วันต่อมา
ในตอนเช้า อินชิงเสวียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ดวงตา
เสี่ยวหนานเฟิงกำลังเล่นกับอวิ๋นฉ่ายในเปล บางครั้งก็หัวเราะออกมา
อินชิงเสวียนนั่งข้างเตียงเป็นเวลานาน ยังคงรู้สึกเวียนศีรษะอยู่บ้าง
เมื่อวานคิดถึงเรื่องของอินสิงอวิ๋นทั้งคืน พอฟ้าสางถึงหลับได้บ้าง และตอนนี้ข้ารู้สึกว่าในสมองเต็มไปด้วยเรื่องยุ่งเหยิง ราวกับว่าเต็มไปด้วยก้อนแป้งเหนียวหนืด
อินชิงเสวียนนวดคลึงขมับ แล้วเข้าไปในมิติ
หลังจากอาบน้ำในน้ำพุวิญญาณ นางก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก
ตอนออกมานางก็แวะดูคะแนนสะสมแวบหนึ่ง ช่วงนี้นางรีบเก็บเกี่ยวผลผลิต รีบเพาะปลูก จึงไม่ได้ตั้งใจดูให้ดี ตอนนี้พอมาดูดีๆ จึงได้เห็นว่ามีคะแนนสะสมมากว่าสองพันคะแนน
เมื่อนึกถึงปืนพกที่มีมูลค่า 100,000 คะแนน อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจ ในปัจจุบันการสะสม 100,000 คะแนนนี้ไม่รู้ว่าต้องสะสมไปถึงปีไหน มิหนำซ้ำมิตินี้ยังต้องรอการพัฒนาอีกมา ระยะนี้ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย อินชิงเสวียนยังไม่มีเวลาศึกษาอย่างรอบคอบเลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมาโดยเร็ว!
เพียงแต่จะช่วยเหลือได้อย่างไร
ครั้นคิดถึงคำพูดของเย่จิ่งอวี้เมื่อคืนนี้ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปไกล
เขาได้สงสัยแล้วว่านักฆ่ารู้จักกับนาง ถ้าขืนไปทั่งๆ แบบนี้ จะมิเป็นการยืนยันหหรือว่าตัวเองรู้จักกับนักฆ่าจริงๆ
อินสิงอวิ๋นแอบหลบหนีจากเมืองซุ่ยหานโดยพลการ ซึ่งเป็นโทษร้ายแรงอยู่แล้ว หากมีเรื่องเข้ามาลอบสังหารในวังอีก จะต้องมีโทษซ้ำโทษซ้อนแน่นอน!
จะหุนหันพลันแล่นไม่ได้
ถ้าไม่ไป อินสิงอวิ๋นอาจยังมีทางรอด
ถ้านางไป ตัวตนของอินสิงอวิ๋นจะปกปิดไม่ได้อีก เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
อินชิงเสวียนหยิบป้ายทองประจำพระองค์ออกมา และวางกลับที่เดิมเงียบๆ
แล้วยายหลี่ก็เข้ามาแต่งตัวให้นาง เมื่อเห็นอินชิงเสวียนขมวดคิ้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พระสนม ท่านเป็นอะไรหรือเพคะ”
อินชิงเสวียนพูดเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร”
ยายหลี่รวบผมขึ้นแล้วพูดเบาๆ “ถ้าไม้เป็นไรก็อย่าขมวดคิ้วสิเพคะ ยามที่พระสนมยิ้มถึงจะงดงามที่สุด”
นางอยากจะยิ้มเหมือนกัน แต่ตอนนี้นางยิ้มไม่ออกจริงๆ
อินชิงเสวียนกระซิบ “ข้าได้ยินมาว่ามีนักฆ่ามาเมื่อวานนี้ ถูกจองจำอยู่ในคุก ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”
เสี่ยวอานจื่อดูประหลาดใจ
“พระสนม...ท่านถามถึงเรื่องนักฆ่าทำไมกัน”
อินชิงเสวียนแสร้งทำเป็นเดือดดาลทันที
“ข้าอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงอยากลอบสังหารข้า”
ครั้นแล้วเสี่ยวอานจื่อก็นึกขึ้นได้ทันที ว่าเมื่อคืนนี้เขาได้ยินเสียงฝีเท้าจริงๆ
เพียงแต่ตอนนั้นเขาง่วงนอนมาก ไม่ด้ายินเสียงเรียกจากนายจึงไม่ได้ลุกขึ้นมา
ตอนนี้ได้รู้เรื่องแล้ว โทสะพลันพลุ่งพล่านทันที
“เสี่ยวเสวียนจื่อเจ้าไม่ต้องห่วง ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะช่วยเจ้าสืบให้ได้ ว่าคนผู้นี้เป็นใครกันแน่”
จากนั้นเขาก็ปิดปากด้วยความหวาดกลัว “พระสนมโปรดระงับโทสะ กระหม่อมพูดผิดไปแล้ว”
อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวเสวียนจื่อเรียกเช่นนี้ก็ดูสนิทสนมดี ข้าชอบมาก ไปเถอะ แต่เจ้าต้องจำไว้ อย่าถามให้ดูจงใจมากเกินไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...