ณ ต้าโจว
ห้องหนังสือ
ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว โคมวังหลวงถูกจุดให้สว่างอยู่กลางเรือน
เย่จิ่งอวี้ถอดเสื้อคลุมมังกรออก ในมือพู่กันหางจิ้งจอก กำลังตรวจอ่านฎีกาอยู่
เขาสวมเสื้อคลุมผ้าสีฟ้าซึ่งทำให้เขาดูหล่อเหล่า ให้กลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา ศีรษะปักครอบด้วยปิ่นหยก ซึ่งดูสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย และเรียบง่าย
เขามองดูม้วนไม้ไผ่ ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่งขึงและเคร่งขรึม
บางครั้งก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด บางครั้งก็ตวัดพู่กันขีดเขียนลงไป
ในเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าเบามากดังมาจากด้านนอก
เย่จิ่งอวี้ยื่นนิ้วกลางเรียวยาวออกมาแล้วเคาะโต๊ะสามครั้ง
องครักษ์เงาเดินเข้าประตูมา ในมือถือถุงห่อระเบิดขนาดเท่าฝ่ามือ
เขาถือถุงห่อระเบิดไว้เหนือศีรษะด้วยความเคารพ คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วพูดว่า “โชคดีที่กระหม่อมปฏิบัติภารกิจลุล่วง สกัดกั้นถุงห่อระเบิดกลับคืนมาได้แล้ว”
เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกไปรับ ยกมุมปากบางขึ้นเล็กน้อย
“ดีมาก”
แม้จะต้องใช้เวลาในการศึกษาและผลิตขึ้น แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถตกไปอยู่ในมือของศัตรูได้
ไม่ว่าจะเป็นของสิ่งใดก็ต้องระวังไม่ให้มีการศึกษาอย่างถี่ถ้วน หากพวกเขารู้วิธีทำสิ่งนี้ ผลที่ตามมาจะทำให้เกิดหายนะอย่างคาดไม่ถึง
หลังจากที่ฉินไห่ฉิวรายงานว่าถุงห่อระเบิดหายไป เย่จิ่งอวี้ก็ส่งทหารไปสกัดกั้น
แล้วคนผู้นั้นก็พูดต่อว่า “กระหม่อมยังได้รับข่าวอีกเรื่องหนึ่ง หมายเลขหกและคนอื่นๆ ได้ไปรับตัวแม่ทัพอินแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจากเมืองหลวงสิบลี้ แต่ก็เป็นไปตามที่ฝ่าบาทคาดไว้ มีคนคอยดักซุ่มโจมตีพวกเขา”
เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แกะสลักมังกรทองทันที ถามทันควัน “แม่ทัพอินทั้งครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่”
องครักษ์เงาโค้งคำนับและกล่าวว่า “ทั้งแม่ทัพเฒ่าและคุณชายรองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พวกเขาได้รับการรักษาแล้ว ไม่มีอะไรร้ายแรง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่จิ่งอวี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีจริงๆ!
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับอินจ้ง เสวียนเอ๋อร์จะยิ่งโกรธเขามากขึ้นไปอีก
ห้าวันผ่านไปในชั่วพริบตา หลายวันที่ผ่านมานี้เขาไม่ได้ไปเจออินชิงเสวียนเลย เพราะกลัวว่านางจะไม่ไว้หน้าเขา
ในฐานะกษัตริย์ผู้ครองแคว้น เขาก็มีความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเขา ตอนนี้เขาเพียงหวังว่าอินจ้งจะกลับมาโดยเร็ว เพื่อให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน
เมื่อรู้ว่าพวกเขาอยู่ห่างจากเมืองออกไปสิบลี้ ใช้เวลาเดินทางเพียงสามสิบนาทีก็ถึงแล้ว เรียวตาหงส์ของเย่จิ่งอวี้พลันฉายแววยินดี
“เจ้าไปรอที่ประตูเมือง ถ้าแม่ทัพอินเข้าเมือง ให้ส่งครอบครัวของพวกเขาไปที่จวนที่ข้าประทานให้เสี่ยวเสวียนจื่อ...ไม่สิ เป็นจวนที่ข้าประทานให้เหยาเฟย ปล่อยให้พวกเขาพักผ่อนก่อนสักครู่ แล้วค่อยมาหาข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้”
“ไปเร็ว”
หลังจากที่องครักษ์เงาออกไปแล้ว เย่จิ่งอวี้ก็นั่งลงบนเก้าอี้มังกร
หยิบฎีกาม้วนไม้ไผ่ที่ยังสะสางไม่เสร็จ แต่ไม่ว่าอย่างใจก็ไม่มีสมาธิที่จะดู
อีกสองวัน เสวียนเอ๋อร์ก็จะกลับวังได้แล้ว หากนางได้พบพ่อและพี่ชายของนาง นางจะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนาง รอยยิ้มที่หางตาของเย่จิ่งอวี้ก็ลึกขึ้นเล็กน้อย
หลี่เต๋อฝูยิ้มอยู่ข้างๆ พูดว่า “ตอนนี้ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ แม่ทัพอินกลับราชสำนักแล้ว พระสนมเหยาเฟยจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน”
“ใช่ แต่ไม่รู้ว่าที่พวกเขาถูกเนรเทศไปหนึ่งปี พวกเขาจะเกลียดข้าหรือไม่”
หลี่เต๋อฝูจีบปากจีบคอพูดว่า “ไม่ใช่แน่พ่ะย่ะค่ะ วันนี้ค้นเจอจดหมายโต้ตอบจริงๆ ฝ่าบาทสามารถสืบเรื่องนี้และคืนความบริสุทธิ์ให้ตระกูลอินได้ เกรงว่าแม่ทัพอินจะรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณายิ่งแล้ว”
ต่งจื่ออวี๋พูดด้วยความกระวนกระวายใจ “ทำเช่นนั้นไม่ได้ ท่านอาจารย์กำชับข้าไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพาอาจารย์อากลับไปด้วย”
อินชิงเสวียนแบมือยักไหล่
“แต่ตอนนี้คนหายไปแล้ว ข้าก็รอเขาเหมือนกัน”
ต่งจื่ออวี๋เกาหัวยิกๆ
“เขาจะไปที่ไหนได้”
อินชิงเสวียนกล่าวว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าเขามีเวลาไม่มาก ข้าเดาว่าเขาต้องไปทำอะไรบางอย่าง”
ต่งจื่ออวี๋พูดอย่างหมดคำอธิบาย “แต่เขาไม่ควรจากไปเงียบๆ โดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้ หรือว่าเขาถูกคนจับตัวไป”
อินชิงเสวียนเหลือบมองต่งจื่ออวี๋ที่ท่าทางเหมือนคนโง่
“อาจารย์อาของเจ้ามีวรยุทธ์ร้ายกาจมาก ใครล่ะจะจับเขาได้”
“จริงด้วย เฮ้อ ข้าไม่รู้แล้ว ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่กลับมา ข้าก็คงต้องกลับไปก่อน”
ต่งจื่ออวี๋ลุกขึ้นยืน และในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงกระพรวนทองก็ดังขึ้นจากข้างนอก
ต่งจื่ออวี๋เหลือบมองอินชิงเสวียนด้วยความประหลาดใจ กระพรวนควรกับนางไม่ใช่หรอกหรรือ
อินชิงเสวียนก็มองดูเขาเช่นกัน หรือว่าเย่จั้นกลับมาแล้ว
ทั้งสองยืนขึ้นพร้อมกัน เสียงกระพรวนทองยิ่งดังชัดเจนกระทบโสตประสาทมากขึ้น
ขณะที่กำลังตกใจ ก็ได้ยินเสียงคลิกดังกริ๊ก ตะแกรงหน้าหน้าต่างก็แตกกระจายทันที
คนผู้หนึ่งที่คลุมศีรษะและใบหน้า ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ชัดว่าเป็นชายหรือหญิง ได้ลอยเข้ามาจากหน้าต่าง
คนผู้นี้ดูเหมือนภูตผี ปรากฏตัวเพียงแวบเดียว มือเปล่าทั้งสองข้างก็ยื่นออกไปหาพิณการเวกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...