สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 785

เจ้าสำนักเซี่ยวพูดออกมาหนึ่งประโยค จากนั้นก็ลอยตัวขึ้นไปบนหลังคาบ้าน

เขาถ่ายทอดความแข็งแกร่งภายในของเขาอย่างลับๆ และเสียงของเขาหนาทึบราวกับภูเขา เป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่สั่นไหวและไหลออกไปทุกทิศทาง

“ไอ้สารเลวที่ปิดบังหน้าตา ตอนนี้ยังไม่กล้าแม้แต่จะปรากฏตัวใช่หรือไม่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ยังไม่รีบไสหัวออกไปจากเป่ยไห่อีก หากเจ้ายังกล้าดื้อดึงหลงผิด ข้าจะหั่นร่างของเจ้าเป็นหมื่นชิ้นและบดให้เป็นผุยผง”

กลางคืนที่เงียบสงบ ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ

เจ้าสำนักเซี่ยวหรี่ตาลง เพิ่มประสาทสัมผัสของร่างกายให้มากที่สุด

กลางดึก เขากระโดดเข้าไปในเรือน

“กลับไปนอนเถอะ คนคนนั้นคงไม่อยู่แล้วล่ะ เขาเพียงต้องการใช้กลิ่นคาวเลือดในการกระตุ้นความคิดของเจ้า ตราบใดที่จิตใจของเจ้านิ่งสงบเหมือนน้ำ เขาก็สิงร่างของเจ้าไม่ได้หรอก”

เย่จิ่งอวี้ยกมือขึ้นคารวะ และพูดเสียงเรียบว่า “เจ้าสำนักเซี่ยวก็รีบพักผ่อนเถอะขอรับ!”

เจ้าสำนักเซี่ยวมองเขาแล้วพูดว่า “ไอ้เด็กนี่ ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังไม่เรียกข้าว่าท่านตาอีกหรือ?”

เย่จิ่งอวี้ชะงักฝีเท้าในทันที

เมื่อย้อนนึกว่ามาเป่ยไห่หลายวันแล้ว เจ้าสำนักเซี่ยวดูแลเขาและอินชิงเสวียนในทุกเรื่อง มันเป็นความรักในครอบครัวที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนจริงๆ

เสวียนเอ๋อร์บอกกับเขาเสมอว่า ในการเป็นมนุษย์นั้นต้องรู้จักคิดในมุมมองของคนอื่นบ้าง หากเขาเป็นเจ้าสำนักเซี่ยว เห็นว่าลูกสาวของตัวเองถูกขังไว้ในตำหนักลึก น้ำตาอาบแก้มตลอดทั้งวัน อาจจะไประบายความโกรธต่อผู้อื่นก็ได้

สิ่งที่เจ้าสำนักเซี่ยวก็ไม่ผิด เพียงแต่วิธีการสุดโต่งเกินไปหน่อย

เมื่อนึกถึงตลอดสองวันที่ผ่านมา เขาวิ่งวุ่นไปทั่วสารทิศเพื่อตัวเองอยู่ตลอดวัน หัวใจที่ผนึกไว้ด้วยน้ำแข็งก็ค่อยๆ คลายลง

เขาหันกลับมาและแสดงความเคารพต่อเจ้าสำนักเซี่ยว

“ท่านตาก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย จิ่งอวี้ขอตัวลา”

เย่จิ่งอวี้พูดจบก็รีบเดินเข้าด้านในอย่างรวดเร็ว

เจ้าสำนักเซี่ยวเอามือไพล่หลังและมองไปที่เย่จิ่งอวี้ ใบหน้าที่แสร้งทำเป็นเคร่งขรึมก็ผ่อนคลายลงในพริบตา มุมปากก็ค่อยๆ ยกขึ้น แต่กลับก่นด่าออกมาเสียงดังว่า

“ไอ้เด็กนี่!”

ด้านในห้องฝั่งตะวันออก เซี่ยวอิ๋นหวนถือดาบยาวไว้ในมือ ยืนอยู่หน้าประตู กลั้นหายใจและฟังเสียงภายนอก

อินชิงเสวียนไม่ได้ขาดคนรับใช้ หลังจากนี้สิ่งที่ฟางรั่วต้องทำ นางได้วางแผนไว้แล้ว หากผู้หญิงแบบนี้เป็นได้แค่สาวรับใช้ที่คอยตักน้ำต้มชา ช่างน่าเสียดายอย่างแท้จริง

ฟางรั่วโน้มตัวเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขากลับเมืองหลวงแล้วเจ้าค่ะ คนขับรถม้าเป็นคนในยุทธภพ และรู้จักกับเจ้าสำนักเซี่ยว ฝ่าบาทได้มอบเงินให้จำนวนมาก กุ้ยเฟยไม่ต้องเป็นกังวล”

“ตอนแรกข้าคิดจะมาส่งเขา สุดท้ายก็คลาดกันจนได้”

อินชิงเสวียนถอนหายใจ และหยิบตำราพิชัยสงครามออกมาจากด้านในเสื้อหนึ่งเล่ม

“หากเจ้าสงบจิตใจลงได้ก็หาเวลาอ่านดูนะ เมื่อใดที่ได้ข้อคิดค่อยมาหาข้า”

ฟางรั่วรับหนังสือมา เมื่อเห็นคำว่า ‘พิชัยสงคราม’ สายตาก็มีความประหลาดใจ แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก

“เจ้าค่ะ ข้าจะไปอ่านเดี๋ยวนี้”

ฟางรั่วหยิบหนังสือเดินเข้าไปในห้อง อินชิงเสวียนก็ยืดบิดเอวอยู่หน้าประตู ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะดังขึ้นมา

ในช่วงพริบตาเดียว เก่อหงยวนและผู้ชายที่หน้าตาซื่อบื้อคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจากด้านนอก

เมื่อเห็นอินชิงเสวียน ชายหนุ่มก็แสดงสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที และพูดตะโกนเสียงดังว่า “ผู้อาวุโส ข้ากลับมาแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์