สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1448

เย่จิ่งอวี้รู้สึกสับสน

“นี่หมายความว่าอะไร หรือว่าจิ่งหลานกลับเมืองหลวงแล้ว?”

อินชิงเสวียนนึกได้พลัน หรือว่า...

นักพรตเทียนชิงสั่นศีรษะ

“ถ้าเป็นเมืองหลวง ก็จะปรากฏทิศทางเดินชัด แต่ตอนนี้ไม่มีเลย เขา...อาจจะไม่อยู่ในผืนแผ่นดินของโลกนี้”

เย่จิ่งอวี้ดูประหลาดใจ

“แล้วเขาจะไปไหนล่ะ? หรือว่า เขาตายแล้ว?”

นักพรตเทียนชิงกล่าวอย่างแน่วแน่ “ยังไม่ตาย แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ ดังนั้นอาตมภาพจึงไม่กล้าพูดพูดแน่ชัด พวกเจ้าก็ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เวลานี้ อาตมภาพจะลองทำนายอีกครั้ง บางทีอาจจะทราบอะไรเพิ่มเติม”

“ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนท่านนักพรตแล้ว”

เย่จิ่งอวี้โค้งคำนับและออกจากเรือนเล็ก เมื่อเห็นใบหน้าของอินชิงเสวียนที่ดูครุ่นคิด จึงหลุบตาลงแล้วถามว่า “เสวียนเอ๋อร์ คิดอะไรอยู่หรือ”

“ข้าสงสัยว่า เขากลับไปที่เดิมแล้วหรือเปล่า”

“หืม?”

อินชิงเสวียนดึงเย่จิ่งอวี้ไปที่ลำธารข้างๆ แล้วถอนหายใจ

“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าปิดบังอาอวี้ไว้ตลอด ที่จริงแล้ว...จิ่งหลานและข้ามาจากที่เดียวกัน”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่จิ่งอวี้ก็ตกใจ

สักพักเขาก็สงบลงอีกครั้ง

วันนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในเมืองหลวง ได้รับการช่วยเหลือจากเย่จิ่งหลาน จอมพลเฒ่ากวนได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นเย่จิ่งหลานที่ลงมือช่วยเหลือ เด็กอายุไม่กี่ขวบ ต่อให้ศึกษาตำราแพทย์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ก็อาจไม่มีความรู้ความสามารถขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เย่จิ่งหลานที่อยู่ในวังหลังยังไม่เคยคลุกคลีใกล้ชิดกับใคร แล้วจะมีวิชแพทย์ที่น่าตกตะลึงถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?

เมื่อเทียบกับคำว่าผู้อัจฉริยะแล้ว เขาเต็มใจที่จะเชื่อคำพูดของอินชิงเสวียนมากกว่า

“จริงๆ แล้วอาชีพเดิมของเขาคือการเป็นหมอ ไม่ได้อายุไม่กี่ขวบเหมือนที่ท่านคิด อายุที่แท้จริงของเขา อายุมากกว่าท่านหลายปี ที่ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยบอกท่าน ก็เพราะมันน่าตกใจเกินไป และข้าก็ยังกลัวว่าอาอวี้จะเสียใจ ในบรรดาคนทั้งหมด อาอวี้มีเขาเป็นน้องชายคนเดียว”

เย่จิ่งอวี้เงียบไปนาน จากนั้นก็ยิ้มด้วยความโล่งใจ

แล้วอินชิงเสวียนก็เล่าเรื่องที่ตัวเองคืนจิตวิญญาณกลับสู่ยุคปัจจุบัน และเรื่องที่เจอกับเจ้าของร่างเดิมให้เย่จิ่งอวี้ทราบ เย่จิ่งอวี้ก็ประหลาดใจอีกครั้ง

“เป็นแบบนี้ได้ด้วยงั้นรึ”

“ลึกลับจริงๆ แต่ก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ ถ้าก่อนหน้านี้ข้ามีทางที่จะกลับไปสู่ยุคปัจจุบัน ข้าคงไม่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อหนีออกจากวังเช่นนี้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่จิ่งอวี้ก็รีบรั้งร่างอันอ่อนนุ่มของนางมาไว้ในอ้อมแขนทันที

“ตอนนี้ เจ้ายังอยากหนีอยู่หรือเปล่า”

อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา

“ข้าถูกผูกมัดไว้ด้วยเลือดของท่านแล้ว จะหนีไปไหนได้”

ทันทีที่พูดจบ ก็เห็นศิษย์คนหนึ่งที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดเดินมาแต่ไกล

ตะโกนเสียงดัง “ท่านอาจารย์ สำนักดาบเดือดมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนัก สำนักถูกไฟไหม้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์