สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 813

“ฮะ คุณชายรู้จักเขาด้วย?”

หยวนเป่าชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ แล้วก็ร้องตกใจออกมาทันที

ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนโครงกระดูก น่ากลัวจริงๆ

เฮ่อฉางเฟิงไม่สนใจหยวนเป่า เขาก้มลง ดึงผ้าสีดำบนร่างของชายคนนั้นออก เผยให้เห็นหน้าอกที่แนบเนื้อถึงกระดูก บริเวณกลางอกยังมีรอยประทับสีเขียวของนิ้วโป้งยาว

หยวนเป่าเข้ามาดู อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจ “นี่...นี่คือเจ็ดสิ่งต้องห้ามของเจ้าเมือง! คุณชาย หรือว่า...เขาจะคือรองเจ้าเมืองตู้?”

เฮ่อฉางเฟิงปล่อยมือ นัยน์ตาทั้งคู่ปรากฏเมฆดำเคลือบคลุม

“คิดไม่ถึงว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ข้ากลัวว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ในอนาคต”

หยวนเป่ามองไปที่เฮ่อฉางเฟิงด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“คุณชายหมายความว่าอย่างไร รองเจ้าเมืองตู้เขา...เขาตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมยังมีชีวิตอยู่”

หยวนเป่าเหลือบมองไปมาหลายครั้ง แล้วถามว่า “รองเจ้าเมืองตู้เลื่องชื่อเรื่องหล่อเหลา เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้”

เฮ่อฉางเฟิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “เจ้าก็พูดถึงเจ็ดสิ่งต้องห้ามแล้ว ทำไมยังถึงถามโง่ๆ อีก”

แล้วจึงพึมพำต่อว่า “แผนจักจั่นลอกคราบ ตายเพื่อเกิดใหม่...”

เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง เขาก็หันกลับมา หยวนเป่าที่มีสีหน้าหวาดกลัวอยู่แล้วก็กรีดร้องด้วยความตกใจ

เฮ่อฉางเฟิงยกตบหัวเขาดังป้าบ

“ร้องอะไรนักหนา เขียนจดหมายส่งกลับไปที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงทันที คราวนี้เรามีเหตุผลเหมาะสมที่จะออกมาเล่นข้างนอกแล้ว”

ดวงตาของหยวนเป่าเป็นประกาย ยกเยี่ยมให้ทันที แล้วพูดด้วยความชื่นชม “สมแล้วที่เป็นคุณชาย ข้าจะไปทำเดี๋ยวนี้”

เฮ่อฉางเฟิงพยักหน้า พอโบกแขนเสื้อ ผ้าสีดำก็คลุมศีรษะของศพทันที

หยวนเป่าถามอีกว่า “ถ้าอย่างนั้นศพนี้...พวกเราจะวางไว้ที่นี่หรือขอรับ”

ดวงตาสีเข้มของเฮ่อฉางเฟิงค่อนข้างซับซ้อน พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “พาออกไปเถอะ ในเมื่อเขามาจากอิ๋นเฉิง ไม่อาจปล่อยให้ศพของเขาถูกทิ้งอยู่แบบนี้ได้ หาที่เหมาะๆ ในเชิงเขาสักที่ แล้วจัดการฝังเถอะ”

เดิมทีหยวนเป่าก็กลัวอยู่แล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินคนมาพูดกับเขาอีก ก็ตกใจจนอุทานลั่น แทบอยากจะเค้นพลังทั้งหมดที่มีออกมา แล้ววิ่งตรงไปข้างหน้า

แต่กลับเห็นภาพพร่าเลือน ร่างสูงยาวร่างหนึ่งก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว

คนผู้นี้สวมเสื้อคลุมสีเทา ตัวสูงใหญ่ เส้นผมและหนวดเคราเป็นสีดอกเลา ดวงตาคู่นั้นมีพลังเฉียบคมประหนึ่งพยัคฆ์ จ้องเขม็งหยวนเป่าจนเขาหวาดหวั่น อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

เขายิ้มแห้งๆ และพูดว่า “คารวะท่านผู้อาวุโส เพื่อนของข้าน้อยเสียชีวิต กำลังจะไปฝังร่างของเขา”

เจ้าสำนักเซี่ยวก้าวไปข้างหน้า สายตาจ้องมองอย่างดุดัน

“เจ้ามาจากสำนักอะไร แล้วเพื่อนของเจ้าคือผู้ใด”

เพื่อให้เหล่าศิษย์ได้สนุกในวันตรุษจีน เจ้าสำนักเซี่ยวได้โยกย้ายพวกเขาทั้งหมดกลับสำนัก แล้วออกมาลาดตระเวนด้วยตัวเอง ไม่นึกว่าพอเข้ามาในเมือง ก็จะเห็นเด็กน้อยสวมหน้ากากทำท่าทางลับๆ ล่อๆ จึงเข้ามาหยุดเขาทันที

ทันทีที่เสี่ยวหยวนเป่าเห็นชายชราคนนี้ก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นด้วย จำต้องกัดฟันพูดว่า “ข้าน้อยไร้พรรคไร้สำนัก มีแต่เลือดอันเร่าร้อน มาที่นี่กับเพื่อนเพื่อต่อต้านพวกตงหลิว ไม่นึกว่าสหายผู้นี้ของข้าจะป่วยตายกะทันหัน ข้าน้อยจึงต้องฝังเขาที่นี่ วันหน้าค่อยพากลับ”

มือของเจ้าสำนักเซี่ยวคว้าผ้าสีดำไว้แล้ว พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ขอข้าดูหน่อยว่าเขาเป็นโรคอะไร บางทีอาจยังช่วยได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์