เด็กน้อยตกใจเล็กน้อย
คณะก้งฉิงแห่งฮว๋าเซี่ย?
นี่มันสำนักอะไรกัน
มีหลายคำด้วย ฟังดูท่าทางร้ายกาจจริงๆ
เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานการแต่งกายดูดี โมริตะคาวาสึบาเมะก็อดสนใจไม่ได้
เขาเดินทางออกจากเกาะทั้งคืน สิ้นเปลืองกำลังคนไปมาก ในที่สุดก็มาถึงเมืองเติงหลง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกไล่ล่า เขาได้ปีนลงจากภูเขา ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดทาง ก็เพื่อปะปนเข้ามาในเป่ยไห่
ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะอายุไล่เลี่ยกับเข้า ดังนั้นจึงเหมาะที่จะตีสนิท
เมื่อนึกถึงตรงนี้ โมริตะคาวาสึบาเมะก็กระตุกมุมปากขึ้น ประกบมือคารวะตามแบบฉบับคนจงหยวนและพูดว่า “ที่แท้ก็คือศิษย์ของคณะก้งฉิงแห่งฮว๋าเซี่ย ขออภัยที่เสียมารยาท”
เย่จิ่งหลานหัวเราะ ก่นด่าในใจว่าเสียมารยาทโคตรพ่อเจ้าน่ะสิ เมื่อเห็นว่าเด็กคนนี้แสร้งทำเป็นเข้าใจ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกอารมณ์เสีย
ต้องเป็นคุณชายจากตระกูลใดสักตระกูลมาที่นี่เพื่อฝึกฝน เมื่อกลับสำนัก บันทึกการมีส่วนร่วมในการต่อสู้สักสนาม ก็เท่ากับเคลือบชั้นทองคำให้ตัวเองแล้ว
ถุย ไม่ว่าจะในยุคสมัยใด ก็ขาดทายาทรุ่นสองแบบนี้ไม่ได้
เย่จิ่งหลานมาจากครอบครัวที่ยากจน ทนกับคนประเภทนี้ไม่ได้มากที่สุด จึงอดไม่ได้ที่จะอยากแกล้งเจ้าเด็กเปรตนี่
เขาเอามือไพล่หลัง พูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา”
เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งของเย่จิ่งหลาน โมริตะคาวาสึบาเมะยิ่งคิดว่าเย่จิ่งหลานต้องมาจากสำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียง
เขาประจบทันทีว่า “คุณชายน้อยเป็นผู้มีความสามารถจริงๆ เจ้าและข้าก็นับว่าเจอกันครั้งแรกแต่เหมือนรู้จักกันมานาน มิสู้กินข้าวด้วยกันสักมื้อดีหรือไม่”
เย่จิ่งหลานฟังดูแล้วก็พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง
คนผู้นี้ดูเหมือนเด็กอยู่แท้ๆ ทำไมถึงพูดจาดูเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ หรือว่าก็เป็นเหมือนตัวเอง...
อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจเจ้าเด็กเปรตนี่
ยิ้มอย่างยินดีปรีดาและพูดว่า “เชื้อเชิญมิสู้พบกันโดยบังเอิญ ดียิ่ง”
หวังซุ่นไม่สามารถหาโอกาสได้จริงๆ จึงต้องยอมแพ้
โมริตะคาวาสึบาเมะเทน้ำชาให้เย่จิ่งหลาน แล้วถามด้วยรอยยิ้มตาหนี “ไม่ทราบว่าคณะก้งฉิงแห่งฮว๋าเซี่ยตั้งอยู่ที่ใด ในสำนักมีศิษย์กี่คน”
เย่จิ่งหลานจิบชาแล้วพูดว่า “สำนักนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาฮว๋าเซี่ย ส่วนศิษย์ในสำนักน่ะหรือ...”
เดิมทีเย่จิ่งหลานอยากจะบอกว่าเจ็บสิบล้าน แต่นี่เป็นตัวเลขสถิตที่คำนวณเมื่อปีที่แล้ว เพื่อไม่ให้เจ้าเด็กเปรตนี่ตกใจ จึงเอาเลขศูนย์ออกสองตัว
“ประมาณเจ็ดแสนกว่าคน”
โมริตะคาวาสึบาเมะมือสั่น น้ำชาในถ้วยกระฉอกออกมา
เจ็ดแสนกว่า!
แม้ว่าคนในเกาะในตงหลิวทั้งหมดรวมกัน ก็คงไม่มีคนมากมายขนาดนั้น
เขาเหลือบมองเย่จิ่งหลานอย่างเงียบๆ และคิดว่า บางทีเจ้าเด็กเปรตนี่คงกำลังโม้อยู่กระมัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...