรีดกราดนิ้ว เพลงหมื่นกระบี่เศษดาราก็มาถึงจุดสูงสุดแล้ว

แม้ว่าทายาทของแคว้นเฟยเหยาจะอาศัยกลยุทธ์แปลกๆ ทำให้มีฝีมือเหนือกว่า แต่เมื่อเสียงพิณดังขึ้น สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที เนื่องจากอินชิงเสวียนซึมซับกำลังภายในของพววกเขา จึงมีข้อผิดพลาดมากมายในการเคลื่อนไหวในทันที มีทั้งคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่ายอดฝีมือทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ ทั้งยังเป็นผลเสียต่อฝ่ายตัวเอง คนที่เป็นหัวหน้าก็ตะโกนเสียงดังทันที

“ถอย!”

เย่จิ่งอวี้แค่นเสียงอย่างเย็นชา

“จะไปไหน!”

เซี่ยวอิ่นหวนยังตะโกนว่า “พวกหนูชั้นต่ำ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เช่นนั้นจงทิ้งชีวิตไว้นี่ซะ”

ทุกคนจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เหาะขึ้น และหยุดทุกคนที่อยู่หน้าป่าหมอก

ในขณะนี้ จู่ๆ ร่างหนึ่งคล้ายเงาหมอกก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ทันใดนั้นเสียงกระซิบของปีศาจก็ดังขึ้นในหูของทุกคน มันคล้ายกับเสียงพิณของอินชิงเสวียน ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ

ในเวลาเดียวกันก็มีฝ่ามือหนึ่งประทับเข้ามา พลังแปลกๆ กลุ่มหนึ่งก็กระทบกับเงาดำอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า

เมื่อเห็นเคล็ดวิชาหัตถ์ของเขา เงาก็สะดุ้งเล็กน้อย

โบกมือทั้งสองข้างในอากาศ กระบี่คมทั้งสองก็ดูเหมือนจะมีดวงตา มันหันไปโจมตีเย่จิ่งอวี้และเย่จิ่งหลานอีกครั้ง

อินชิงเสวียนนั่งอยู่บนพื้น แต่สายตาก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์การต่อสู้ระหว่างพี่น้องทั้งสองคน เมื่อเห็นฝ่ามือของเย่จิ่งอวี้วาดเป็นรูปครึ่งวงกลม และผลักกระบี่เงาออกไปได้ นางก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อตก

แต่มีเสียงดังเปรี้ยง กระบี่เงาเหมือนจะกระแทกเข้ากับบางสิ่งอย่างแรง และแตกออกเป็นหลายชิ้น

เย่จิ่งอวี้ยังคงตัดกำลังต่อไป พลังแห่งฟ้าดินยังคงวนเวียนอยู่ระหว่างฝ่ามือ ไม่มีความโหดเหี้ยมหรือความคม ทว่าปราณอันนุ่มนวลนี้ กลับทำให้เงาสีดำกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว ไม่กล้าปะทะโดยตรง

เสียงที่ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าชายหรือหญิง ได้ดังขึ้นในความว่างเปล่า

“เว้นแต่ทุกคนในราชวงศ์ต้าโจวจะมีวรยุทธ์แบบเจ้า ไม่เช่นนั้น ทั้งแคว้นจะถูกทำลายภายในระยะเวลาอันสั้น!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์