สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 630

พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืน ยังไม่มีข่าวคราวจากอินสิงอวิ๋น ฟางรั่วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

“ทำไมยังไม่กลับมาอีกล่ะ เขาคงไม่เป็นไรกระมัง”

กวนเซี่ยวกล่าวว่า “สหายอินมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ ในเมืองหลวงมีผู้ที่สามารถทำร้ายเขาได้ไม่กี่คน ข้าคิดว่าเขาคงมีเรื่องคุยกับกุ้ยเฟยหลายเรื่อง จึงมาช้า หากเจ้าง่วงนอน เจ้าก็ไปพักก่อนได้ ข้าจะรอที่นี่”

ฟางรั่วพูดเรียบ “ไม่จำเป็น คุณชายกวนโปรดกลับไปเถอะ ประเดี๋ยวจอมพลเฒ่าจะเป็นห่วงเอา”

“ไม่เป็นไร ท่านปู่เหนื่อยจากการฝึกซ้อมมาทั้งวัน ตอนนี้คงนอนหลับไปนานแล้ว อีกอย่างเจ้าอยู่ที่นี่ตามลำพัง ข้าไม่วางใจ ข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า”

กวนเซี่ยวรู้อยู่แล้วว่าฟางรั่วสูญเสียทักษะวรยุทธ์ ยิ่งไม่อยากจากไป

เมื่อเห็นว่าเขาปฏิเสธไม่ยอมจากไป ฟางรั่วก็ไม่พูดอะไรมาก เอนตัวพิงบนเตียงโดยมีมีดสั้นอยู่ในมือ หลับตาลงและหลับไป

กวนเซี่ยวนั่งอยู่บนตั่งไม้ข้างๆ เฝ้ามองดูนางอยู่ตลอดเวลา

ใบหน้าของฟางรั่วขาวมาก เป็นสีขาวที่ผิดไปจากปกติ แทบไม่มีสีเลือด ดูซูบผอมลงไปมาก

ซึ่งนี่ต้องเกี่ยวข้องกับการทำลายวรยุทธ์แน่นอน กวนเซี่ยวอดไม่ได้ที่จะขบกรามเป็นสันนูน

“เจ้าวางใจ ข้าจะช่วยเจ้าตามหาหมอที่มีชื่อเสียง ช่วยฟื้นฟูจุดตันเถียนให้เจ้าอย่างแน่นอน”

ฟางรั่วลืมตาขึ้น แล้วพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ไม่จำเป็น ข้าไม่ต้องการเข้าไปพัวพันเรื่องพวกนั้นแล้ว ขอเพียงแน่ใจว่าอาซือหลานตายแล้ว ข้าจะออกจากเมืองหลวง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กวนเซี่ยวก็ตกใจทันที

“เจ้าจะไป? เจ้าคนเดียวจะไปไหนได้”

“โลกนี้กว้างใหญ่ จะไม่มีที่สำหรับข้าได้อย่างไร ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าคอยรับใช้ผู้อื่นอยู่ตลอด ในที่สุดก็เป็นอิสระแล้ว จะได้ไปเที่ยวชมทะเลภูเขาลำน้ำอันเลื่องชื่อ ใช้ชีวิตที่เป็นอิสระของตัวเองอย่างแท้จริง”

เมื่อฟางรั่วพูดสิ่งนี้ นางก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่โหยหาเล็กน้อย

กวนเซี่ยวพูดทันที “ถ้าเจ้าต้องการไป ข้าจะไปกับเจ้า”

ฟางรั่วคลี่ยิ้มบางๆ และพูดว่า “เจ้าเป็นหลานชายคนเดียวของจอมพลเฒ่ากวน เขาจะยอมให้เจ้าไปได้อย่างไร นอกจากนี้ข้าก็ไม่คิดที่จะหาเพื่อนไปด้วย”

“ท่านปู่รักข้าที่สุด จะต้องเห็นด้วยแน่นอน ฟางรั่ว ข้าสามารถดูแลเจ้าได้ ช่วยเจ้าทำงานหนักได้ เจ้าพาข้าไปจะไม่ไร้ประโยชน์แน่นอน”

พอกวนเซี่ยวเข้าวัยหนุ่มที่อยากมีความรัก เขาก็พบกับฟางรั่ว เขาตกหลุมรักนางเพียงคนเดียวตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้

ตราบใดที่ได้อยู่กับนาง แม้ต้องเป็นขอทานอยู่ในที่หนาวเหน็บเพียงใด กวนเซี่ยวก็รู้สึกว่าคุ้มค่า

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของฟางรั่วฉายแววซาบซึ้งใจ แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นเพียงคำพูดเพียงชั่ววูบ จอมพลเฒ่ากวนมีหลานชายแค่คนเดียว จะปล่อยเขาไปได้อย่างไร อีกทั้งนางยังเป็นผกาที่ถูกทำลาย ไม่อาจรับน้ำใจของกวนเซี่ยวไม่ได้จริงๆ แม้ว่ากวนเซี่ยวจะไม่ถือสา แต่นางก็ถือสาเรื่องนี้มาก

ทันใดนั้นฟางรั่วก็ออกแรงผลักเขาออกจากประตู และปิดประตูอย่างแรง

กวนเซี่ยวยืนอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง แล้วทันใดนั้นก็กระแทกประตูอย่างเดือดพล่าน

“ข้าไม่สนใจ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร ข้าก็เชื่อในตัวเจ้า แม้ว่าวันหนึ่งเจ้าจะฆ่าข้าจริงๆ ข้าก็จะไม่เสียใจเลย ฟางรั่ว เจ้าเปิดประตูเถอะ หากจะอยากไป พวกเราก็ออกจากเมืองหลวงกันตอนนี้ สิ่งที่ทำไม่เป็นข้าก็สามารถเรียนรู้ได้ ให้เวลาข้าหนึ่งเดือน รับรองว่าข้าจะทำเป็นทุกอย่าง”

ฟางรั่วกรอบพิงประตู กัดริมฝีปากแรงๆ เกิดมาชาตินี้มีผู้ชายที่ปฏิบัติต่อตัวเองเช่นนี้ นางก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วล่ะ

แม้ว่าอาซือหลานจะให้สาวใช้หลายคนไปปรนนิบัติบุคคลสำคัญเหล่านั้น แต่ก็นับว่าปฏิบัติต่อนางและโยวหลานไม่เลว ฟางรั่วเคยถูกลงโทษด้วยการขี่ม้าไม้ แม้ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ชาย แต่นางก็รู้สึกว่าตัวเองแปดเปื้อนมลทิน ยิ่งกว่านั้นกวนฮั่นหลินยังเป็นจอมพลเฒ่าของราชสำนัก หากหลานชายแต่งงานกับตัวเอง คงไม่สามารถเชิดหน้าในราชสำนักได้อย่างแน่นอน

การต่อสู้ระหว่างเจียงวูและต้าโจว ไม่ใช่สิ่งที่นางซึ่งเป็นสตรีอ่อนแอสามารถยับยั้งได้ แต่ไม่ว่าอย่างไร นางก็เคยเป็นสายลับ ซึ่งตัวตนนี้ไม่สามารถลบล้างออกไปได้ชั่วชีวิต ฟางรั่วไม่ต้องการทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีก ทั้งร่างกายของนางก็ผุพัง ไม่สามารถให้กำเนิดลูกให้กับกวนเซี่ยวได้ ยิ่งไม่สามารถยอมรับความรักจากเขาได้

ต้องโทษที่นางโชคร้ายเกิดผิดเวลา ถ้าคนที่นางรู้จักตั้งแต่เด็กคือกวนเซี่ยว นางคงไม่มีสภาพเช่นนี้แน่นอน

นางกลั้นน้ำตาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าจะพูดอีกครั้ง ข้าไม่ชอบเจ้า ชาตินี้ก็ไม่มีวันชอบเจ้า ในหัวใจข้ามีแค่อาซือหลานเท่านั้น แม้ว่าข้าจะเกลียดเขา แม้ว่าเขาจะตาย ความรู้สึกนี้ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กวนเซี่ยว ถ้าขืนเจ้ายังตื๊อไม่เลิก ข้าจะฆ่าตัวตายที่นี่เดี๋ยวนี้”

เสียงด้านนอกประตูหยุดกะทันหัน เมื่อผ่านไปสิบห้านาที กวนเซี่ยวก็ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฟางรั่ว เจ้าไม่เคยชอบข้าจริงๆ เลยหรือ แม้เพียงเศษเสี้ยว แม้เพียงน้อยนิด หรือเพียงชั่วครู่ก็ตาม”

ฟางรั่วกัดฟันแน่น พูดลอดไรฟันออกมาว่า

“ไม่เคย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์