ณ เทือกเขาเชื่อมเมฆา
ทหารม้าจำนวนมากมุ่งหน้ามาที่นี่
ชิงฮุยอยู่ข้างๆ นักพรตเทียนชิง กำลังมองดูดวงดาวบนท้องฟ้า
นักนักพรตเทียนชิงลูบเคราแล้วพูดว่า “ดวงดาวเคลื่อนย้าย อันเป็นสัญญาณของความสับสนวุ่นวายครั้งใหญ่ในโลก เกรงว่าภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้น ชิงฮุย เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ชิงฮุยละสายตาที่จ้องมองไปยังท้องฟ้า ดวงตาทั้งคู่นั้นชัดเจนและสงบราวกับธารน้ำใสที่ส่องประกายเข้าไปในหัวใจคน
เขาโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ศิษย์คิดว่า สถานการณ์ของโลกมักเป็นเช่นนี้เสมอ เมื่อแยกกันมานานแล้วก็จะต้องรวมกัน และถ้ารวมกันเป็นเวลานานก็ต้องแตกแยก เช่นเดียวกับสุริยันจันทราเปลี่ยนผัน ขึ้นทิศบูรพาตกทิศประจิม เฉกเช่นอำนาจแห่งราชวงศ์ ผู้คนมักพูดว่าความมั่งคั่งจะอยู่ได้ไม่เกินสามชั่วอายุคน เกรงว่าจะเป็นหลักการเช่นนี้”
นักพรตเทียนชิงพยักหน้า
“ที่เจ้ากล่าวมานั้นก็ถูกต้อง แต่ถ้าเกิดสงคราม ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานคือราษฎร”
ชิงฮุยถอนหายใจเบาๆ และพูดอย่างรู้สึกเห็นใจ “เจ็บปวดนานมิสู้เจ็บปวดระยะสั้น ความเจ็บปวดชั่วคราว แลกกับความสงบสุขชั่วนิรันดร์ได้ ก็คุ้มค่าแล้ว”
นักพรตเทียนชิงยิ้มและพูดว่า “ผู้ใดเล่าจะรับประกันได้ว่า ราษฎรจะสงบสุขตลอดไป นั่นเป็นเพียงความคิดที่สวยงามเท่านั้น แต่...ฮ่องเต้น้อยแห่งราชวงศ์โจวนั้นดูไม่เลวเลย”
ชิงฮุยเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “คิดว่าอาจารย์ได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรในอนาคตแล้ว”
นักพรตเทียนชิงมองดูท้องฟ้าแล้วพูดว่า “อาจารย์เพียงแต่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของสวรรค์เท่านั้น ดาวจักรพรรดิยังโชติช่วง อันหมายความว่าพลังของต้าโจวยังไม่หมดสิ้นและมีดาวมงคลคุ้มครอง ดาวมั่งคั่งและดาวเมตตาโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับดาวจักรพรรดิ เป็นที่ที่ของชั้นสูงทั้งปวงมารวมตัวกัน เจอลางร้ายจะเปลี่ยนเป็นดี นับว่าหายากนัก”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ชิงฮุยพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นถอยกลับไปข้างหลังนักพรตเทียนชิง
ใบหน้าของเขาสงบ ไม่มีความสุขหรือเศร้า รัศมีรอบตัวก็สุขสงบร่มเย็น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่า นักพรตน้อยผู้นี้จะมีความเกี่ยวข้องกับกากเดนของแคว้นเฟยเหยา
แม้แต่ศิลาตอบสวรรค์ก็ไม่สามารถตรวจจับตัวตนของเขาได้ นับประสาอะไรกับนักพรตเทียนชิง
มุมปากของชิงฮุยโค้งเล็กน้อย และก็กลับมามีท่าทางสงบดังเช่นเดิม
“อาจารย์หมายความว่า เขาอาจจะมาจากดินแดนภายนอก?”
หลังจากอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์มาหลายปี ชิงฮุยได้ศึกษาตำราแปลกๆ มากมาย รวมถึงการบำเพ็ญฌานตบะ ยังมีผู้ทรงพลังที่สามารถทะลวงผ่านความว่างเปล่า และก้าวเข้าสู่ดินแดนอื่นได้
นักพรตเทียนชิงครุ่นคิดและไม่พูดอะไรอีก
เจ็ดวันต่อมา สำนักกระบี่สังหารกับสำนักเทียนหยวน และสำนักที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ล้วนมาถึงเทือกเขาเชื่อมเมฆาแล้ว
เฮ่อยวนเชื้อเชิญทุกคนให้เข้ามาในอิ๋นเฉิง และทุกคนรวมทั้งแขกและเจ้าบ้าน ต่างมีความสุขสนุกสนานอย่างเต็มที่
เมื่อเห็นผู้อาวุโสหลายคนนั่งดื่มด้วยกันอย่างผ่าเผย อินชิงเสวียนก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างไรบอกไม่ถูก
ช่วงนี้เงียบมาก ไม่มีใครมายั่วยุ และไม่มีใครเห็นลั่วสุ่ยชิงอีกเลย
พวกเขากลัว หรือว่าเป็นความสงบก่อนเกิดพายุกันแน่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...