อินชิงเสวียนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้น
เจ้าเด็กอ้วนเหมือนจะตัวหนักขึ้น มีกลิ่นน้ำนมอ่อนๆ หอมกรุ่นติดตัว
เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออก กอดคอของอินชิงเสวียน แล้ววางแก้มนุ่มนิ่มซบบนคอของอินชิงเสวียน พูดเบาๆ ว่า “ไม่โกรธๆ”
เซี่ยวอิ๋นหวนยิ้มด้วยความรักใคร่
“จ้าวเอ๋อร์เชื่อฟังมาก มีข่าวจากเจ้าสำนักเซี่ยวหรือไม่”
“ท่านแม่ไม่ต้องกังวล มีเจ้าสำนักเฮ่ออยู่ ไม่มีใครกล้าแอบทำอันตรายกับเจ้าสำนัก แม้ว่าใครบางคนจะมีเจตนาชั่วร้าย แต่ใช่ว่าจะประมือกับเจ้าสำนักเซี่ยวได้”
อินชิงเสวียนหอมแก้มน้อยๆ ของเสี่ยวหนานเฟิง อุ้มเขานั่งบนเก้าอี้ข้างๆ
เจ้าสำนักเซี่ยวเคยแช่ตัวในน้ำพุวิญญาณ หายจากอาการบาดเจ็บภายในแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทักษะวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งของเขา อินชิงเสวียนจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขามากนัก
ความกังวลในดวงตาของเซี่ยวอิ๋นหวนยังไม่ลดลง
ในช่วงสองวันที่ผ่านมาได้ศึกษาค้นคว้าเพลงพิณอยู่ในหอ ในเวลาว่างก็ไปอยู่เล่นกับหลานชาย ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกสิ่ง แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ นางล้วนมองเห็นอยู่ในสายตา
เช้าวันนี้ได้ทราบจากฮวาเชียนว่าสองคนผัวเมียทำเรื่องอะไรไว้กับฉุยอวี้ นอกเหนือจากความซาบซึ้งแล้ว ก็รู้สึกกังวลอยู่หลายส่วน
ฉุยอวี้พัดลมติดไฟ ส่งพ่อบุญธรรมไปที่คุกเหล็กเนื้อแกร่ง ต้องเพื่อล้างแค้นเมื่อวานนี้อย่างแน่นอน
เซี่ยวอิ๋นหวนไม่รู้เรื่องคนผู้นี้มากนัก แต่เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้น ฉุยอวี้ต้องเป็นคนถ่อยที่เจ้าคิดเจ้าแค้นแม้เพียงเรื่องเล็กน้อยแน่นอน
“แม่กลัวว่าฉุยอวี้จะแอบวางแผนสังหารเหี้ยมโหด แม้ว่าเจ้าสำนักเซี่ยวจะมีทักษะวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่ไม่ใช่คนคดเคี้ยวเลี้ยวลดขนาดนั้น หากฉุยอวี้มีเจตนาร้ายต่อเขา เกรงว่า...”
อินชิงเสวียนปลอบใจนางทันที “ไม่หรอกเจ้าค่ะ เจ้าสำนักเฮ่อไม่มีวันปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ที่เสวียนเอ๋อร์มาหาท่านแม่ เพราะมีเรื่องอื่น”
“เรื่องใดหรือ หรือมีศิษย์สำนักคนใดเมินเฉยไร้มารยาทกับเจ้า”
เซี่ยวอิ๋นหวนมองไปที่อินชิงเสวียนด้วยสายตาอ่อนโยน
อินชิงเสวียนผลิยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “ไม่มีเจ้าค่ะ ศิษย์ในสำนักปรองดองเป็นมิตร ดูแลข้ากับอาอวี้เป็นอย่างดี เสวียนเอ๋อร์มาหาท่านแม่เพื่ออยากพูดคุยเรื่องตงหลิวเจ้าค่ะ”
เมื่อรู้ว่าคนตงหลิวอยู่ในเป่ยไห่ เซี่ยวอิ๋นหวนก็ผุดลุกขึ้นทันที
“ไป ไป ทะเล ดูทะเล”
เมื่อคิดว่าลูกต้องอุดอู้อยู่ในห้องทั้งวัน อินชิงเสวียนทนไม่ได้ แต่ก็กลัวอันตราย นางจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
กลับได้ยินฮวาเชียนพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เด็กๆ ชอบขยับที่สุด จะทนอยู่ในห้องได้อย่างไร อุตส่าห์ได้มาถึงชายทะเล ก็พาจ้าวเอ๋อร์ออกไปดูเถอะ ซื่อเมี่ยวอิน พวกเจ้าก็ไปกับแม่นางอินด้วย”
“งั้น...ก็ได้เจ้าค่ะ”
อินชิงเสวียนเดินไปที่ประตู จากนั้นหันกลับมาเรียกเย่จิ่งหลานและหวังซุ่นออกไปด้วยกัน
คนกลุ่มใหญ่มาถึงชายหาดอย่างเอิกเกริก เมื่อเห็นทะเลที่ส่องประกายระยิบระยับ เสี่ยวหนานเฟิงก็โบกมือน้อยๆ อย่างตื่นเต้น
ตะโกนเสียงดัง “ทะเลๆ ปลาๆ”
เมื่อเห็นลูกชายมีความสุขมากเช่นนี้ จิตใจที่ตึงเครียดของอินชิงเสวียนก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง
ขณะที่กำลังจะวางเสี่ยวหนานเฟิงลงบนพื้น ปล่อยให้เขาวิ่งเล่นเอง ก็ได้ยินใครบางคนที่อยู่ข้างหลังพูดอย่างเย็นชา “อินชิงเสวียน เจ้ามาที่เป่ยไห่จริงๆ ด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...