สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 886

“เสวียนเอ๋อร์!”

ดวงตาของเย่จิ่งอวี้แทบจะหลุดออกจากเบ้า ตะโกนด้วยความโกรธ ตามด้วยเสียงอันดุดันจากกระบี่ยาว

ปราณกระบี่ขนาดมหึมาเจาะทะลุผีแคระตงหลิวโดยตรง แต่กลับเหมือนแทงถูกสำลี ไม่อาจทำลายได้เลย

เย่จิ่งอวี้ตกใจและโกรธจัด ปลายกระบี่ที่อยู่ในมือกวัดแกว่งรวดเร็ว และภายในพริบตา ก็แทงกระบี่เข้าไปอีกหลายครั้ง

เจ้าสำนักเซี่ยวและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน เพิ่มกำลังภายในจนถึงขีดสุด ทุ่มกำลังโจมตีตำแหน่งสายฟ้า

เย่จิ่งหลานที่อยู่ข้างหลังก็สบถลั่น “โคตรแม่มเอ๊ย ปล่อยอินชิงเสวียนคืนมานะ”

เขาบรรจุกระสุนอย่างคล่องแคล่ว ยกมือขึ้นยิงหลายนัด แต่ก็เหมือนก้อนหินจมลงทะเล ไม่เกิดคลื่นใดๆ ด้วยซ้ำ

ในเวลานี้ อินชิงเสวียน ได้เข้าสู่ค่ายกลแล้ว และทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

จู่ๆ ชาวตงหลิวที่อยู่ข้างหน้าก็ได้หายตัวไป ถูกแทนที่ด้วยสุสานกระบี่ที่เป็นสนิม

อินชิงเสวียนเคยได้ยินเกี่ยวกับความลึกลับของค่ายกลแปดทิศ จึงไม่แปลกใจมากนัก หากนางเดาไม่ผิด ในเสี้ยววินาทีต่อมากระบี่เหล่านี้อาจโจมตีนาง

และเป็นจริงเช่นนั้น กระบี่เริ่มสั่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเสียงโลหะปะปนกันไป

อินชิงเสวียนเปิดมิติทันที หมายจะเข้าไปข้างใน แต่ระบบแจ้งว่ามิติบิดเบี้ยว ไม่สามารถเข้าไปได้ หากเขาเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจทำให้มิติพังทลาย

ให้ตายเถอะ เข้าไม่ได้อีกแล้ว?

ดวงตาของอินชิงเสวียนเบิกกว้าง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเฟี้ยว และมีกระบี่เล่มหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านหลัง

อินชิงเสวียนใช้ความเร็วของมิติหลีกเลี่ยงคมกระบี่ทันที โชคดีที่ยังสามารถใช้ได้ นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย

อย่างไรก็ตาม โดยไม่รอให้นางได้ดีใจนาน กระบี่เล่มที่สองที่สามก็พุ่งออกมาติดๆ กัน

อินชิงเสวียนเหาะหลบ แต่ยิ่งมีเสียงกระบี่สั่นกึกๆ มากขึ้น ดูเหมือนว่ากระบี่จะติดตั้งระบบตรวจจับไว้ มันพุ่งมาหาอินชิงเสวียนไม่หยุด

เมื่อมองดูกระบี่ยาวนับหมื่นที่อยู่ข้างหลัง อินชิงเสวียนก็รู้สึกชาวาบที่หนังศีรษะ

เมื่อเย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ได้ยินเสียงพิณ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกันมาก

สามารถเล่นพิณได้ งั้นก็หมายความว่าอินชิงเสวียนไม่เป็นไร บางทีอาจสามารถทำลายค่ายกลแปดทิศจากภายในได้

“อาอวี้ จิ่งหลาน พวกเจ้าอย่าเพิ่มโหมโจมตี เราคอยลงมือตามสถานการณ์เถอะ”

เจ้าสำนักเซี่ยวถอนกำลังภายในกลับคืน ดึงสองพี่นองตระกูลเย่ออกมา จากนั้นเย่จิ่งหลานจึงนึกขึ้นได้ว่าอินชิงเสวียนมีมิติ ยัยเด็กบ้านั่นคงไม่ตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ

เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “มีคนตงหลิวหลายร้อยคน นางจะรับมือเพียงลำพังได้อย่างไร เราต้องคิดหาทางช่วยเสวียนเอ๋อร์ออกมา”

เย่จิ่งหลานก้าวเท้าออกไป ตบไหล่เขาเบาๆ ปลอบโยนว่า “เสด็จพี่ไม่ต้องกังวล หากมีอันตรายรุนแรง อินชิงเสวียนคงจะเข้าไปในมิติ”

เย่จิ่งอวี้ตกใจไปครู่หนึ่ง เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ครั้นได้ยินดังนี้ก็รู้สึกโล่งใจ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่แท้จริงในค่ายกลนั้น กลับอันตรายอย่างยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์