สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 880

ชาวตงหลิวก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่แค่เสียงดังกว่าพวกเขา แต่ยังกลบเสียงกลองของพวกเขาจนมิด

เพื่อที่จะกลบเสียงของอินชิงเสวียน ทั้งหมดพยายามออกแรงเป่าอย่างเต็มที่ แต่ไม่ว่ากำลังภายในจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะตู้ลำโพงได้ ซึ่งอินชิงเสวียนสามารถครอบงำผู้ฟังได้อย่างง่ายดาย

ในไม่ช้านางก็ค้นพบสิ่งอื่น แม้ว่านางจะไม่ได้ใช้พิณการเวก แม้จะไม่ได้เล่นเพลงหมื่นกระบี่เศษดารา แต่เสียงดนตรีของนางยังคงมีความสามารถในการโจมตี

ถึงขั้นที่ว่ารู้สึกถึงลมปราณไร้รูปที่ลอยออกมาจากช่องเสียงของปี่ปากใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง แผ่รังสีไปยังคนตงหลิวในสนามรบผ่านความคิดของนาง

คนตงหลิวหลายคนที่เล่นดนตรีเบื้องหน้าก็ค้นพบว่าปี่ปากใหญ่สามารถโจมตีได้ ต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ

แม่หนูนี่อายุยังน้อย แต่ไต่ขึ้นไปถึงระดับสูงในการใช้เครื่องดนตรีแล้ว หากนางมีความสามารถนี้จริงๆ ไม่ว่าพิณการเวกจะถูกทำลายหรือไม่ ก็ไม่มีอะไรต่างกัน

เกรงว่าถึงเด็ดดอกไม้ใบหญ้าก็สามารถเป่าเป็นเสียงเพลงได้ เมื่อเทียบกับตาเฒ่าเซี่ยวคนนั้น เด็กสาวผู้แสนงดงามที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ น่าจะเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง

เพื่อกลบเสียงของอินชิงเสวียน หลายคนใช้กำลังภายในของตนโดยไม่รู้ตัว

อินชิงเสวียนไม่สนใจพวกเขาด้วยซ้ำ ตอนนี้ถือว่าฝึกเล่นดนตรีก็แล้วกัน นางผู้ซึ่งแต่เดิมรู้จักแค่การกดนิ้วและโน้ตดนตรีเท่านั้น ตอนที่เป่าครั้งแรกก็เป่าแบบติดๆ ขัดๆ แต่หลังจากเป่าหลายครั้ง ก็เชี่ยวชาญขึ้นมาก ถึงขั้นเป่าอย่างฮึกเหิมและเคลิบเคลิ้ม

ในที่สุดเมื่อนางรู้สึกตัว ถึงพบว่าคนตงหลิวที่เล่นดนตรีตรงหน้าเหล่านั้นนางมีเลือดออกทั้งเจ็ดทวาร ตายจนไม่สามารถตายได้อีกแล้ว

อินชิงเสวียนค่อนข้างประหลาดใจ นางยังเป่าไม่ถึงสิบครั้งเลย ตายง่ายขนาดนี้เลยหรือ

แต่นางไม่รู้ว่าตัวเองได้แลกพลังมิติอยู่แล้ว กำลังภายในในร่างกายก็มาจากความคิดของนางเช่นกัน พลังทั้งสองซ้อนทับกัน และได้ทำลายอวัยวะภายในของคนตงหลิวเหล่านั้น

อินชิงเสวียนดึงปี่ปากใหญ่ออก ถึงได้ตระหนักว่าซื่อเมี่ยวอินทั้งสี่คนนั้นจ้องมองนางอย่างอึ้งๆ ความชื่นชมในดวงตาแทบจะถูกเขียนออกมา

ซึ่งเรื่องการฆ่าคนถ่อยแบบนี้ เย่จิ่งหลานย่อมไม่อาจยอมรั้งอยู่ข้างหลังได้ หลังจากจัดแจงที่อยู่ให้เด็กและสาวใช้แล้ว เขาก็เดินทางอ้อมกลับมายังสนามรบ และเริ่มการต่อสู้แบบกองโจรกับคนตงหลิวเหล่านี้

สถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว อ๋องโมริตะรู้สึกกังวลอย่างอดไม่ได้ ตอนมาเขาได้คุยโว้โอ้อวดกับจักรพรรดิไว้ ว่าต้องจัดการเป่ยไห่ให้ได้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา

ตกลงว่าควรสู้หรือถอยดี?

เมื่อเห็นคนตงหลิวทยอยตายในสนามรบ อ๋องโมริตะก็รู้สึกสับสนอยู่มิวาย

ในตอนที่เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรนั้น ก็ได้ยินเสียงคำรามยาวมาจากทางด้านทะเล โมริตะคาวาสึบาเมะเหยียบอยู่บนว่าวขนาดใหญ่ กำลังลอยมุ่งตรงมายังชายฝั่งนี้

“มัวยืนมองหาพระแสงอะไร รีบตั้งแถวค่ายกล นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์