สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 261

“แน่นอน”

อินชิงเสวียนพูดอย่างเรียบง่ายและชัดเจน

อินสิงอวิ๋นมองดูนางอยู่นาน แล้วจึงพูดเรียบๆ “จดหมายฉบับนั้น เป็นของข้าจริงๆ”

อินชิงเสวียนตัวสั่นไปทั้งร่าง มองไปยังอินสิงอวิ๋นอย่างไม่อยากเชื่อ

ผู้ที่ใส่ร้ายตระกูลอิน คือเขา!

“ท่าน...ท่านไปติดต่อกับราชวงศ์เจียงวูได้อย่างไร ท่านทำเช่นนี้ ไม่รู้สึกผิดต่อท่านพ่อบ้างหรือ”

นางรู้สึกมาโดยตลอดว่าเย่จิ่งเย่ากำลังใส่ร้ายตระกูลอิน แต่นางไม่คิดว่าอินสิงอวิ๋นจะยอมรับอย่างง่ายดาย

เมื่อคิดถึงอินจ้งที่ทุ่มเทให้กับบ้านเมือง มีความภักดีเต็มหัวใจ และพี่รองอินปู้อวี่ที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ นี่เป็นความรู้สึกของการถูกทรยศ โดยคนที่ใกล้ชิดกับนางมากที่สุด

อินสิงอวิ๋นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดช้าๆ “ไม่ใช่ข้าที่ติดต่อกับราชวงศ์เจียงวู แต่ราชวงศ์เจียงวูกับข้าได้ติดต่อกันมาโดยตลอด”

ดวงตาคู่งามของอินชิงเสวียนเบิกกว้างด้วยความตกใจ “ท่านหมายความว่าอย่างไร”

อินสิงอวิ๋นโน้มตัวมาทันที พูดด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคน “เพราะว่า ข้าไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเจ้า”

“หะ!”

อินชิงเสวียนตกตะลึง

“ท่านเป็นใครกันแน่”

อินสิงอวิ๋นหัวเราะเบาๆ

“บางครั้งการรู้มากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี “

อินชิงเสวียนกัดฟันกรามอย่างอดไม่ได้

“ถึงแม้ท่านจะปล่อยให้ข้าตาย ก็ต้องบอกให้ข้าได้รู้เรื่องด้วย”

อินสิงอวิ๋นมองนางนิ่งๆ

“ข้าจะตัดใจมองดูเจ้าตายได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าอยากรู้ถึงเพียงนี้ ก็ใช้หัวอันชาญฉลาดของเจ้าเดาเอาเอง”

อินชิงเสวียนมองดูเขา หัวสมองแล่นอย่างรวดเร็ว

“ท่านไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของท่านพ่อ? แท้จริงแล้วท่านเป็นคนเจียงวู?”

อินสิงอวิ๋นส่ายศีรษะ ทว่านัยน์ตากลับฉายแววชื่นชม

“ไม่ใช่ แต่ก็ใกล้เคียงแล้ว”

“งั้นท่าน...”

อินสิงอวิ๋นมองไปที่นาง และถามแทนที่จะตอบว่า “รู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงอดทนขนาดนี้”

อินชิงเสวียนถลึงตามองเขาอย่างเย็นชา จิตใจก็ค่อยๆ กลับมาสงบลง

ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร วันนี้นางก็จะถามจนรู้ให้ได้

“ทำไม”

อินสิงอวิ๋นมองนาง แล้วพูดอย่างเสน่หา “เพราะเจ้า ข้าชอบเจ้า ดังนั้น ข้าจึงรอมาเนิ่นนานขนาดนี้!”

ด้านนอกประตูมีเสียงของตกแตก

สีหน้าของอินสิงอวิ๋นเปลี่ยนไป เขาไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว

สวีจือย่วนกำลังนั่งเก็บเศษกาน้ำชาที่ตกแตก

ใบหน้าของอินสิงอวิ๋นเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“เจ้าออกไปแล้วไม่ใช่หรือ”

สวีจือย่วนพูดด้วยความตื่นตระหนก “ข้า...ข้าอยากจะเอาน้ำชามาให้”

อินสิงอวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ไม่จำเป็น ออกไป”

“ข้า...ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

สวีจือย่วนจากไปอย่างรวดเร็ว แต่น้ำตาในดวงตากลับพรั่งพรูอย่างไม่สามารถควบคุมได้

มิน่าก่อนหน้านี้ฟางรั่วถึงได้พูดแบบนั้น อินสิงอวิ๋นชอบอินชิงเสวียนจริงๆ!

เขาจะชอบน้องสาวแท้ๆ ได้อย่างไร

หัวใจของสวีจือย่วนสับสนไปหมด

อินสิงอวิ๋นเหลือบมองนางอย่างเย็นชาแล้วกลับไปที่ห้อง

อินสิงอวิ๋นหัวเราะแล้วพูดว่า “น้องข้ารู้สถานการณ์เช่นนี้ก็ดีที่สุดแล้ว พี่ชายอย่างข้าจะอยู่กับเจ้าหลายๆ วันเอง”

อินชิงเสวียนพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อท่านไม่ใช่พี่ใหญ่ของข้า ไม่ต้องเรียกกันเป็นพี่เป็นน้องอีกแล้ว ไม่คิดว่ามันชวนคลื่นไส้หรอกหรือ”

ชายมีหนวดเคราตะโกนทันที “บังอาจ! กล้าดีอย่างไรมาพูดกับนายท่านเช่นนี้”

อินสิงอวิ๋นกลับไม่โกรธ เขาโบกมือให้ชายคนนั้นถอยออกไป

“งั้นข้าก็เรียกเจ้าว่าเสวียน‍เอ๋อร์ก็แล้วกัน”

อินชิงเสวียนจ้องมองเขาอย่างดุเดือด

“นั่นไม่จำเป็น”

อินสิงอวิ๋นเดินไปที่เตียง ก้มหน้ามองนางเป็นเวลานาน ก่อนจะพูดว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเจ้าไม่มีนิสัยเช่นนี้”

“ท่านก็ไม่ใช่อินสิงอวิ๋นคนเดิม เราต่างก็เสมอกันแล้ว”

“กล่าวเช่นนี้ก็ถูก”

อินสิงอวิ๋นดูเหมือนจะอารมณ์ดี

เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเล่นละครตบตา ข้าคงไม่ให้เจ้าเข้าวัง และกลายเป็นการดูถูกฮ่องเต้ชั่วของพวกเจ้าแทน แต่ก็ไม่สำคัญหรอก เจียงวูเราไม่สนใจเรื่องพวกนั้น เมื่อกลับไปแล้วข้าจะแต่งงานกับเจ้า แม้ว่าเจ้าจะเสียพรหมจรรย์ไป ข้าก็ยังจะให้เจ้าเป็นภรรยาเอกของข้า”

อินชิงเสวียนพูดด้วยความโกรธ “ท่านฝันไปเถอะ ท่านเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงต้องปลอมตัวเป็นอาโฉ่ว แฝงตัวอยู่ในจวนเสนาบดี”

อินสิงอวิ๋นพูดกลบเกลื่อน “ข้าต้องการตรวจสอบบางเรื่อง เมื่อวานก็กระจ่างแล้ว ยามนี้ต้าโจวไร้ซึ่งแม่ทัพที่ดี ด่านถงกู่กำลังจะถูกทำลาย เมื่อใดที่ฮ่องเต้น้อยคลายการป้องกัน ข้าจะส่งเจ้าออกจากเมือง และหลังจากข้าทำงานเสร็จแล้ว ข้าจะกลับไปที่เจียงวูเพื่อแต่งงานกับเจ้า”

อินชิงเสวียนมองเขาอย่างเย็นชา และหลังจากนั้นไม่นานก็พูดว่า “ถึงอย่างไรข้าก็อยู่ในกำมือของท่านแล้ว ถ้าท่านต้องการพาข้าไป ท่านต้องบอกให้ข้าเข้าใจ ในเมื่อท่านไม่ใช่อินสิงอวิ๋น แล้วอินสิงอวิ๋นอยู่ที่ไหน”

ในระหว่างการเดินทางมา นางก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้เข้าใจแล้ว

มารดาผู้ให้กำเนิดของเจ้าของร่างเดิมรักอินจ้งสุดหัวใจ ไม่มีทางนอกใจไปมีลูกกับคนอื่นแน่นอน ดังนั้นจึงมีเพียงข้อสงสัยเดียว นั่นก็คือคนผู้นี้ปลอมตัวเป็นอินสิงอวิ๋น และแทรกซึมเข้ามาในตระกูลอิน

อินสิงอวิ๋นครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “บอกเจ้าก็ไม่เป็นไร พี่ใหญ่ของเจ้ากำลังเพลิดเพลินกับความสุขฉันสามีภรรยาที่เจียงวู ที่น้องสาวของข้ารักเขา ก็เป็นความโชคดีของเขาแล้ว”

อินชิงเสวียนตกใจอีกครั้ง

“นี่...เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

อินสิงอวิ๋นก้มศีรษะลง ยิ้มบางๆ ที่ข้างหูของนาง และพูดด้วยความอ่อนโยน “วันนี้ข้าพูดพอแล้ว เสวียน‍เอ๋อร์คนดีของข้า พวกเรายังมีเวลาอีกมาก”