สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 668

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วยาม จูอวี้เหยียนก็มาถึงเป่ยไห่

เมื่อเห็นป้ายบอกทางขนาดใหญ่ เด็กขายของก็ตื่นเต้นดีใจอย่างอดไม่ได้

“แม่นางจู ถึงเป่ยไห่แล้วขอรับ”

จูอวี้เหยียนพูดด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน “ไปหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนกันก่อนเถอะ”

“ดีขอรับ ข้าจะไปหาเดี๋ยวนี้”

เมื่อได้ยินเสียงราวกับสวรรค์ ร่างกายของเด็กขายของก็อ่อนระทวยลงทันที เขากระโดดลงจากรถม้าอย่างเซ่อซ่า และตามหาโรงเตี๊ยม เมื่อหาห้องพักได้แล้วก็อุ้มจูอวี้เหยียนลงจากรถม้า

เมื่อมองเด็กขายของวิ่งไปวิ่งมา จูอวี้เหยียนก็รังเกียจเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็ถึงที่หมายเสียที ไอ้คนรกสายตาก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตรอดอีกต่อไป

ระหว่างที่ครุ่นคิด เด็กขายของก็ยกอาหารเดินเข้ามาจากด้านนอกประตู

“แม่นางจู ข้าสั่งอาหารหลายอย่างที่ท่านชอบกิน รีบมาชิมดูสิ!”

จูอวี้เหยียนเหลือบมองนางอย่างเขินอายและพูดว่า “ข้าอยากอาบน้ำ เพียงแต่เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน เจ้าปรนนิบัติข้าคงไม่เหมาะสม ข้าขอรบกวนเจ้าช่วยไปซื้อสาวรับใช้ให้ข้าหน่อย หากไปพบท่านแม่ของข้าในสภาพนี้ นางคงคิดว่าท่านทรมานข้า และจะต้องว่าจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องของเรา”

เด็กขายของพยักหน้าและพูดว่า “ข้าเข้าใจความหมายของแม่นางจู ข้าจะไปซื้อสาวรับใช้สองคนมาปรนนิบัติรับใช้แม่นางเดี๋ยวนี้เลย”

จูอวี้เหยียนจึงให้เงินเขาอีกห้าสิบตำลึง

“เงินที่เหลือเจ้านำไปซื้อเหล้าเถอะ หลายวันนี้เจ้าดูแลข้ามาตลอด ลำบากเจ้าแล้วจริงๆ”

จูอวี้เหยียนนำ้เสียงอ่อนโยน แววตางดงามน่าหลงใหล รวมทั้งใบหน้าที่งดงาม ไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถต้านทานได้ อีกทั้งยังใช้เงินอย่างใจกว้าง เด็กขายของรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัว ตื่นเต้นจนหลงทิศหลงทางไปหมด

“ต่อไปพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว แม่นางจูไม่ต้องเกรงใจ”

เด็กขายของหยิบเงินและออกจากโรงเตี๊ยม เดินวนรอบหนึ่งแล้วก็ยังไม่พบที่ขายสาวรับใช้ เมื่อถามจึงรู้ว่าชาวบ้านธรรมดาต่างอพยพไปหมดแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาอาบน้ำของจูอวี้เหยียน เด็กขายของรีบวิ่งไปเมืองข้างๆ ทันที

เมื่อเขาไปแล้ว จูอวี้เหยียนก็เรียกลูกจ้างเข้ามา และให้เงินหยวนเป่ากับเขาสองแท่ง ให้เขาไปซื้อยาตำรับเดี่ยวมาให้ตัวเอง

เมื่อเห็นว่าจูอวี้เหยียนไม่สามารถเดินเองได้ ลูกจ้างจึงไม่คิดอะไรมาก ไม่นานก็ซื้อยากลับมา จูอวี้เหยียนก็จ่ายเงินตำลึงเพื่อให้เขาช่วยบดยา ลูกจ้างรับเงินไปแล้วก็ยอมทำให้อย่างเต็มใจ หลังจากนั้นครึ่งชั่วยามก็บดยาเสร็จทั้งหมด

จูอวี้เหยียนมองผงยา ความแค้นในดวงตาก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ไอ้คนขายของสกปรก คิดอยากทำร่างกายของนางแปดเปื้อน หลายวันนี้ได้กลิ่นเหม็นคาวน้ำมันบนตัวของเขามาตลอด จูอวี้เหยียนรู้สึกสะอิดสะเอียนจะแย่ ตราบใดที่เขาซื้อสาวรับใช้มาได้ก็จะฆ่าเขาในทันที

เด็กขายของไม่รู้ความตายของตัวเองกำลังจะมาถึง เขายังคงตั้งใจตามหาสาวรับใช้ จะว่าไปก็บังเอิญพอดี เพิ่งออกจากเป่ยไห่ไม่นานก็เห็นสองพี่น้องคู่หนึ่งแบกกระเป๋าหนีภัยแล้งมา

เสื้อผ้าทั้งสองเก่าและขาดวิ่น ร่างกายผอมซูบ ใบหน้าซีดเหลือง แค่มองก็รู้ว่ามาจากตระกูลยากไร้

เมื่อรู้ว่ามีคนต้องการซื้อตัวเอง ทั้งสองก็ดวงตาเป็นประกายในทันที ผู้ที่สามารถมีกำลังในการซื้อสาวรับใช้ ชีวิตต้องดีอย่างมาก ย่อมดีกว่าการที่ทั้งสองต้องอดมื้อกินมื้อในตอนนี้

“ขอบคุณคุณชาย พวกเรายินดี”

เมื่อได้ยินพวกนางเรียกตัวเองว่าคุณชาย เด็กขายของก็อิ่มอกอิ่มใจอย่างอดไม่ได้ จูอวี้เหยียนเป็นถึงคุณหนูของจวนอิน เขารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แม้เขาไม่รู้เหตุผลที่แม่ของนางไม่ได้อยู่ที่จวนอิน แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา

ตราบใดที่ทั้งสองลงเอยกันและให้กำเนิดลูก เขาไม่กลัวว่าแม่ทัพอินจะไม่ยอมรับ

เมื่อคิดว่าอีกไม่นานตัวเองก็จะได้เป็นนายท่านที่แท้จริง รอยยิ้มที่มุมปากของเด็กขายของก็แทบหุบไม่ลง

เขารีบพาสาวรับใช้สองคนเดินทางกลับในความมืด เมื่อถึงชายฝั่งทะเลเป่ยไห่ก็เที่ยงคืนแล้ว

จูอวี้เหยียนมองสำรวจสาวรับใช้ ก็ทำสีหน้ารังเกียจทันที แต่ละคนรูปร่างผอมซูบ จะรับใช้นางได้อย่างไร โชคดีที่เอาเก้าอี้ที่อินจ้งทำให้มาด้วย ไม่เช่นนั้น หากต้องพึ่งพิงขยะสองคนนี้ เกรงว่าจะไม่ได้ออกไปไหนเป็นแน่

เสียงร้องคร่ำครวญจมหายไปกับสายลมและคลื่นขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว เวลาเพียงครู่เดียว เขาคนนั้นก็แข็งทื่อและไม่เคลื่อนไหว

จูอวี้เหยียนก็ชำระล้างร่างกายเสร็จแล้ว นางล้มตัวพักผ่อนลงบนเตียง ในใจคิดว่าจะไปพบเจ้าสำนักเซียวเหยาอย่างไรดี

เมื่อก่อนท่านอาจารย์เคยบอกว่า เขาและเจ้าสำนักเซียวเหยาเคยพบหน้ากับ แต่เป็นเพียงการเจรจาธรรมดาเท่านั้น ไม่ถึงกับมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไร แต่ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์บางอย่างที่ไม่รู้แน่ชัดกับเฟิงเอ้อร์เหนียง

เพียงแต่แค้นที่ผู้หญิงสกุลเฟิงไม่ยอมหลงกลโดยดี และไม่ยอมฝากนางให้ด้วย แค้นนี้นางยังจำได้ดี

ตอนนี้ตัวเองถูกทำลายจุดตันเถียนแล้ว จึงไม่มีทางฝึกวิชาพิษกู่ได้ แน่นอนว่าไม่สนใจว่าจะยังบริสุทธิ์อยู่หรือไม่ ตราบใดที่สามารถทำให้นางฟื้นวิชาวิทยายุทธ์ได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร นางก็จะไม่ปฏิเสธเลย

เมื่อนึกถึงตระกูลของอินชิงเสวียน แววตาของจูอวี้เหยียนก็เย็นชาขึ้นมาก

นางจะต้องถลกหนังของพวกเขา และดึงเส้นเอ็นของพวกเขา จึงจะสามารถระบายความแค้นในใจได้

นางคิดพร้อมกัดฟันกรอดๆ จูอวี้เหยียนจึงหลับตาด้วยความพึงพอใจ

ณ สำนักเซียวเหยา

ฉุยอวี้ที่สวมชุดคลุมสีดำกำลังฝึกวิทยายุทธ์ในห้องลับ ลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งถือดาบมาคุกเข่าที่หน้าประตูด้วยความเคารพ

“เจ้าสำนัก พวกเรายังต้องโยกย้ายลูกศิษย์ไปลาดตระเวนอีกเจ้าค่ะ”

ฉุยอวี้ถามเสียงราบเรียบ “ครั้งนี้บาดเจ็บล้มตายเท่าไร?”

ลูกศิษย์ตอบเสียงเบาว่า “ยอดฝีมือตายไปแปดคนเจ้าค่ะ”

ฉุยอวี้พูดอย่างสบายๆ ว่า “กำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยังตายได้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ เลือกลูกศิษย์ระดับล่างๆ ไปรับมือก็พอแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์