ชิงฮุยถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าที่หล่อเหลาเคร่งขรึมขึ้น เย่จิ่งหลานก็รวดเร็วเช่นกัน มาถึงข้างกายเขาได้ภายในพริบตา ดวงอันแสนเย็นชาคู่นั้น จ้องมองนักพรตเทียนชิงอย่างไม่เป็นมิตร
นักพรตเทียนชิงเหยียบอากาศที่ว่างเปล่า แล้วเทศนา “ขอสุขสถาพรสถิตชั่วนิรันดร์! สู่ความว่างเปล่าสุดขั้ว รักษาความสงบให้อยู่ตัว เมื่อไม่ต่อสู้ ก็ไม่มีใครในโลกที่จะสู้ได้ รู้จักพอไม่เสื่อม ย่อมอยู่ยั้งยืนนานเอย ชิงฮุย เจ้าบำเพ็ญหลักปรัชญาเต๋านานหลายปี ควรเข้าใจหลักความจริงนี้”
ชิงฮุยพูดเบาๆ “ไม่แย่งชิงแต่บรรลุอิสรภาพ เป็นแค่เพียงสิ่งลวงตา อาจารย์ไม่เคยยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของพลังอำนาจ ย่อมไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างความเป็นจริงและความเพ้อฝัน ส่วนการรู้จักหยุดไม่เสื่อม นั่นเป็นเพียงความคิดของมนุษย์โลก เป็นพวกท่านที่คิดว่าข้าเดินทางผิด แต่ข้ายังเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าเส้นทางนี้ถูกต้อง เพราะครั้งหนึ่งข้าเคยยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของดินแดนนี้ มองดูภูเขา แม่น้ำ ทุกแห่งที่ข้ามองคือดินแดนของราชาแห่งข้า ในเมื่อคนต้าโจวเจ้าสามารถฆ่าคนเฟยเหยาได้ ทำไมเฟยเหยาถึงไม่สามารถเอาคืนได้!”
น้ำเสียงของชิงฮุยไม่ดัง น้ำเสียงไม่ได้ดูเร่าร้อนหรือโกรธเคือง ในทางกลับกัน เขาสงบมาก ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยอมรับได้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้เขาน่ากลัว
จากสายตาและท่าทางอันละเอียดอ่อนของเขานั้น ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร เช่นเดียวกับคำพูดธรรมดาๆ เหล่านี้ มันก็ยากพอกันที่จะตัดสินว่าเป็นจริงหรือเท็จ
ในอดีต นักพรตเทียนชิงคิดเพียงว่าชิงฮุยประพฤติตนดีและซื่อสัตย์ มีนิสัยที่มั่นคง ไม่เคยพูดมาก ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นเลย น้อยมากที่จะแสดงความเห็นของตนเอง คนทั้งคนเป็นเหมือนกระแสน้ำที่ไหลเอื่อยๆ สงบนิ่งไม่วุ่นวาย นิสัยเช่นนี้หาได้ยากจริงๆ
จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งได้ตระหนักว่าชิงฮุยน่ากลัวจริงๆ คนแบบนี้น่ากลัวยิ่งกว่าคนที่เปิดเผยความคิดออกมาโต้งๆ หากเขาสามารถใช้ความคิดเช่นนี้ในการบำเพ็ญเพียรในวิถีแห่งเต๋า ก็จะบรรลุผลในเชิงบวก
น่าเสียดาย!
“บางทีสิ่งที่เจ้าพูดอาจจะไม่ผิด แต่การฆ่าไม่ใช่วิธีเดียว หากเจ้ายอมปล่อยวาง อาจารย์ก็ยินดีจะแก้ปัญหาร่วมกับเจ้า”
เมื่อเผชิญหน้ากับศิษย์น้อยของตน นักพรตเทียนชิงยังคงต้องการช่วยเขา
ชิงฮุยโค้งคำนับเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมถ่อมตน
“ไม่จำเป็น ความคิดเห็นไม่ตรงกันไม่สามารถร่วมทางกันได้ ความเป็นศิษย์อาจารย์ระหว่างท่านกับข้าขอให้ยุติแต่เพียงเท่านี้!”
“เจ้าเป็นคนดื้อรั้นถึงเพียงนี้เชียวหรือ”
นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ยกมือขวาขึ้นช้าๆ
“คุณชายน้อยเย่ ล่วงเกินแล้ว!”
นักพรตเทียนชิงเคลื่อนไหลหลอก และจี้ไปที่กึ่งกลางคิ้วของเขา
นี่คือที่ที่จิตสำนึกทางจิตวิญญาณของผู้ฝึกฌานตบะ ตอนนี้เมื่อเย่จิ่งหลานถูกควบคุมแล้ว วิธีเดียวที่จะพาเขาออกไปคือตัดพลังที่ชิงฮุยบ่มเพาะไว้ก่อนชั่วคราว แล้วจึงจะสามารถพาเขาออกไปได้
วรยุทธ์ของเย่จิ่งหลานนั้นสูงกว่าเมื่อก่อนมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมืออย่างนักพรตเทียนชิง ก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรด้วย
การเคลื่อนไหวหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บแสบที่คิ้ว คนทั้งคนเซถลาอย่างไม่อาจคุมได้
ชิงฮุยที่อยู่ไกลออกไปเหมือนจะรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่าง มีรอยยิ้มแปลกๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก
ถึงสุนัขจิ้งจอกจะเจนสนามก็ยังมีช่วงเวลาที่ถูกหลอก ในไม่ช้าเย่จิ่งหลานก็จะกลายเป็นแบบที่เขาต้องการ ถึงวาระนั้น เย่จิ่งหลานจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...